“ความรักทำให้คนอาวรณ์ สร้างกรรมมาไม่น่าสงสาร”
องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า
รักเป็นพิษคิดแคลนในชีวิต
ที่ผ่านมาฟ้าลิขิตให้กลัดหนอง
โอ้ความรักผู้หลงใหลไม่อาจครอง
ประโยชน์ใดจองแค้นผูกเวรกรรม
อาจารย์ : เมื่อสมัยโบราณมีนางเหมิงเจียนตามหาสามีนับหมื่นลี้ นางร้องไห้จนกำแพงเมืองจีนล้มไปส่วนหนึ่ง รักแท้สะเทือนฟ้าดินได้ ทำให้ผีและเจ้าหลั่งน้ำตา ในทางกลับกัน พวกชายที่เดียวดายและหญิงที่เคียดแค้น ความรักไม่สมหวังจนดูแคลนชีวิต โดยเรียกอย่างสวยหรูว่า “มั่นคงในความรัก” อนิจจาชาวโลกไม่รู้ ความตายไม่ใช่จะเป็นวิธีแก้ปัญหาทุกอย่างได้ และก็ไม่ใช่ว่าปัญหาทั้งหมดจบลงด้วยความตายก็หาไม่ กลับกันกับทิ้งปัญหามากมายให้ลำบากกับคนข้างหลังที่เกี่ยวข้อง มีคำกล่าวว่า การฆ่าตัวตายไม่ได้แสดงถึงความกล้าหาญ แต่เป็นการกระทำของผู้อ่อนแอ
คืนนี้จะพาศิษย์ไปเที่ยวเมืองตายโหง สอบถามผู้ฆ่าตัวตายเพราะความรัก ดูว่าเขาจะได้รับโทษทัณฑ์อะไรบ้าง และสภาพปัจจุบันเป็นเช่นไรเพื่อให้ชาวโลกได้รู้แจ้ง ประทานแพรฟ้าป้องกันตัว หลับตาเสีย ออกเดินทาง....ถึงแล้ว เจ้าลืมตามองดูว่า ทัศนียภาพที่อยู่เป็นอย่างไร
หยงปี่ : ครับผม ที่นี่ดูคล้ายโรงพยาบาลโรคจิต เมืองตายโหงก็มีรังนกคุดคู้หรือ คืนนี้ศิษย์บินข้ามรักนกคุดคู้มาเป็นผู้แสดงนำฝ่ายชายหรือ
อาจารย์ : สวยงามดี หากบินไม่ข้าม ตกลงไปในนั้นก็แย่เลย
หยงปี่ : ยังไงก็ไม่หรอกน่า อี๊ ! วิญญาณผีชายหญิงที่ขังอยู่ที่นี่ ชายก็หล่อเหลา หญิงก็สวยงาม น่ารักจัง ! วัยที่สวยงามหน้าหยกเมื่อความหอมมลายก็เหมือนหยกที่ซีดเซียว พวกเขามีอาการเหมือนคนโรคจิตผมเผ้ารุงรัง นัยน์ตาเหม่อลอยปากก็บ่นพึมพำ คนที่ผิดหวังในความรักก็มีสภาพเช่นนี้หรือ ถ้ารู้แต่แรกผมจะเอาเปลือกกล้วยหอมมาบ้าง มารักษาโรคผิดหวังรักได้นะ
อาจารย์ : โรคที่ผิดหวังในความรักเจ้ารักษาได้หรือ แม้แต่แพทย์เซียนฮั้วท้อกลับมาเกิดก็รักษาไม่หาย เพราะว่าสภาพอาการเช่นนี้ เป็นสภาพอาการก่อนตาย ถูกคุมขังในเมืองตายโหงก็ให้ฟื้นคืนกลับเพื่อให้พวกเขาได้ชิมรสความทุกข์ เจ้าอย่าเห็นว่าสภาพเช่นนี้ก็ไม่สำคัญอะไร พวกเขาไร้สติเช่นนี้ กระทบกระเทือนจิตได้ง่าย เอาชาวโลกมายืนยันขณะที่พบกับการเจ็บปวด กำลังอยู่ในความคิด ตอนนั้นจะไม่รู้สึกอะไร แต่ตอนกลางคืนจะรู้สึกว่าอ่อนเพลียไปทั้งตัว เหมือนคนป่วยที่เริ่มหายใหม่ ๆ สติสตังไม่เคลื่อนไหว ดังนั้นพวกเขาก็ได้รับโทษอยู่เช่นนี้ พอรู้ตัวตื่นขึ้นมาสติจะถูกกระทบกระเทือนมาก
หยงปี่ : อย่างนี้น่าสงสารมาก สติมึนชาคิดไม่ตก คนดี ๆ ไม่เป็นต้องมาทนรับกรรมในรังนกคุดคู้
อาจารย์ : พวกเขาฟื้นขึ้นมารับทุกข์ แต่ละครั้งเมื่อตื่นขึ้นมาจิตใจจะเจ็บปวด เพิ่มความกระทบกระเทือนให้มีสติมากขึ้น น่าจะมีชีวิตอยู่ไม่น่าตาย รอคอยจนกว่าอายุขัยจะหมดก็จะถูกส่งไปรับโทษฐานอกตัญญูในยมโลกอีก สภาพการณ์เช่นนี้ ไม่รู้เมื่อไรจะได้เกิดมาเป็นคนอีก ตอนนี้ไปเยี่ยมชมต่อ (พอดีมีฝ่ายธุรการมาข้างหน้าทำสัญญาณต้อนรับและพาไป)
หยงปี่ : อาจารย์ครับ ! ทำไมไม่หาวิญญาณผีสักตนหนึ่งมาสอบถามความเป็นมา
อาจารย์ : เพราะว่าขอบเขตของเมืองตายโหงไม่ใช่เล็ก ถ้าแต่ละครั้งเอาแค่ผีละตนก็ไม่อาจจะเที่ยวชมได้หมด เพราะฉะนั้นให้อาจารย์คัดเลือกเรื่องราวที่มีคุณค่าต่อการตักเตือนค่อยสอบถามดู
หยงปี่ : ก็ดีครับ.....เอ๊ะ ! ข้างหน้ามีนางหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่อาจารย์ครับให้ศิษย์ไต่ถามเธอดู
ธุรการ : ถ้าหากคุณหยงปี่ต้องการถามไถ่ ผมก็จะเรียกมาให้ (ว่าแล้วก็กวักมือให้ผีผู้ควบคุมพานางเข้ามา)
หยงปี่ : อาซ้ออย่าร้องไห้ ผมขอถามว่าทำไมท่านจึงถูกขังในเมืองตายโหง (หยงปี่ถามพลางก็สำรวจใบหน้าของหล่อน หล่อนมีรูปหน้าอ่อนหวาน หากแต่ที่หางคิ้วและชายตามีลักษณะเจ้าชู้)
วิญญาณหญิง : เพราะฉันเป็นหนี้จากการเล่นการพนันไว้ไม่น้อยยังไม่จ่ายให้ ถูกหลายคนบังคับมาที่เปลี่ยว ตอนนี้....อย่างนั้น...จนตาย
หยงปี่ : อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว ถ้างั้นก็จะไม่ถามชื่อสกุลของเธอ แต่จะถามเธอสักหน่อย เมื่อถูกขังในเมืองตายโหงแล้ว รู้สึกอย่างไร
วิญญาณหญิง : ฉันคิดถึงลูก กับคนที่บ้าน เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ดูแลพวกเขา แต่ว่าถ้าตอนนี้ได้เห็นเขาสักครั้งก็จะรู้สึกดีไม่น้อย
หยงปี่ : แปลกนะ ตายแล้วก็ไม่เกี่ยวข้องกับโลกแล้ว ทำไมยังคิดถึงพวกเขา
ธุรการ : ให้ข้าพเจ้าอธิบาย คนตายแล้วไม่ว่าจะลงนรกหรือเมืองตายโหง ส่วนใหญ่ก็แยกขาดจากโลก นอกจากวิญญาณดี ๆ หมายความว่าพวกเขาไม่มีความจำ นอกจากตอนรับโทษทัณฑ์เมื่อสติกระทบกระเทือนก็จะจำเรื่องที่แล้วมาได้ ตอนนี้วิญญาณผีตนนี้ก็เป็นเช่นนั้น เธอกำลังรับโทษ จึงคิดถึงคนบนโลก
หยงปี่ : ไม่ถูกมั้ง ! หากวิญญาณผีไม่มีความจำ แต่ว่าคนตายแล้วทำไมจึงแสดงให้ญาติได้เห็นเล่า
ธุรการ : เหตุผลหรือ ข้อ 1. เป็นวิญญาณผีไร้ญาติกับพวกผีสาง
ข้อ 2. ขณะวิญญาณผีรับโทษความคิดถึงก็จะเกิดขึ้นพวกเขากับญาติบนโลกมีสายเลือดสัมพันธ์กัน ดังนั้นคนในโลกจึงถูกวิญญาณครอบงำ จึงมีความรู้สึกนี้เพราะกระแสไฟฟ้าระหว่างยมโลกและโลกสัมผัสกันก็เกิดแสงขึ้นได้
หยงปี่ : ขอบคุณที่อธิบาย หวังว่าชาวโลกได้ยินได้ฟังแล้ว ก็จะสามารถเข้าใจได้
อาจารย์ : ถ้าเช่นนั้น คืนนี้เที่ยวเพียงแค่นี้ เจ้าหลับตา อาจารย์จะพากลับสถานธรรม....ถึงแล้ว ข้ากลับ
หยงปี่ : ขอส่งเสด็จอาจารย์