mindcyber 1 month ago
admin #holy

เส้นทางอริยะ ตอนที่สิบหก

หน้าสดใสหลังบริบูรณ์                ผู้มีบุญคืนสู่แดนศักดิ์สิทธิ์

ตั้งแต่บุพกาลมา                         ผู้บำเพ็ญธรรมได้รับช่วย

อรหันต์จี้กง เสด็จลงประทับทรง เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2526

กลอนนำเสด็จ

ทุกก้าวอันแสนไกล                     ไปสู่ทางอริยะ

ชีวิตอุตสาหะ                             ดำรงไว้ชื่อเสียงดี

สั่งสมบุญกุศล                           อิ่มกมลแสนเปรมปรีดิ์

อายุเก้าสิบปี                              เต๋าไม่เบามีวิชา

อรหันต์จี้กง : ชีวิตคนเหมือนความฝัน คนที่อยู่ในความฝันไม่รู้สภาวะ เหมือนปลาอยู่ในน้ำ คนอยู่ในอากาศซึ่งไม่รู้สึกตัวเมื่อปลาไร้น้ำ คนไร้อากาศ พอรู้สึกตัวเขาก็ได้ละจากที่อยู่เก่าเสียแล้ว ดังนั้น ไม่ควรติดยึดในเนื้อหนังมังสากลับตัวกลับใจ ก็จะบรรลุถึงกายอันแท้จริง วันนี้อาตมาจะพาหยางเซิงไปพบกับบิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อแก้ความผูกพัน และอาศัยโอกาสนี้ได้โปรดเตือนผู้คนด้วย หยางเซิงเตรียมตัวขึ้นบนบัวอาสน์

หยางเซิง : ขอรับกระผม! อาจารย์จะพากระผมไปพบกับคุณพ่อที่ล่วงลับ จิตใจรู้สึกตื้นตัน แต่ความโศกเศร้าเสียใจก็บังเกิดขึ้นอีก พระคุณอันยิ่งใหญ่ยังมิได้ทดแทน จะอดกลั้นได้อย่างไร

อรหันต์จี้กง : การพบกันหรือจากกัน ของคนเราขึ้นอยู่กับโอกาสสัมพันธ์กัน ขอเพียงเจ้าช่วยเผยแผ่ตามมติสวรรค์ไม่ขัดโองการสวรรค์ ก็เป็นวิธีตอบแทนพระคุณอย่างดีที่สุดแล้ว

หยางเซิง : ชั่วประเดี๋ยวเดียวก็มาถึงที่ธรรมชาติอันสวยงามเมฆหมอกบางเบา ภูเขาลำธารสายน้ำและบุปผชาติที่แปลกตานับว่าเป็นธรรมชาติที่เลิศล้ำ

อรหันต์จี้กง : ที่นี่เป็นแดนสุขาวดี

หยางเซิง : ข้างหน้ามีลำแสงเปล่งประกาย ดูเหมือนท่านมหาโพธิสัตว์กวนอิมจะเสด็จมา ศิษย์ขอกราบคารวะท่านมหาโพธิสัตว์

พระโพธิสัตว์ : หยางเซิงมิต้องเกรงใจ พระจี้กงพาเจ้ามาพบบิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว ตอนนี้บิดาเจ้ารู้เรื่องแล้ว ตอนนี้กำลังรอเจ้าอยู่ที่ห้องวิสุทธิ์ข้าง ๆ จี๋เต็กลิ้ม (โพธิสถานแห่งพระกวนอิม) ข้า ฯ มานำเจ้าโดยเฉพาะ

หยางเซิง : เดินตามท่านมหาโพธิสัตว์ แต่ละฝีก้าวเบาลอยดุจขี่เมฆวกวนมาหลายตลบ จนกระทั่งบรรลุถึงวิหารศักดิ์สิทธิ์ ท่ามกลางหมู่สน กอไผ่ และต้นเหมยที่เขียวขจีทั้งสองข้างทาง บนวิหารเขียนไว้ว่า “ศานติคาม” มีอักษรเขียนอยู่สองข้างของประตูวิหาร ด้านขวา “สนขจี ไผ่เขียว เหมยขาว ดุจ สามสหาย” ด้านซ้าย “ศานติ สิ้นคำนึง วิญญาณจิต อายตนะสิ้นสลาย”

อรหันต์จี้กง : บิดาของเจ้ากำลังรออยู่ข้างใน อย่ามัวรีรอติดตามพระโพธิสัตว์เข้าไปเถอะ

หยางเซิง : ขอรับ เดินตามพระโพธิสัตว์เข้าไปภายในวิหารมองเห็นคุณพ่อนั่งอยู่บนอาสนะ พอเห็นพวกเราเข้ามา ท่านก็รีบยืนขึ้น ใบหน้ายิ้มแย้ม หน้าตาสดใส เหมือนกับอยู่ในวัยหนุ่ม ท่าทางก็แข็งแรง

พระโพธิสัตว์ : ทุกคนเชิญนั่งบนเก้าอี้บัว พ่อลูกจากกันแล้วได้พบกันอีกครั้ง ถือโอกาสนี้คุยกันเถอะ

หยางเซิง : ขอบพระคุณ ขอรับ ที่พระโพธิสัตว์อนุญาตให้นั่ง

พระโพธิสัตว์ : คุณพ่อ ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2526 ข้าฯ ได้โปรดให้เขาได้มายังแดนสุขาวดี สืบเนื่องจากเมื่อตอนมีชีวิตอยู่ เป็นคนที่มีพื้นจิตดี สะสมบุญไว้ไม่น้อยทั้งยังถือมังสวิรัติเฉพาะมื้อเช้าเป็นเวลา 50 ปี ทั้งยังได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่ ที่เจ้าหยางเซิงได้สร้างสำนักธรรม ประทับทรงแต่งหนังสือเผยแพร่เป็นประจำ อันเป็นงานศักดิ์สิทธิ์แห่งเบื้องบน ซึ่งคอยคุ้มครอง ดังคำกล่าวไว้ว่า “บุตรหนึ่งเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ เก้าชั่วโคตรสืบนานทั่วหน้า” พ่อลูกจากกันแลัว หากความผูกพันตัดยาก ได้โอกาสพบหน้ากันวันนี้เพื่อถามไถ่กัน จะได้สิ้นสุดความผูกพันครั้งนี้

หยางเซิง : ขอบพระคุณ ขอรับ ที่พระโพธิสัตว์ ได้นำพาคุณพ่อของกระผม มายังแดนสุขาวดี คุณพ่อครับ! หลังจากที่ท่านจากไปแล้ว พวกเราคุณแม่และพี่น้องต่างคิดถึงท่านมาก มิทราบว่า ตอนนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง

พระโพธิสัตว์ : คุณพ่อของเจ้า ชื่อสามัญว่า “หยางตังอิ่ง” ภายหลังละโลกแล้วได้รับสถาปนาใหม่ว่า “ผู้อาวุโสตังอิ่ง” ขณะนี้อยู่ในระหว่างการฝึกฝน ดังนั้น เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงกังวล

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : ลูกหยู้ พ่อลูกได้พบกันในวันนี้ ภายในดวงจิตปลื้มปีติยิ่ง เป็นเพราะท่านพระโพธิสัตว์นำพา ท่านพระจี้กงสนับสนุน ตอนนี้นับได้ว่าได้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงมีความสงบสุขและสะอาดบริสุทธิ์ สติปัญญาก็โปร่งใส พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว

หยางเซิง : คุณพ่อสิ้นลมตอนกลางคืน ลูกได้ฝันว่าคุณพ่อต้องการหนังสือธรรมะ ลูกจึงได้เอาหนังสือธรรมะจำนวนสามเล่มวางไว้ที่ข้างกายท่าน มิทราบว่า ท่านได้นำมาด้วยหรือไม่?

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : เพราะข้าฯ ได้เกิดตอนปลายราชวงศ์เซ็งสมัยนั้นชีวิตขัดสน การศึกษายังไม่แพร่หลาย พ่อเองก็เป็นเพียงชาวนา ที่หาเลี้ยงชีพ จึงไร้การศึกษา ฉับพลันขณะที่วิญญาณกำลังจะละจากร่าง สติสัมปชัญญะก็นึกรู้ตัวว่าตนเองได้รับการศึกษามาน้อยและก็รู้ว่า พวกเจ้าได้อุทิศตนเพื่อรับใช้พระศาสนา หากได้นำหนังสือไปบ้างแล้ว คงมีประโยชน์เกื้อกูลต่อการไป

อรหันต์จี้กง : ตอนที่พ่อเจ้าจะละไปมีข้าฯ พระโพธิสัตว์ กวนอู ได้เตือนให้พ่อเจ้านำหนังสือธรรมะติดตัวไปด้วย เพื่อใช้ในการบำเพ็ญเพียรตนเอง         และหนังสือธรรมะเหล่านี้ก็เป็นหนังสือที่หยางเซิงได้เขียนแต่งขึ้น เพื่อช่วยให้พ่อเจ้าได้บรรลุธรรม ทำให้วิญญาณเจ่มใส ฉับไวขึ้น

หยางเซิง : ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง เนื่องจากคุณพ่ออายุมาก และก็ไม่ยุ่งกับธุระแล้ว เมื่อผมได้ฝันเห็นสภาพเช่นนี้ รู้สึกตกใจที่แท้เพราะพระท่านโปรดเมตตาแนะนำทำให้ดวงตาเห็นธรรม

อรหันต์จี้กง : เจริญพร!

หยางเซิง : ยังมีข้อข้องใจอีกอย่าง ตอนที่คุณพ่อเสีย ผมและน้องเป็นเพื่อนอยู่ข้างโลงศพทำไมจึงได้ฝันเห็นทุกคืน รายละเอียดฝันเกี่ยวกับการเผยแผ่ธรรม และสอนหลักธรรมแห่งความเป็นคน......

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : เนื่องจากพ่อเป็นผู้สูงอายุ ร่างกายเฉื่อยชาจึงมีความมืดมัวไม่กระปรี้กระเปร่าเรื่องธุระของลูกหลาน แต่พอวิญญาณละจากร่างแล้ว ก็เหมือนกลางคืนเปลี่ยนเป็นกลางวัน ทุกอย่างเห็นทะลุปรุโปร่ง เหมือนกับถอดเสื้อที่หนา ๆ ออก รู้สึกเบาสบาย และก็รู้แจ้งในธุระของพวกเจ้าโดยตลอด ถึงแม้พระโพธิสัตว์ทรงโปรดช่วย แต่ยังรักอาลัยไม่ยอมจากไป จึงได้ฝากคำสั่งสอนแก่พวกเจ้า ให้พวกเจ้าได้ปฏิบัติธรรมให้ดี ๆ อย่าให้ผิดพลาด เพื่อความบริสุทธิ์ผุดผ่องของพ่อ ที่มีความยุติธรรมไม่เห็นแก่ตน ดังนั้นจึงได้สั่งเสีย

หยางเซิง : ก่อนที่ไปสู่สุสาน ผมก็ได้ฝันอีก ได้ฝันเห็นว่าหน้าโลงศพปกติจะจัดแต่งด้วยผ้าสีขาวดำ แต่ทำไมจึงเป็นเป็นผ้าสีแดง และลูกหลานทุกคนก็ใส่แต่สีแดงหมด ทำราวกับว่าเป็นงานมงคล ไม่รู้ว่าฝันนี้เป็นเช่นใด?

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : ลูกหยู้! ชีวิตดังความฝัน ตอนเกิดก็ดีใจ ตอนตายก็เศร้าโศก สำหรับพ่อแล้วชั่วชีวิตไม่เคยทำเรื่องละอายใจ ประหยัด แถมยังมีเจ้าได้ทำงานที่สำนักธรรมเผยแผ่คุณธรรมสวรรค์ ได้สร้างบุญกุศลไว้ยิ่งใหญ่เหลือคณา จึงทำให้พ่อตายลงอย่างไม่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย ตอนนั้นพ่อก็ไม่รู้สึกกลัว เพียงรู้สึกว่าขาดลมหายใจไปเฉย ๆ ชั่วครู่เดียวก็รู้สึกสบายขึ้น จึงได้รู้ว่า นอกกายยังมีกาย เห็นกายเทียมนอนอยู่บนเตียงก็ได้มองดูด้วยความสงบ ทั้งพระโพธิสัตว์  พระจี้กง  และพระกวนอู ต่างก็ได้พูดเรื่องต่าง ๆ เช่น อายุขัยเจ้าหมดลงแล้วอย่าได้หลงใหลอยู่กับกายเนื้อยเลย ตอนนั้น พ่อเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรถึงถูก พวกเจ้าต่างร้องไห้อยู่หน้าศพ ข้าฯ เองก็เสียใจ แต่พอได้รับการแถลงไขจากพระโพธิสัตว์ จึงค่อยๆ รู้ตัวขึ้น เนื่องจากว่าพ่อไม่เคยมีความผิดอะไร พระโพธิสัตว์และพระจี้กง จึงให้พ่อนั่งบัวอาสน์มายังแดนสุขาวดี และใน วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2526 ตอนเช้ามืด ข้าฯ ก็ได้พาวิญญาณของเจ้าไปดูความมงคลหน้าโลงศพ ซึ่งแสดงว่าข้าฯ ได้ไปเป็นเทพแล้ว  จึงมีบรรยากาศเช่นนั้น

อรหันต์จี้กง : ในโลกขาดคนดีไปคนหนึ่ง เบื้องบนก็มีโพธิสัตว์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง เบื้องบนได้ตระเตรียมงานต้อนรับ ความมงคลจึงครอบคลุม บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความมงคล

หยางเซิง : ยังได้ฝันเห็นคุณพ่อใส่ชุดสีแดง เดินออกมาจากม่านหน้าตามีเลือดฝาด ท่าทางกระปรี้กระเปร่า แต่ตอนจะสิ้นใจใส่แต่ชุดดำ ลูกจึงเรียนถามคุณพ่อว่า ลูกได้จัดอาหารเจไหว้พ่อที่หน้าศพ ไม่ทราบว่าคุณพ่อพอใจหรือไม่ คุณพ่อตอบว่า “ไหว้อาหารเจ ก็ดีแล้ว แต่อยากให้มี ไส้หอม (หมูกุนเชียง) สักคู่” ซึ่งในใจผมรู้สึกฉงน ซึ่งกำลังสงสัยอยู่ ก็มีคนพูดขึ้นว่า “พ่อเจ้าไม่เพียงแต่ให้พวกเจ้าไหว้ด้วยของเจเท่านั้น ยังต้องการให้พวกเจ้าทุก ๆชั่วโคตร น้อมนำความ “หอม” ของใจใส่ไส้ไว้ทุก ๆ บ้าน อย่างนี้จึงนับว่าไม่ลืมบุญคุณของบรรพบุรุษ” พอลูกได้ฟังจนจบจึงเข้าใจโดยตลอด ทำไมคุณพ่อจึงได้แสดงธรรมอันพิสดารเช่นนี้ล่ะ?

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : เออ เอ่อ! ตอนมีชีวิตอยู่ ข้าฯ ไม่รู้หนังสือแต่เมื่อได้ละร่างอันจอมปลอมนี้แล้ว ได้ผ่านการอบรมจาก เทพ พุทธ จึงเข้าใจในกฎแห่งกรรม ทั้งสามชาติ ข้าฯเองอดีตชาติเป็นนักรบ ดังนั้น ความกล้าหาญยุติธรรมยังคงอยู่ และถอยหลังไปอีกสองชาติ ข้าฯ ก็เป็นผู้รักษาพระธรรมของพระกวนอิม ชาติปัจจุบัน เมื่อได้รับการชี้แนะจากพระกวนอิมเท่านั้นจึงเข้าใจโดยตลอด ดวงจิตค่อยๆ กลับคืนสู่ความสว่าง จึงมีความสามารถดังนี้ หวังว่าลูกหยู้ อย่าได้ฉงนสงสัยในตัวพ่อเลย พ่อรู้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

หยางเซิง : ขอรับ! โปรดเมตตาที่คิดอย่างผิวเผิน แต่ยังมีอีกลูกเห็นพ่อแปลงเป็นนกกระเรียนขาวตัวหนึ่ง บินมาเกาะที่มือลูก พอลูกวิ่งออกไปนอกบ้าน นกกระเรียนขาวก็บินสู่ท้องฟ้า พอฝันถึงตรงนี้ก็ตื่นขึ้นมา พอดีก็เป็นตอนรุ่งเช้าตีห้าครึ่งของวันที่ 24 ธันวาคม จิตใจรู้สึกสดชื่น ในจิตบอกให้รู้ว่าพ่อได้ขี่กระเรียนขาวไปเป็นเทพแล้ว มิทราบว่า คุณพ่อจะชี้แนะอะไรลูกอีก

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : พ่อ ขี่กระเรียนไปเป็นเทพ หากแต่ ขึ้นบัวอาสน์มาหาเจ้า ฝันอันนี้มีความหมายลึกซึ้งต่อเจ้า หมายความว่า การถวายตนของลูกเพื่อบริหารธรรมมีผลบุญมาก มิใช่สูญเปล่า อันนี้มีหลักยืนยัน พ่อเองแม้จะไม่มีความผิดมาก (บาปหนัก) ในตอนมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้สร้างมหากุศลอะไรได้อาศัยบุญกุศลของลูกจึงทำให้พ่อได้สู่สุคติอย่างราบเรียบ โดยไม่ต้องรับทุกข์ในเมืองนรก

อรหันต์จี้กง : เพราะเหตุว่า ในชาติปางก่อน ๆ ผู้อาวุโสกับหยางเซิงมีความผูกพันกันมาก่อน ดังนั้นเมื่อพ่อของเจ้าอายุได้ 56 ปี จึงได้ให้กำเนิดเจ้า เป็นพ่อเป็นลูกกัน ซึ่งหาได้น้อยมากในโลก

หยางเซิง : ที่จริงเป็นเช่นนี้ ขอเรียถามคุณพ่อ ในช่างระยะเวลานี้คุณพ่อกำลังบำเพ็ญเพียรอย่างไร?

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : เพราะตอนมีชีวิตอยู่ เป็นคนกล้าหาญยุติธรรม ก็คงปากมากไปหน่อย ตอนนี้เลยต้องทำสมาธิท่องพุทโธใช้ปากเอ่ยพระนาม พระพุทธเจ้า เพื่อขจัดเวรปาก

อรหันต์จี้กง : อันนี้เป็นการให้ยาถูกโรค

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : พระจี้กงเห็นแล้วก็หัวเราะ

หยางเซิง : การปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่ ยังมีอะไรอีก

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : ชาตินี้ นอกจากมีเวรบาปบ้างนิดหน่อย นอกนั้นก็ไม่มีบาปอะไร ตลอดชีวิตก็ได้แต่ช่วยเหลือคน ไหว้พระ กินเจ สะสมบุญไว้ไม่น้อย บวกกับบุญของหยู้ช่วยเหลือ จึงได้รับการช่วยจากพระโพธิสัตว์ นำพามาที่นี่ ตอนนี้นอกจากสวดพุทโธแล้วก็ฝึกสมาธิ นอกนั้นก็ได้เที่ยวไปทั่วๆ วิหารแห่งนี้

หยางเซิง :  ขอกราบเรียนถาม พระโพธิสัตว์ มิทราบว่าเมื่อไรคุณพ่อจะได้เป็นพระโพธิสัตว์บ้าง

พระโพธิสัตว์ :อีกประมาณสักครึ่งปี ตังอิ่งก็จะหมดเวรกรรมถึงตอนนั้นก็สามารถลงไปสู่โลกมนุษย์ ไปยังสำนักเซี้ยเต็กตึ้งเพื่อร่วมสร้างบุญได้

ผู้อาวุโสตังอิ่ง :ภายหลังพ่อละโลกแล้ว สิ่งที่พ่อสบายใจ ก็คือได้เห็นพวกเจ้าพี่ๆ น้องๆ ต่างรักใคร่กลมเกลียวกัน และจัดงานศพให้พ่อ

หยางเซิง : ไม่ทราบว่าพวกเราพี่น้องได้สร้างที่ฝังศพ (ฮวงซุ้ย)ให้ท่านพอใจไหม?

ผู้อาวุโสตังอิ่ง : ฮวงซุ้ยสร้างได้ดี เป็นที่ระลึกถึงลูกหลานจะได้สืบสาวถึงต้นตอได้ แม่เจ้าก็อายุมากแล้ว ตลอดชีวิตก็เป็นกุลสตรีที่ดี ในระยะหลังนี้ก็ดูแลข้าฯ เหน็ดเหนื่อยไม่น้อยขอให้พวกเจ้าจงกตัญญูต่อแม่ เพื่อความสงบสุขในบั้นปลายเจ้าและลูกเต็กตง ได้อุทิศตนเข้าช่วยใน ธรรมสถาน ขอให้ตั้งอกตั้งใจ ปฏิบัติงานรับใช้เบื้องบนอันศักดิ์สิทธิ์ บุญบารมีจะเหลือคณานับ วิญญาณพ่อจะได้ไม่เป็นห่วง พวกเจ้ามีบุญพ่อก็ได้อานิสงส์(ความสว่าง) ด้วย จงขยันหมั่นเพียรเถิด

อรหันต์จี้กง : ไถหว่านไปพลางเก็บเกี่ยวไปพลาง หยางเซิงอุทิศตนเพื่อแดนศักดิ์สิทธิ์ สร้างบุญกุศล บรรพบุรุษก็ได้รับการคุ้มครองไปสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหยางเซิงก็ได้เห็นเป็นพยานเช่นนี้  มิเพียงทำให้หยางเซิงเข้าใจเท่านั้น ชาวโลกก็สามารถดูเป็นตัวอย่าง ยิ่งพ่อแม่สิ้นไปแล้ว ลูกหลานยิ่งต้องสร้าง บุญกุศล เพื่อเกื้อกูลบรรพบุรุษ ตนเองก็สามารถไปสู่สุคติวันนี้พอเท่านี้ หยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก

หยางเซิง : กราบขอบพระคุณ พระโพธิสัตว์ ซึ่งโปรดให้บิดาผู้ล่วงลับกับกระผมได้พบปะพูดคุยกัน เพื่อระบายความคิดถึงขอให้คุณพ่อโปรดถนอมตัวด้วย กราบลาไปก่อน

อรหันต์จี้กง : สำนักเซี้ยเต็กตึ้ง ถึงแล้ว หยางเซิงลงจากบัวอาสน์วิญญาณกลับเข้าร่าง


0
197

สัมพันธ์

พระกุมารแห่งสระทิพย์อู๋จี้

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago
พระศรีอริยเมตไตรย หรือพระเมตไตรย

พระศรีอริยเมตไตรย หรือพระเมตไตรย

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

กุลสตรี

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

ความซื่อตรงคือธรรมแท้

พระโพธิสัตว์กวนอิม

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
ฟักตุ๋นมะนาวสด

ฟักตุ๋นมะนาวสด

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago