พระราชเสาวนีย์สมเด็จพระแม่เจ้าแดนสุขาวดี
เทพธิดาสนองพระราชเสาวนีย์ แห่งสระทิพย์ลงประทับทรง
กล่าวเป็นกลอนว่า
คัมภีร์สวรรค์ให้ สัจธรรมไซร้ถ่ายทอดมา
ทางอริยะนา ชี้แนะหนทางสว่าง
บ่อเก๊กแดนนิพพาน ทอดสะพานเชื่อมเส้นทาง
มุ่งช่วยไม่อำพราง ขจัดภัยหมดทุกข์โศก
ในราตรีกาลนี้ ข้าพเจ้าได้รับพระราชเสาวนีย์จากสมเด็จแม่แห่งบ่อเก๊กให้นำพระราชโองการมา ขอให้เทพยดาและมวลมนุษย์จงกราบลงและฟังประกาศ
พระราชโองการของสมเด็จแม่เจ้าแห่งบ่อเก๊ก ความว่า
อันแม่อยู่ตำหนักสระทิพย์แห่งบ่อเก๊ก จิตใจเป็นห่วงมวลมนุษย์ คนเราเกิดในโลก ช่วงเวลาประมาณร้อยขวบปีเหมือนนักทัศนาจร ฝันเฟื่องมาก ฝันจริงมีน้อย ตกอยู่ท่ามกลางความหลงใหลไร้สติ นอกจากผู้มีกุศลที่ใกล้ชิดศาสนาธรรมก็จะปฏิบัติธรรมบำเพ็ญตน
ด้วยเหตุนี้ สังคมถึงแปรเปลี่ยน รูปลักษณ์ลุ่มหลง หากศรัทธาไม่มั่น ก็จะห่างธรรมขาดบุญ ดุจดังจอกแหนที่ล่องลอยไม่รู้สักเท่าไร กลายเป็นปฏิบัติธรรมไม่สำเร็จ ใจแม่นี้ร้อนรนทนไม่ได้ ที่เห็นวิญญาณเดิมตกต่ำ สูญสิ้นโอกาส เพื่อเป็นการฟื้นฟูอริยธรรม ครั้งก่อนก็ได้ให้ พระจี้กง นำศิษย์หยางไปแต่งหนังสือ “เที่ยวเมืองสวรรค์ เที่ยวเมืองนรก วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” สามฉบับแล้ว ได้เผยแพร่ไปทั่ว เป็นการเริ่มแนวทางใหม่กลายเป็นสายกุศลธรรมอันสะอาด ตอนนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความวิริยะ จึงมีโองการให้สำนักเซี้ยเต็กตึ้ง แต่งหนังสือใหม่อีกฉบับหนึ่ง ชื่อว่า “เส้นทางอริยะ” มีคำสั่งให้พระจี้กงนำศิษย์หยาง ไปท่องทั้งสามโลก เสาะแสวงอริยบุคคลต่างๆ และความจริงต่างๆ ของวิถีชีวิตลงแต่งหนังสือเป็นการเปิดเส้นทางใหม่ที่สว่างราบเรียบ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้รู้สัจจะ เป็นการเพิ่มศรัทธาหรือผู้ที่หลงงมงาย หรือผู้ที่ไม่มีธรรมะ จะได้สนใจหันมาประกอบความดี จะได้ไม่สูญเปล่าในชั่วชีวิตนี้ เลิกสร้างบาป ก่อกรรมทำเข็ญ
ศิษย์หยาง ได้ติดตามพระจี้กงแต่งหนังสือมาสามเล่มแล้วมีความคล่องตัวสูง ทำได้ไม่ขัดข้อง หลังจากรับโองการนี้แล้วก็ขอให้ลงมาแต่งได้ตามวาระการทรงจนกว่าจะแล้วเสร็จ ศิษย์ของสำนักก็มีโอกาสดีช่วยกันสร้างหนังสือ ทั้งเทพแลคนร่วมใจกันถึงจะเหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยชีวิตสรรพสัตว์ เมื่อหนังสือสำเร็จลงเผยแพร่ไปทั่ว ก็จะได้บุญยิ่งใหญ่ จารึกในศิลาสวรรค์ จะได้ร่วมงานฉลองมหากัลปฤกษ์ จนพระราชโองการ
จงแสดงความเคารพ จงอย่าประมาท
ให้กราบขอบพระคุณ พระราชเสาวนีย์
สั่ง ณ แรม 6 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ
ตรงกับวันพุธ ที่ 14 เม.ย. พ.ศ. 2525
