mindcyber 1 month ago
admin #holy

เส้นทางอริยะ ตอนที่ 5

สรรพสัตว์มีโรคมาก

           สรรพธรรมเกิดที่จิต

แพทย์สวรรค์มียาดี

           เทพพุทธมีมรรคดี

อรหันต์จี้กงเสด็จลงประทับทรง วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2525

กลอนนำเสด็จ

บารมีพุทธธรรม             สรรพโรคล้วนจิต

ขจัดโรคโกรธหลง         ชีวิตสุดประเสริฐ

นำรักษาโรคโง่ติด           คิดฟุ้งซ่านพาเตลิด

คงไว้แต่ใจที่เลิศ             สุขังนิจนิรันดร์เอย

อรหันต์จี้กง : ฮาฮ้า! อาตมามาที่นี่อีก เป็นบรรยากาศที่เซี้ยเต็กตึ้งเปลี่ยนแปลงไป ดูสานุศิเษย์แล้วดีใจมาก เพราะล้วนเป็นผู้ปฏิบัติธรรมที่แท้จริง อาตมาขออนุโมทนาด้วยก็ขอถือโอกาสนี้กล่าวคำที่หายากสักหน่อย เพื่อสอนให้พวกเราฟัง ให้รู้สิ่งที่ดีงาม ที่นี่เป็นศาลเจ้าสำนักธรรมเพื่อเผยแผ่ธรรมะ และก็ให้รู้ว่าที่นี่มีเจ้าที่ควรแก่การคารวะ มิใช่มีไว้ให้ผู้คนหลงงมงาย เอาแต่ถามเรื่องโชคเคราะห์ สำนักธรรมเป็นที่สะอาดสงบ เป็นที่ให้ฝึกปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สำหรับปุถุชนที่ยังไม่เข้าใจหลักธรรมจะได้ฝึกฝนแก้ไข เพื่อไม่ให้หลงงมงาย เชื่อมั่นในเหล่ามารนอกรีต ซึ่งอาศัยไสยศาสตร์แสดงมายากล ทำให้จิตใจไขว้เขว ปัจจุบันสำนักธรรมดีเลวไม่เท่ากัน ที่สำคัญขึ้นอยู่กับผู้บริหาร ต้องรักษาความถูกต้องเอนเอียงไม่ได้แม้แต่น้อย เป็นผู้รับภาระหนัก อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย ธรรมาจารย์ก็คือ อาจารย์จากสวรรค์ พุทธคุณก็คือ คุณธรรมจากสวรรค์ ต้องสามารถรอบรู้ มักง่ายไม่ได้มีความวิริยะในการดำรงความเพียรธรรม ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่มายังสำนัก ล้วนได้รับบารมีจากพุทธคุณ ต้องมองให้ทะละปรุโปร่งในเรื่องทั้งปวง โลกีย์สุขทั้งหลายไม่อาจเสพได้ถึงร้อยปี โภคทรัพย์จะมีมากแค่ไหนก็ไม่พ้นกรรมลิขิต มีจำกัดเว้นเสียแต่มีการปฏิบัติและฝึกฝนอย่างจริงจัง จนกว่าจะรู้แจ้งเห็นจิตจึงจะมีความมั่นใจ อย่ามัวโลภเสพโลกีย์สุขเลย ถึงจะรวยล้นฟ้าก็ไม่พ้นสิ้นลมปราณ แม้นความรักหอมปานน้ำผึ้งก็ยากจักพ้นแยกทาง อย่าหลงระเริงเลยนะ ควรสร้างประโยชน็แก่สังคม ปัจจุบันผู้ปฏิบัติธรรมมักเป็นโรคได้ง่าย นั่นคือคิดอยากจะสำเร็จเทพ พุทธ!

     เอ้อ! อาตมา แม้จะถูกยกย่องให้เป็น “พุทธ” รู้ไหมว่ากว่าจะสำเร็จต้องฟันฝ่าความยากลำบากจนพูดไม่ถูก เมื่อเทียบกับการบำเพ็ญธรรมสมัยนี้แล้ว ง่ายกว่าเป็นไหนๆอย่างอาตมานี้ ถือว่าต้องออกจากบ้านจากสังคม ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน สืบเสาะหาอาจารย์เพื่อเรียนธรรม ในตอนเริ่มแรกก็มีคนหัวเราะเยาะเย้ย เมื่อสุดทุกข์จึงจะสุข จึงมีผู้ยกย่องอาตมา ปัจจุบันหากมนุษย์ไม่มีความสัมพันธ์กัน คุณธรรมแปดก็ขาดๆแหว่งๆ (มนุษย์ขาดศีล) เมื่อมนุษย์ขาดคุณธรรมแล้วจะเป็นเทพ พุทธ ได้อย่างไรกันเพราะฉะนั้น อาตมาจะขอเตือนพวกเรา การปฏิบัติธรรมหากยึดมั่นในกตัญญูมีความจงรักภักดีให้ถึงที่สุดแล้ว เมื่อถึงวาระสุดท้ายที่จะสนองผลแล้วจะต้องมีชื่อของเธออยู่อย่างแน่นอน ถ้าหากยังโลภอยู่กับการเสพสุข ฝากตนเข้าวัด สร้างผลประโยชน์โดยเอาวัดบังหน้า ก็จะมีบาปมหาศาล ขอพวกเราจงเข้าใจ ตั้งแต่โบราณมาแล้วเมื่อจนก็พลิกแพลง พลิกแพลงไปสู่ความเหมาะสมโชคร้ายสิ้นสุดลงโชคดีก็มาหา เมื่อสุขสิ้นสุดลงความทุกข์ก็เทมาหา เมื่อความเงียบสิ้นสุดลงความคิดก็เคลื่อนไหว และเมื่อความเคลื่อนไหวสิ้นสุดลง ความเงียบก็เข้าแทนที่ เป็นกฎธรรมชาติ หากจะรอให้เข้าใจแจ่มแจ้งก็อย่าทุจริตฉ้อโกงหลอกลวง เมื่อหมดความปราชัยก็จะประสบความสำเร็จเอย

หยางเซิง : ท่านอาจารย์บรรยายได้ดีมาก! เราจะไปที่ไหนกันละ?

อรหันต์จี้กง : วันนี้คงไปที่โรงพยาบาลสวรรค์ ไปเยี่ยมผู้ป่วยอีก

หยางเซิง : เมื่อก่อนท่านอาจารย์ช่วยรักษาโรคในเมืองมนุษย์ตอนนี้ยังคิดไปรักษาโรคจิตแก่ผู้วายชนม็ ในเมื่อเมืองสวรรค์ความสามารถของอาจารย์ดั่ง “หัตถ์ทิพย์พิสดาร” เมื่อโรคถึงมืออาจารย์ “สรรพโรคปราบเรียบ”

อรหันต์จี้กง : สรรพสัตว์มีโรคมาก แต่ละประเทศได้พัฒนาค้นคว้าผลิตยา ทดลองภายใต้ห้องแลป เภสัชกรต่างวิริยะอุตสาหะ ผลิตยาใหม่ๆเพื่อเพิ่มความสุขสบายให้แก่มวลมนุษยชาติ ทำให้ชีวิตยืนยาว หากแต่สรรพสัตว์มีถึงแปดหมื่อนสี่พันโรค พุทธก็มีแปดหมื่นสี่พันธรรมขันธ์ เพื่อบำบัดรักษาในพระสูตร “บรรเทาทุกข์สู้การป้องกันง่ายกว่า การรักษาโรคสู้ป้องกันโรคไว้ก่อนจะดีกว่า” ดังนั้น นักปราชญ์ขอโชคลาภตั้งแต่ยังไม่มีนิมิต และระวังป้องกันเคราะห์ตั้งแต่ยังไม่เกิด อย่ามัวคิดว่าเป็นกุศลเล็กๆน้อยๆ โดยไม่ใส่ใจทำแต่กลับทำบาปเล็กๆน้อยๆโดยคิดว่าไม่เป็นไร โดยไม่เฉลียวหรอกว่า ถ้าไม่สะสมบุญทีละน้อยๆแล้วจะสำเร็จมหากุศลได้อย่างไรกัน ตรงกันข้าม ถ้าไม่หยุดก่อบาปเล็กบาปน้อยนานๆเข้ากลายเป็นบาปหนัก ดังนั้น จึงจะลำดับโรคทางจิตให้ฟังสักร้อยชื่อ เพื่อให้แต่ละคนได้สำรวจตรวจตราว่ามีโรคอยู่หรือไม่ โรคจิตต้องรักษาด้วยจิต ด้วยยาทางจิตหรือจะรอจนกว่าจะได้วิธีที่ดีเสียก่อนค่อยรักษาอย่างนั้นหรือ! ผลการรักษาก็ขึ้นอยู่กับความศรัทธา เป็นการป้องกันการเป็นโรคได้อย่างสุขุม ไม่มีโรคเบียดเบียนแม้แต่น้อย ไม่ทำให้เจ็บปวดทรมาน ไร้กังวล ไร้เคราะห์ร้าย รับประกันชีวิตจะปลอดภัย เป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ ขอผู้ฉลาดจงพากเพียร!

     มนุษย์ร้อยโรค           โรค ยึดถือมั่นในความยินดี ความโกรธ ตามความเห็นของตนเอง

โรค มีความเกลียด ความอยาก อย่างไร้เหตุผล

โรค เห็นผู้อื่นผิด ตนเองถูกเสมอ

โรค ขอให้ตนปลอดภัย คนอื่นฉิบหายช่างมัน

โรค ใช้อำนาจไปในทางมิชอบ

โรค ชอบใช้บารมี บีบคั้น ข่มเหง ผุ้อื่น

โรค ชอบหนีหนี้ ล้มหนี้ ล้มแชร์

โรค ชอบโอ้อวดความดีความชอบของตนเอง

โรค ชอบดูถูก คนแก่ เด็ก และผู้อ่อนแอกว่า

โรค ยกตนข่มท่าน เห็นว่าตนมีความรู้จึงดูถูกคนอื่น

โรค เพราะตนเองยากจน จึงอิจฉาคนรวยกว่า

โรค เพราะตนเหนื่อยยากจึงโทษ ฟ้า – ดิน

โรค ถือความคิเห็นตนเองเป็นใหญ่

โรค ชอบทำผิดทำนองคลองธรรมอย่าางร้ายแรง

โรค ชอบปัดความรับผิดชอบให้ผู้อื่น

โรค ชอบนินทาความผิดของผู้อื่น

โรค ไม่ยอมอภัยให้คนอื่น

โรค ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

โรค ชอบได้เงินโดยไร้สัจจะ

โรค ปล่อยให้ความโลภ ปกปิดความชั่วของตนเอง

โรค ชอบเห็นผู้อื่นผิดตนเองถูกเสมอ

โรค ชอบเปลี่ยนแปลงโดยพลการ

โรค ชอบรังแก พวกหม้าย กำพร้า

โรค ชอบใช้อารมณ์ โมโหร้าย

โรค ชอบคบคนชั่ว

โรค ชอบโอ้อวดผลบุญตนเอง

โรค ชอบใช้กำลังเอาชนะผู้อื่น

โรค รวยแล้วชอบข่มเหงผู้อื่น

โรค ชอบทำร้ายผู้อื่น โดยไร้เหตุผล

โรค ชอบปั้นน้ำเป็นตัว ชอบกล่าวเท็จ

โรค เอาเรื่องส่วนตัวทำลายเรื่องส่วนรวม

โรค ชอบปกปิดความชั่วตนเอง

โรค ชอบเอาชนะโดยการทะเลาะวิวาท

โรค ชอบวิจารณ์ ดี – ชั่ว ของผู้อื่น

โรค ให้ทานโดยหวังตอบแทน

โรค พอเห็นของก็อยากได้

โรค ชอบเสพกามโดยผิดศีลธรรม

โรค คนโง่ชอบอวดฉลาด

โรค ชอบอาศัยผู้อื่นยกย่องตนเอง

โรค พอใจเสียอย่างแม้จะผิด

โรค พอใจในอารมณ์ของตนเอง ไม่ว่าจะดีใจหรือโกรธ

โรค มีหนี้ไม่คิดจะชดใช้

โรค ตนหลงผิดแล้วยังชักชวนให้ผู้อื่นหลงผิดตาม

โรค ชอบทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น

โรค ชอบทำลายผู้อื่นโดยตรง

โรค เอาบุญวาสนาตนดูถูกผู้อื่น

โรค ขี้ระแวง

โรค ชอบประจบสอพลอผู้มีอำนาจ

โรค ชอบยุแหย่ติเตียนผู้อื่น เพื่อให้ตนเองเป็นที่รัก

โรค ชอบกล่าวโทษนั่น โทษนี่ (รำไม่ดีโทษปี่ โทษกลอง)

โรค ชอบใช้ศัพท์สูงเพื่อแสดงว่าตนมีความรู้สูง

โรค เกลียดเขาเพราะเขาชนะเรา

โรค ชอบแย่งของผู้อื่นโดยใช้อำนาจ

โรค ชอบเสพยาเสพติด

โรค ไม่ยอมรับคำแนะนำจากผู้อื่น

โรค คนในไม่ให้สนิท แต่กลับไปสนิทคนภายนอก

โรค ชอบเยาะเย้ยคนบ้า

โรค ไม่มีสัมมาคารวะ

โรค ชอบพูดจาหยาบคาย

โรค ชอบยุให้เขาฆ่ากัน

โรค ชอบเมาอาละวาด

โรค ชอบแอบดู

โรค ชอบอาฆาตมาดร้าย

โรค ชอบเกี้ยวพาราสี

โรค ยุให้แตกร้าว

โรค ยุให้คนทำบาป

โรค ความรักทำให้ตาบอด

โรค ชักจูงให้เกลียดผู้อื่น

โรค ยังฝังใจในแค้นเก่า

โรค เขียนใส่ร้ายผู้อื่น บัตรสนเท่ห์

โรค ชอบเยาะเย้ยพวกคนใบ้ ตาบอด

โรค เกลียดสิ่งที่ดีงาม อคติ

โรค ลิ้นสองแฉก พูดกลับไปกลับมา

โรค ชอบหัวเราะเยาะผู้อื่น

โรค ชอบขัดแย้งกับผู้อื่น

โรค ชอบด่าลมด่าฝน

โรค ขี้บ่น

โรค ชอบทำให้เด็กเกิดมาพิการ

โรค ทำลายคู่เขา

โรค ทำลายความรักผู้อื่น

โรค อิจฉา

โรค จิตฟุ้ซ่าน

โรค ชอบกล่าวหาให้ร้ายคนที่มีความรู้กว่า

โรค ยกย่องตนเองเป็นคนดีเพื่อยกระดับ

โรค หัวเราะคนโง่

โรค ชอบจู้จี้

โรค ประจบสอพลอ

โรค ชอบพูดให้ชนะผู้อื่น

โรค ชอบใช้อำนาจตามอารมณ์

โรค ชอบกล่าวร้ายป้ายสี

โรค ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน

โรค ชอบทำแท้ง

โรค ชอบโจมตีความสำเร็จของผู้อื่น

โรค ชอบยุยงให้เกิดความฉิบหาย

โรค ชอบยุให้เขาตีกัน

สวรรค์ก็มียาถึงร้อยขนาน

ความกตัญญูรักพี่รักนัอง เป็นยา

ความเคารพนับถือนอบน้อม เป็นยา

การยึดมั่นในบุญกุศล หลีกเว้นกามคุณ เป็นยา

ความสงบเสงี่ยมเจียมตน ถือสัจจะ เป็นยา

ความร่าเริงรู้จักชีวิต เป็นยา

ให้ความอบอุ่นกับภรรยาและคนในครอบครัว เป็นยา

สั่งสมบุญกุศล มีความเมตตาปรานี เป็นยา

เชิดชูคุณงามความดี สร้างสาธารณประโยชน์ เป็นยา

ประพฤติดีละชั่ว เป็นยา

ช่วยบรรเทาเคราะห์ ปลดทุกข์ เป็นยา

ให้ความเคารพผู้สูงอายุ เป็นยา

มีใจสัตย์ซื่อ เพื่อเขาใว้วางใจเรา เป็นยา

เอาความซื่อชักชวนพวกคด เป็นยา

ช่วยเหลือผู้เฒ่า เอื้อเฟื้อผู้เยาว์ เป็นยา

แก้ไขอธรรมละความชั่ว เป็นยา

มีตำแหน่งสูงแต่ไม่ถือตัว เป็นยา

พูดจาอ่อนหวาน นุ่มนวล เป็นยา

รู้อภัยใจเบิกบาน เป็นยา

ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ เป็นยา

อบรมสั่งสอนผู้โง่เขลา เป็นยา

รักษาความสงบไว้เสมอๆ เป็นยา

มีความยินดีที่กล่าวถึงบุญกุศลของผู้อื่น เป็นยา

ยกย่องให้คุณงามความดีผู้อื่น เป็นยา

มีความเบิกบานคลายความอยาก เป็นยา

คิดแต่สิ่งอันเป็นกุศล เป็นยา

ไม่รำลึกถึงอกุศลเก่าๆ เป็นยา

ไม่ทะเลาะวิวาท เป็นยา

ไม่คิดขโมย เป็นยา

ไม่อวดอ้างความดีของตน เป็นยา

ไม่คิดปองร้ายผู้อื่น เป็นยา

ไม่โกหกมดเท็จ เป็นยา

ไม่คิดด่าทอ เป็นยา

ไม่ห่วงไม่กังวล เป็นยา

เมื่อร่ำรวยก็คิดช่วยเหลือผู้อื่น เป็นยา

ไม่ว่าจะสงบหรือเคลื่อนไหว ล้วนมีเหตุผล เป็นยา

ถ่อมตนให้เสมอผู้ต่ำกว่า เป็นยา

จงดีต่อผู้บาป เป็นยา

ห่างจากการกระทำชั่ว เป็นยา

สามารถทนต่อการกล่าวร้าย เป็นยา

ดำรงความดี ไม่ยุ่งในความชั่ว เป็นยา

ไม่พยาบาทบ่าวเลว เป็นยา

เมื่อมีวาสนาก็ให้ความอบอุ่นผู้อื่น เป็นยา

ไม่โยนความผิดให้ผู้อื่น เป็นยา

ให้ผู้อื่นได้กินอิ่มอร่อย เป็นยา

รู้จักประหยัด เป็นยา

ยามว่างก็ไม่คิดออก เป็นยา

รู้จักยกย่องผู้ปราชญ์ เป็นยา

จิตเรียน ธาตุ สงบ เป็นยา

จิตเฝ้ามองธรรม เป็นยา

ไม่สะสมทรัพย์สมบัติ เป็นยา

ไม่เก็บจำบุญคุณผู้อื่น เป็นยา

ไม่ชอบกล่าวร้าย เป็นยา

ไม่คิดอ้อนวอนเขา เป็นยา

เมื่อพบผู้ปราชญ์ให้สำรวจตนเอง เป็นยา

มีสัมมาคารวะต่อผู้อื่น เป็นยา

พูดจาถ่อมตน นอบน้อม เป็นยา

เวทนาต่อหม้าย และกำพร้า เป็นยา

มีความมักน้อย เป็นยา

เผยแผ่ความดียับยั้งความชั่ว เป็นยา

ขจัดความโกรธโดยให้ความรัก เป็นยา

เกื้อกูลคนแก่และเด็ก เป็นยา

รู้จักเอาชนะใจตนเอง เป็นยา

ให้ธรรมทานเพื่อขจัดความหลง เป็นยา

มีเมตตากรุณาและความรัก เป็นยา

เมื่อมีทุกข์ เคราะห์ ให้สำรวจตนเอง เป็นยา

ไม่เปิดเผยความเลวของผู้อื่น เป็นยา

มีน้ำใจโอบอ้อมอารี เป็นยา

ไม่มีใจริษยา เป็นยา

ไม่คอยจับผิดผู้อื่น เป็นยา

ไม่อิจฉาความสวยงามของผู้อื่น เป็นยา

ไม่คิดหนีหนี้ เป็นยา

ไม่ทำอวดใหญ่ เป็นยา

ไม่วิจารณ์ผู้อื่น เป็นยา

พูดจาซื่อสัตย์ สุจริต เป็นยา

ดำรงชีพให้สมฐานะ เป็นยา

มีความสันโดษ เป็นยา

ไม่มีจิตคดโกง เป็นยา

ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นยา

ไม่คุยโอ้อวด เป็นยา

ไม่เฉื่อยชาในการงาน เป็นยา

มีความศรัทธาในพระพุทธ เป็นยา

มีความซื่อสัตย์ต่อเพือน เป็นยา

มีความเชื่อมั่นในพระธรรม เป็นยา

มีสัมมาสติ เป็นยา

ไม่เค้นหาความถูกผิด เป็นยา

ไม่เบื่อหน่ายในการสร้างกุศล เป็นยา

ได้หรือเสียก็ไม่ติดยึด เป็นยา

ให้ความสะดวกแก่ผู้อื่นเสมอ เป็นยา

ให้ทานโดยไม่คิดตอบแทน เป็นยา

รู้โอกาสรู้จักพอ เป็นยา

ไม่เที่ยวโสเภณี เป็นยา

แม้ทุกข์ยากก็ไม่โกรธแค้น เป็นยา

ไม่ด่าทอ พูดคำหยาบ เป็นยา

ไม่ซ้ำเติม ผู้ถูกรังแก เป็นยา

ช่วยเหลือกิจการ การกุศล เป็นยา

     ในพระสูตร “นักปราชญืโบราณว่า เพื่อการกุศลแม้เพียงเล็กน้อยก็เทิดทูน ต่อบาป แม้เพียงเล็กน้อยก็ต้องแก้ไข”การแก้ไขบาปก่อกุศลเป็นอาหารยาอย่างดี

หยางเซิง : ท่านอาจารย์ยกตัวอย่างโรคร้อยประเภทของมนุษย์และยาสวรรค์ร้อยขนาน ศิษย์นึกไม่ถึงว่า นอกจากโรคทางกายแล้ว ย้งมีโรคอื่นๆที่ถูกมองว่าเป็นโรคในชีวิตประวจำวันอีกมาก

อรหันต์จี้กง : ถึงแม้จะเป็นโรคธรรมดา แต่ถ้าเป็นนานๆ ก็จะลุกลามเข้าถึงไขกระดูกได้ เจ็บป่วยเล็กน้อยไม่รักษาเมื่อลุกลามใหญ่โตแล้วก็ช้วยชีวิตยาก เจ้าหยางเซิงขึ้นบนบัวอาสน์เถิด เตรียมตัวออกเดินทางไปยังโรงพยาบาลสวรรค์

หยางเซิง : ขอรับ! กระผมนั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ออกเดินทางเถิดขอรับ!

อรหันต์จี้กง : ...ถึงโรงพยาบาลสวรรค์แล้ว ทั้งนี้เกี่ยวข้องกับผลสำเร็จที่ต่างกันของมนุษย์ภายหลังการตายแล้ว ดังนั้นจึงต้องพิถีพิถันในการสำรวจหน่อย... อ๋อ ท่านผู้อำนวยการมาถึงแล้ว

ผู้อำนวยการ : ยินดีต้อนรับท่านทั้งสอง ที่มาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง

หยางเซิง : ขอทานผู้อำนวยการให้ความสะดวก ช่วยอธิบายเกี่ยวกับการรักษาผู้เจ็บป่วยด้วย

ผู้อำนวยการ : เขาเป็นผู้กล้าหาญ สละชีพเพื่อชาติ วิญญาณลอยขึ้นสูสวรรค์ เป็นเพราะกายเนื้อได้รับบาดเจ็บ วิญญาณยังมีสัญญาแห่งความเจ็บปวดอยู่ ดังนั้น เมื่อมาถึงที่นี่จึงต้องให้การรักษาก่อน เพื่อให้สภาวะจิตที่รู้สึกเจ็บปวดให้หายเสียก่อนภายหลังจึงส่งวิญญาณไปตามผลกรรม

หยางเซิง : คนตายแล้วยังต้องรับการรักษา เหตุผลเช่นนี้เกรงว่าชาวโลกมิอาจยอมรับ ท่านผู้อำนวยการจะสามารถอธิบายให้กระจ่างแจ้งได้ไหม?

ผู้อำนวยการ : ได้ครับ การจัดตั้งโรงพยาบาลสวรรค์มิใช่เป็นการเกิดใหม่ ร่างการที่มีการเจ็บปวดวิญญาณต้องมารับการรักษาที่นี่ นอกจากผู้ปฏิบัติธรรมที่จิตวิญญาณมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับการตาย เปรียบประดุจธาติทั้งสี่ที่ประชุมกันเป็นกายเนื้อ เหมือนเสื้อผ้า เมื่อตายลงก็เหมือนถอดเสื้อผ้าทิ้งย่อมไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างไร แต่ว่ามีคนบางคนที่มีการฝึกฝนยังไม่ถึงขั้น เมื่อมีการเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บร่างกายได้รับการเจ็บปวด บางครั้งจะมีความรู้สึกเจ็บปวดทรมานที่มิอาจจะลืมเลือนได้ และก็ยังฝังความทรงจำนั้นไว้แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม ก็ยังไม่ลืมเลือน ดังที่เราเคยได้ยินบ่อยๆว่ามีผู้ได้ยินเสียงร้องไห้ของผีอยู่เนืองๆ ดังนั้น แต่ละศาสนาจึงมีพิธีสวดศพเพื่อให้วิญญาณผีได้สงบลงบ้าง และค่อยๆปรับจิตให้เข้ากับภพใหม่ดุจดังทารกน้อยเมื่อเกิดมาสู่โลกใหม่ๆระยะเริ่มแรกที่ยังไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมยังตั้งตนมิได้ ต้องอาศัยการเลี้ยงดูของมารดาจนค่อยๆเติบใหญ่จนสามารถยังชีพอยู่ได้ด้วยตนเอง มีอิสระที่จะดำรงอยู่ในโลกใหม่ได้ อย่างเช่น ถ้าหากทารกเกิดใหม่ที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง ต้องอาศัยแพทย์ประคบประหงมเป็นพิเศษ จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติได้ มนุษย์เมื่อสิ้นชีวิตลงไปสู่ภพใหม่ก็เหมือนทารกน้อยจำเป็นต้องได้รับการดูแลสักระยะหนึ่งก่อนเพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ถ้าหากผู้สิ้นชีวิตลงด้วยการเจ็บป่วย หรือได้รับบาดเจ็บ ปกติไม่เคยได้รับการอบรม และไม่รู้ว่าการตายคืออะไรแล้ว เมื่อตายลงวิญญาณก็มิอาจหลีกเลี่ยงจากการเจ็บปวดทรมานสักระยะหนึ่งก่อน และเพราะเป็นวิญญาณกุศล สวรรค์จึงจัดตั้งโรงพยาบาลสวรรค์ขึ้น เพื่อช่วยวิญญาณกุศลนี้ (ซึ่งในช่วงนี้วิญญาณยังมีสัญญา คือความทรงจะซึ่งติดตามมาจากโลกมนุษย์) จำเป็นต้องได้รับการรักษาค่อยๆพูดเพื่อให้พวกเขาลืมเลือนจากกายเนื้ออันจอมปลอม กลับคืนสู่หน้าตาที่แท้จริงดั้งเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้จึงสามารถมีสุขภาพที่ดี ที่จะอยู่อ่ย่างสุขสบายในสวรรค์ ข้าพเจ้าคิดว่า บรรดาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางประสาทก็ดี จิตแพทย์ก็ดี ก็คงจะสนับสนุนเหตุผลข้อนี้ถึงแม้ว่าเมื่อคนตายแล้วทุกอย่างสูญเปล่า แล้วยอมรับว่ายังมีวิญญาณเหลืออยู่ ซึ่งการพูดเช่นนี้ย่อมไม่เป็นที่ยอมรับก็ได้ใช่ไหม ถ้าเป็นเช่นนี้ก็คำพูดที่ว่า “วิญญาณในสรวงสวรรค์” ก็ย่อมไม่มีผลตอบสนองอื่นใดแล้ว ซึ่งผู้ที่คิดเช่นนี้ เป็นผู้ที่น่าสมเพชอย่างยิ่ง คนเหล่านี้มีชีวิตอยู่ในโลกนี้มาหลายสิบปีแล้วน่าจะมีความก้าวหน้าบ้าง ควรสืบแสวงหาชีวิตนิรันดร์ เพื่ออยู่เคียงคู่กับเหล่าเทพ พุทธ ผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลร่วมกับแสงสว่างแห่งสุริยันจันทรา! อันที่จริงแล้ว เมื่อคนตายแล้ววิญญาณจะไม่ดับสูญ เพียงแต่เปลี่ยนชีวิตในสิ่งแวดล้อมใหม่ เปรียบประดุจกับฝูงชนที่ย้ายถิ่นฐาน ดังนั้น การพยาบาลสวรรค์ก็เพื่อพูดให้เหล่าวิญญาณให้เข้าใจ ได้รับความช่วยเหลือซึ่งเป็นหน้าที่ของสถานพยาบาลแห่งนี้

หยางเซิง : อ๋อ เป็นเช่นนี้เอง ในสามภพนี้เมื่อตายแล้วก็เกิดใหม่เป็นการเปลี่ยนสภาพรูปร่างอาภรณ์เท่านั้นซิ แล้วหน้าตาของเหล่าเทพ พุทธ ที่อยู่ในโลกมนุษย์นั้นคงต่างกันกระมังที่ไม่เหมือนกันก็คือ เหล่าเทพ พุทธ จะมีหน้าตาที่ดูเป็นผู้เปี่ยมท้นไปด้วยความเมตตากรุณายิ่งขึ้น แล้วพวกผีสางก็จะมีหน้าตาที่ดูน่าเกลียดน่ากลัวมากขึ้น เท่านั้นเอง!

อรหันต์จี้กง : ท่านผุ้อำนวยการได้บรรยายเหตุผลอันแยบยลชาวโลกที่ไม่เคยได้ยินก็จะได้เข้าใจถึงสภาพของภพภูมิต่างๆในจักรวาลได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หยางเซิง : ผู้ป่วยคนนี้ทำไมจึงนั่งเงียบอยู่ในห้องๆหนึ่ง หน้าตายิ้มแย้ม เพ่งมองอยู่กับองค์พระพุทธรูป ศรีอาริยเมตไตรยทำไม?

ผู้อำนวยการ : ผู้นี้เป็นนักปฏิบัติธรรม และถูกคนเยาะเย้า พูดจาเสียดสี โทสะมิอาจระบายออกไปได้ เมื่อตายลงก็ได้รับการรักษาทางจิตอยู่ที่นี่ ท่านหยางเซิงจะสัมภาษณ์ดูก็ได้

หยางเซิง : ขอเรียนถามท่านผู้อาวุโส ทำไมท่านได้แต่ยิ้มแย้มอยู่กับองค์พระพุทธรูป ศรีอาริยเมตไตรยเล่า

วิญญาณกุศล : โอ้! พูดแล้วเรื่องยาวนะ ข้าพเจ้าปฏิบัติธรรมถือมังสวิรัติ มักได้รับการดูแคลนจากญาติมิตรเสมอ หาว่าข้าพเจ้างมงาย ปัญญาอ่อน นับถือสิ่งไร้สาระ... และก็รู้สึกตนเองว่าทั้งชีวิตมุ่งแต่การกุศล แล้วทำไมผู้คนจึงไม่เข้าใจเหตุผล ใจก็เกิความโกรธแค้น อัดอั้นตันใจ ไม่คิดอยากทานข้าว ร่างกายก็ทรุดโทรมลง ประจวบกับมีโรคหัวใจอยู่ด้วยจึงได้ตายลง วิญญาณจากโลกมนุษย์แล้ว แต่ความโกรธแค้นยังไม่จางคลาย แม้ก่อนตายจะได้สะสมบุญมาบ้าง แต่สภาพจิตใจไม่สดใส (จิตมีอวิชชา) ดังนั้น จึงยังไม่ได้รับผลกรรม ต้องมารักษาสภาพจิตที่นี่ก่อน ที่นี่ต้องการให้ข้าพเจ้าได้ฝึกฝนสภาพจิตอันกว้างขวางของพระศรีอาริยเมตไตรยดุจจักรวาลสามารถบรรจุไว้ในท้องได้หมด ดังคำพูดที่ว่า       “ท้องใหญ่พอที่จะรองรับทุกเรื่อง โอษฐ์ก็แย้มสรวลต่อทุกข์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน” ทุกวันนี้ก็ได้แต่พบหน้าท่านพระศรีอาริยเมตไตรย เพื่อพิจารณารสธรรมนี้ ตอนนี้ข้าพเจ้าค่อยๆเข้าใจถึงความคิดอันโง่เขลาเมื่อก่อนนี้ และปัจจุบันนี้จิตใจข้าพเจ้าสดใสขึ้นแล้ว...หวังว่าผู้คนอย่าได้คิดแบบข้าพเจ้าเหมือนเมื่อก่อนเลย ในสภาพความเจ็บป่วยนี้จะดำรงสุขภาพให้ดีได้อย่างไรในโลกมนุษย์? ยิ้มไว้โดยไม่แคร์ว่าจะถูกเยาะเย้ย เมื่อเข้ายิ้มเยาะเราก็ยิ้ม มหาสัทธรรมก็จะสูงขึ้น!

ผู้อำนวยการ : ธรรมะของเขาก้าวหน้าไปมากแล้ว ขอชาวโลกดูเข้าเป็นตัวอย่าง ฝึกฝนดังพระศรีอาริยเมตไตรย

อรหันต์จี้กง : วันนี้เยี่ยมเยือนเท่านี้ก่อน หยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก

หยางเซิง : ขอรับ! ขอบพระคุณที่ท่านผู้อำนวยการที่ชี้แนะขอลาไปก่อน!

อรหันต์จี้กง : สำนักเซี้ยเต็กตึ้งถึงแล้ว หยางเซิงลงจากบัวอาสน็ได้ วิญญาณกลับเข้าร่าง

0
111

กตัญญูคือหลักบำเพ็ญธรรม

หน่ำไห้โก๊วฮุก

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

โปรดเวไนย์

พระไต่ฮงกง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ครั้งที่ 18 ตอน ท่องนรกน้อยแดนแขวนหัวทิ่ม

1654918052.jpg
mindcyber
5 months ago
video

การ์ตูนอนิเมชั่น เรื่องพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ตอนอานิสงส์ของ...

admin
mindcyber
2 years ago

วิถีแห่งโอสถทอง

พระเจ้าหลี่ตงปิง (หลื่อโจ้ว)

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago