“คนเลือดร้อนต้องห้ามต่อสู้ จะได้ไม่ตายโหงเสียใจเมื่อสาย”
องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า
ฆาตกรรมบาปหยาบยากมลาย
แม้กฏหมายโทษก็หารุนแรงไม่
สภาพเลวร้ายต่อสู้กลอุบาย
ตราบชีพวายม้อยมอดทอดถอนใจ
อาจารย์ : ปัจจุบันศีลธรรมเลวร้าย วางแผนกลอุบาย ทั้งมีดทั้งปืนดวนกันจนเป็นคดี ผีตายโหงไม่รู้จะเพิ่มพูนอีกเท่าไร
หยงปี่ : ถูกแล้วครับ ศิษย์เคยเห็นบนท้องถนน ชักมีดชักปืนต่อสู้กัน คนพวกนี้ไม่รู้ว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแปหรือไม่
อาจารย์ : เมื่อมีชีวิตก็หลงสำแดงความห้าวหาญ เลือดร้อนพล่านทำสิ่งเลวร้ายโดยหาเกรงกลัวต่อกฏหมายและเบื้องบนไม่ในที่สุดไม่ตายก็ติดคุก พวกนี้เหลือแต่สังขารผ่านไปวัน ๆ จนกว่าจะถูกฆาตกรรมตาย มีใครที่โหดร้ายแล้วมีบุญวาสนาบ้าง วันนี้อาจารย์จะพาเจ้าไปเที่ยวเมืองตายโหงแดนฆาตกรรม แล้วสอบถามวิญญาณผีที่ถูกฆาตกรรมตายสักตนหนึ่ง ประทานแพรฟ้าปกป้องตัว หลับตาแล้วออกกเดินทาง....ลืมตาได้ แล้ว
หยงปี่ : ที่นี่เหมือนเวทีกายกรรม โอ้ ! ตีกันดุเดือด อาจารย์ครับที่นี่เรียกว่าแดนฆาตกรรมตายใช่ไหม
อาจารย์ : ถูกแล้ว ที่นี่คือเมืองผีตายโหงในแดน 4 แดนขัง 2 เจ้าพูดว่าเหมือนเวทีกายกรรมก็ถูก เพราะพวกเขาตอนมีชีวิตอยู่มีพละกำลังสุดขีด มีเรื่องไปทุกที่ ก็ให้พวกเขาตีให้สมความเจ็บปวด
หยงปี่ : เป็นการสนองตอบทางด้านจิตใจ แต่ว่าพวกเขาตีกันไปเรื่อย ๆจะมีความหมายอะไร
อาจารย์ : พวกเขาไม่อนุญาตให้หยุด ให้ตีกันไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดคนหนึ่งตีคนหนึ่ง ที่สุดก็ไม่รู้ว่าใครตีใคร หากหยุดตี พวกเจ้าหน้าที่ก็จะลากออกมาหวดด้วยแส้ นี่เป็นการลงโทษพวกเขาให้ตีกันไม่ไห้หยุด เพื่อให้พวกเขาเกรงกลัวการทะเลาะต่อยตีกันเพื่อจะได้ลิ้มรสชาติของการเจ็บปวด เพื่อให้พวกเขาได้หวนคิดถึงความโหดร้ายที่กระทำต่อผู้อื่น มีสภาพจิตใจเช่นไร เอาละ เจ้าหน้าที่นำวิญญาณผีมาให้ตนหนึ่ง เจ้าถามไถ่ดูเอง
หยงปี่ : (คำนับขอบคุณเจ้าหน้าที่) ขอถามท่านหน่อยว่ามีชื่อสกุลว่าอะไร ทำไมถูกขังในเมืองผีตายโหงนี่ สาระสำคัญในห้องสอบสวนเป็นอย่างไร
วิญญาณผี : เรียกฉันว่า หวังซื่อเขียน เพราะถูกเขาฆ่าตายใกล้ ๆ กับบ้าน อายุแค่ 23 ปี ที่จริงต้องมีอายุขัยถึง 66 ปี ตลอดชีวิตค่อนข้างมีโชคลาภ เพราะว่าร่ำรวยตั้งแต่วัยหนุ่ม ไม่ได้คิดว่าจะตายใต้คมมีด ทั้งหมดมืดมนไปหมด
หยงปี่ : เจ้าต้องขังในชั้น 2 แดน 2 สภาพภายในเป็นเช่นไร
วิญญาณผี : โอ้ย ! น่ากลัวจัง ทั่วแดน 2 ก็มีแต่พวกอันธพาลหน้าตาถมึงทึงไปหมด หากไม่ระมัดระวังสักนิดก็แย่เลย หากแต่ว่าในแต่ละวันออกไปที่ลานกว้างเพื่อออกกำลัง ก็คือที่ที่ท่านเห็นอยู่ที่นี่แหละคือต่อยตีกัน ร่างกายฉันก็บอบบาง ทนไม่ไหวจริง ๆครับ
หยงปี่ : เฮ้ ! สนุกจริงนะ ต่อยตีกันเรียกว่าออกกำลังกาย อื้ม ! พวกท่านที่จริงก็น่าสงสาร เฮ้ ! ไม่ถูก ในห้องขังพวกเจ้าก็เกิดเรื่องกันไม่ใช่หรือ เจ้าหน้าที่เขาไม่ควบคุมหรือ
เจ้าหน้าที่ : ท่านหยงปี่ จุดนี้ขอให้ผู้น้อยอธิบายเถอะ เพราะว่านิสัยพวกเขาโหดเหี้ยม เมื่อมีชีวิตอยู่ก็เป็นเช่นนี้ ตายแล้วก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพวกเราจึงว่างสบายปล่อยให้พวกเขาเหมือนหมากัดกัน นี่เป็นการตอบสนอง แต่พวกเราก็ระมัดระวังอยู่ โดยเฉพาะพวกโหดเหี้ยมจะเพิ่มโทษเป็นพิเศษ
หยงปี่ : ที่แท้เป็นอย่างนี้ แต่ว่าพวกท่านจะเหมือนในโลกมนุษย์ที่มีการลำเอียงไหม
อาจารย์ : จุดนี้เจ้าวางใจได้ พวกเจ้าหน้าที่จะผ่านการตรวจสอบจากยมโลกแล้ว พวกเขามีความซื่อสัตย์จงรักภักดีกว่าพวกที่อยู่บนโลกมนุษย์ จึงจะมีคุณสมบัติเป็นเจ้าหน้าที่ในเมืองตายโหง
หยงปี่ : กระผมพูดจาไร้มารยาทแล้ว โปรดอภัยด้วย
อาจารย์ : จุดมุ่งหมายของบทนี้ ชาวโลกควรเข้าใจ การเกิดเป็นมนุษย์ต้องถนอมรักร่างกายให้มีประโยชน์ ทำสิ่งที่มีความหมายอย่าหลงสำแดงความเก่งเพราะเลือดร้อน เข้าสู่อันธพาลเมื่อตายโหง จะได้รับโทษทัณฑ์ตอบสนองที่นี่ ถึงตอนนั้นสำนึกได้ก็สายเสียแล้ว จบเพียงเท่านี้ก่อน อาจารย์จะส่งเจ้ากลับสถานธรรม