ทำไมมนุษย์จึงฟุ้งซ่านนัก ใจร้ายไม่กักขึ้นสู่ยานเมตตา
เมฆทอแสงเซียนพุทธปกรักษา มีบุญวาสนาเปลี่ยนแปลงหน้า
ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมมนุษย์ในโลกจึงฟุ้งซ่านนัก อันที่จริงความใคร่อยากของพวกมนุษย์มากมายเหลือเกิน ต่างก็ถูกชื่อเสียงผลประโยชน์ปิดบัง เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากความเศร้าโศก และก็หมดปัญญาที่จะกระโดดจากหลุมทุกข์ที่ลึกกว้าง เรื่องที่จริงแล้ว เรื่องร้ายต่าง ๆ อยู่ที่จิตคิดอกุศล ถ้าใจไม่ร้ายแล้วก็สามารถที่จะขึ้นสู่เรือเมตตาได้แต่ละคนจิตใจต้องมีความคิดที่ดี เหมือนกับก้อนเมฆบนท้องฟ้าที่ทอแสงสีมาให้ เซียนพุทธก็จะช่วยเพิ่มการคุ้มครองรักษา เหล่าศิษย์ที่สามารถเข้าสู่ธรณีธรรม ก็ถือว่าเป็นคนมีวาสนา เมื่อวาสนามาถึงพวกเธอก็เหมือนได้ชีวิตใหม่ จงถนอมไว้ให้ดีๆ
ชีวิตจะแข็งแรงนานสักเท่าไร ต้นสนในทุ่งหญ้าใบสดเขียว
เมฆที่ลอยผ่านโลกพริบตาเดียว มีเหตุเดียวผูกสัมพันธ์กับพุทธนาน
ชีวิตอยู่นานแค่ไหน ชีวิตอยู่ในโลกที่สำคัญคือสุขภาพกับความสุขมีเงินทองมากแค่ไหนก็ปลอมทั้งนั้น ศิษย์ลองมองดูต้นสนในทุ่งหญ้าดูซิ พวกมันไม่ต้องการเงิน และก็ไม่กังวลเพราะเงิน พวกมันมีอิสระสบายกิ่งก้านใบเขียว น่าอิจฉายิ่งนัก ที่จริง ชีวิตคนในโลกก็เหมือนเมฆที่สวยก็เหมือนอาคันตุกะที่ผ่านไปอย่างรีบเร่ง ชั่วพริบตาก็ผ่านไปหลายสิบปีมันไหลผ่านไปหมด มีเพียงอย่างเดียวคือผูกบุญสัมพันธ์กับพุทธะจึงจะถึงที่สุด นั่นคือวิถีแห่งการเกิดดับเอย