ปู่โสมเฝ้าทรัพย์
“ปู่โสมเฝ้าทรัพย์”
องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า
เกิดเป็นคนแสนจะยากควรถนอม
คอยเกลากล่อมจิตสำนึกสติรู้
ฆ่าตัวตายปัญญาเขลาอกตัญญู
บุพการีที่ยังอยู่สุดเสียใจ
อาจารย์ : คืนนี้เที่ยวแดนขังหนึ่งต่อ ที่ควบคุมจิตญาณผีฆ่าตัวตายนั้น มีหน่วยพิเศษสังกัดอยู่หลายหน่วยงาน ประทานแพรฟ้าป้องกันตัว ออกเดินทาง
หยงปี่ : คราวก่อนผ่านลานกว้าง มาตำหนักซิ่งหง ที่นี่เป็นเรือนแถวยาวรูปเกือกม้า อาจารย์ครับ ที่นี่ใช่ไหมที่ท่านว่ามีหน่วยงานพิเศษขึ้นตรงต่อแดนขังหนึ่ง
อาจารย์ : ถูกแล้ว ผ่านลานกว้างนี่ก็คือที่ตั้งตำหนักซิ่งหงเรือนแถวเป็รูปเกือกม้า ที่ปากทางออกเป็นตำหนักซิ่งหงเจ้ารู้ไหมว่าใช้สอยประโยชน์อะไร
หยงปี่ : ศิษย์ปัญญาทึบ เชิญอาจารย์ช่วยชี้แจงเถอะครับ
อาจารย์ : ตำหนักซิ่งหง เป็นสถานที่ของเหล่านักปราชญ์แห่งขงจื้อใช้บรรยายความกตัญญู เรือนแถวรูปเกือกม้านี้ขึ้นอยู่กับแดนขังหนึ่ง แต่ละห้องล้วนฆ่าตัวตายด้วยความรักบ้าง ฆ่าตัวตายด้วยทรัพย์สมบัติบ้าง พวกนี้ต้องได้รับการอบรม ตอนนี้อาจารย์จะพาเจ้าเที่ยวชมแต่ละห้อง หากมีข้อสงสัยอะไรก็ถามมา (พูดจบทั้งสองก็เดินไปทางห้องขวามือ)
หยงปี่ : โอโฮ! พอเห็นห้องเหล่านี้ คิดไม่ถึงเลยว่าห้องจะลึกปานนั้น อาจารย์ครับ วิญญาณผีห้องนี้ตายโหงด้วยสาเหตุอะไรครับ ทำไมแต่ละคนหอบแต่ธนบัตรกองเบ้อเริ่ม แก้วแหวนเงินทองอีกนับไม่ถ้วน ที่เขาว่ากันว่าปู่โสมเฝ้าทรัพย์คงจะเป็นเช่นนี้เอง
อาจารย์ : นี่คือห้องทรัพย์สมบัติ คนพวกนี้ฆ่าตัวตายเพราะทรัพย์สมบัติ ตอนมีชีวิตอยู่ปลงไม่ได้กับทรัพย์สมบัติ ตอนนี้ก็เลยให้พวกเขาอยู่กับธนบัตร ดูพวกเขาจะห่วงกังวลหรือไม่ เพื่อให้พวกเขาได้หวาดกลัวเข็ดหลาบ จะได้แก้ไขนิสัยอันเลวร้ายที่เห็นทรัพย์สมบัติเหมือนชีวิต
หยงปี่ : อืม.....เป็นวิธีที่ดี ยี้.....ห้องที่สองทำไมเหม็นอย่างนี้ไม่มีคนอยู่เลย
อาจารย์ : ไปที่ตำหนักซิ่งหง ฟังการบรรยายดีกว่า
หยงปี่ : พวกเขาผลัดเปลี่ยนกันไปฟังกตัญญูกตเวทิตาธรรมหรือแล้วห้องนี้ล่ะทำอะไร
อาจารย์ : ใช่แล้ว แดนขังหนึ่งนี้มีตารางกำหนดเวลาให้เหล่าวิญญาณผีไปเข้าชั้นเรียนฟังการบรรยาย วันนี้พอดีถึงเวรของชั้นความรัก
หยงปี่ : ชั้นความรัก ก็ต้องเป็นพวกตายโหงที่ฆ่าตัวตายเพราะความรัก น่างสงสาร แต่ก็น่านับถือเพื่อความรักแม้แต่ชีวิตก็ยอมอุทิศให้ เมื่อมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ ถ้าก่อนเกิดเรื่องได้ระมัดระวังตรึกตรองให้รอบคอบ ก็คงมีผลเพียงพอต่อความหวาดกลัวบ้างกระมัง แต่กำลังตกอยู่ในห้องแห่งความรัก แล้วกำลังผิดหวัง ถ้าหากสามารถมีโอกาสได้ล่วงรู้ว่าเมืองตายโหงมีสถานที่เช่นนี้ ประตูใหญ่เปิดอยู่ทั้งสองบาน รอให้เขากระทบกระเทือนใจจนต้องปลิดชีวิตอันมีค่าลง
อาจารย์ : ถูกแล้ว ถ้าหากมีโอกาสได้ล่วงรู้ว่าฆ่าตัวตายเพราะความรักก็ต้องมารับทุกข์ที่นี่ ก็จะเป็นการลดอัตราการตายที่อุทิศชีวิตเพื่อความรัก
หยงปี่ : ก็คงเหลือค้างไว้แต่สถานที่อันเนื่องจากกลัวโทษจากการฆ่าตัวตายเท่านั้น อาจารย์ครับ คนพวกนี้ดูแปลกนะครับแต่ละคนขดตัวซ่อนอยู่ที่มุมห้อง อ๊ะ อ๊ะ ไม่เลวนี่ที่นี่ก็มีห้องปรับอากาศด้วย กระแสความรักแผ่ซ่านกระทบเข้ากระดูก
อาจารย์ : การเปิดเครื่องปรับอากาศเจ้าคิดว่าเป็นการเสพสุขหรือ ที่นี่คือห้องกลัวบาป เป็นการลงโทษโดยเฉพาะ ความชื้นของไอดิน จะรบกวนร่างของวิญญาณ ลองคิดดูพวกนี้มีชีวิตอยู่ทำทุกสิ่งที่เลวทราม บาปกรรมท่วมฟ้า พูดได้ว่าจิตสำนึกไม่มีเหลืออยู่เลย ชอบก่อกรรมทำเข็ญ จนกระทั่งจนตรอกแล้วก็ยอมตาย เช่นพวกนักเลงที่ไม่กลัวฟ้าดิน อย่างมากก็แค่ตายเพราะฉะนั้นที่นี่ก็ให้ไอชื้นของดินรบกวนร่างวิญญาณ ให้พวกเขาได้ลองลิ้มชิมรสชาติว่าน่ากลัวหรือไม่
หยงปี่ : อ๋อ....เป็นอย่างนี้เอง วิธีนี้คงได้ผลต่อการอบรม
อาจารย์ : เอาละคืนนี้ได้เวลาสมควร ข้าจะส่งเจ้ากลับสถานธรรม....ถึงแล้ว ข้ากลับละ