mindcyber 2 months ago

ความในใจของอสูรกาย

(๑)ทดสอบคน-ผี-เทพในธรรมกาลยุคขาวให้ตกหล่น

ข้ารับหน้าที่ควบคุมทหารมารอสูรมากมาย เป็นหมื่นแสนทำหน้าที่เป็นปฏิปักษ์ต่อผู้บำเพ็ญธรรม หากว่าจิตใจของผู้บำเพ็ญขยับเขยื้อนหวั่นไหว เมื่อนั้นมารอสูรก็ย่อมเข้ามาประชิด โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร จึงกล่าวได้ว่า “หากบำเพ็ญโดยไม่มีมาร ไร้การทดสอบทั้งดีทั้งชั่วล้วนได้สำเร็จเป็นพุทธะ”


ผู้ที่รู้จักบำเพ็ญ จะต้องประคองปณิธานความมุ่งมั่นเอาไว้ รอเมื่อข้าทำการทดสอบแล้ว ก็จะรู้ได้ว่าจะเป็นพุทธะหรือจะเป็นภูตผี? ตอนนี้ได้ประสบกับยุคท้ายปลายกัป จิตใจผู้คนโหดเหี้ยมต่ำทราม วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามจึงตกต่ำลงทุกวี่วัน เป็นการก้าวย่างไปสู่ความเลวร้ายอันตราย ประเทศชาติ สังคมสับสนวุ่นวาย ยากที่จะปกครองจัดการได้และยังเห็นได้อีกว่า ผู้บำเพ็ญในปัจจุบันนี้ ไม่ค่อยมีความศรัทธาจริงใจ หลักคุณสัมพันธ์ห้าและคุณธรรมแปดถูกทำลายสูญสิ้น ได้รับธรรมะแต่กลับให้ร้ายทำลายธรรมะ


ดังนั้นข้าจึงได้นำพาทหารมารอสูร อาศัยของปลอมทำให้ของจริงวุ่นวายปั่นป่วน เพื่อทดสอบจิตใจที่จะบรรลุสำเร็จมรรคผลของผู้บำเพ็ญยุคขาว หากผ่านการทดสอบของข้าได้ ก็ย่อมสำเร็จเป็นพุทธะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากไม่ผ่านการทดสอบก็จะกลายเป็นภูตผีในนรกภูมิหรือไม่ก็ที่คุกสวรรค์ หากผู้ใดได้รับธรรมะและบำเพ็ญสิ่งจริง แต่ผิดต่อปณิธานความมุ่งมั่น ให้ร้ายทำลายสัมมาธรรม และเข้าสู่มิจฉาธรรมผิดต่อหลักธรรมความดีงามรวมทั้งผู้ที่กำเริบเสิบสาน ในที่สุดก็ย่อมถูกข้าตีตกไปสู่วิถีมารโดนมารกลืนกิน และทำลายวิญญาณ ไม่อาจกลับมาเกิดกายเป็นคนได้อีก หากไม่ผ่านการทดสอบของมารอสูรอย่างข้า ความมุ่งมั่นไม่หยัดยืน เมื่อถูกทดสอบย่อมท้อถดถอยไปก็จะพลาดผิดต่อความโชคดีสามชาติ ส่วนผู้ที่ได้รับธรรมะ แต่บำเพ็ญครึ่งๆกลางๆ บุญกุศลที่ค้างมาก่อนหน้าสูญสิ้นหมด บัญชีสวรรค์ ก็ย่อมคัดชื่อออกและส่งไปลงโทษยังนรกภูมิหรือคุกสวรรค์ ตามแต่ผิดบาปหนักเบาที่ได้ก่อเอาไว้


บำเพ็ญธรรมแบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับสูง ระดับกลางและระดับล่าง พระอริยะเหลาจื่อได้กล่าวไว้ว่า “คนในระดับสูงได้ฟังธรรมก็มานะปฏิบัติตาม คนในระดับกลางได้ฟังธรรม คงอยู่บ้างหายไปบ้างคนในระดับล่างได้ฟังธรรม ก็หัวเราะใหญ่ผู้ที่รับการทดสอบและไม่ร่วงหล่น คือคนในระดับสูง เป็นอริยะเป็นปราชญ์เมธี ส่วนผู้ที่เมื่อได้ยินได้ฟังธรรมะแล้ว เกิดความสงสัยคลางแคลงใจ เดี๋ยวก้าวไปข้างหน้าเดี๋ยวถอยไปข้างหลังเหมือนคงอยู่เหมือนหายไป ก็เป็นแค่เวไนยชนคนสามัญ ส่วนผู้ที่เมื่อได้ยินได้ฟังธรรมะแล้ว แต่ไม่มีความเชื่อมั่นศรัทธา ทั้งยังให้ร้ายต่อธรรม และผิดต่อคุณธรรมความดีงาม ก็จะเป็นเพียงภูตผีในนรกภูมิ


ดังนั้น การทดสอบของยานระดับสูง เอาไว้ทดสอบคนในระดับสูง (มีปัญญาสูงส่ง) การทดสอบของยานระดับกลาง เอาไว้ทดสอบคนในระดับกลาง (มีปัญญากลางๆ) ส่วนการทดสอบของยานระดับล่างเอาไว้ทดสอบคนในระดับล่าง (มีปัญญาต่ำทราม)ถ้าสามารถผ่านการทดสอบได้ ก็จะเป็นคนระดับสูง คนระดับกลางและ คนระดับล่าง แต่หากไม่ผ่านการทดสอบทั้งสามนี้ได้ ก็จะมีส่วนในคุกสวรรค์หรือไม่ก็ในนรกภูมิ โดยไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลเลย


ข้าได้รับบัญชาจากเบื้องบน จึงไม่อาจไม่ทำการทดสอบหากข้าไม่ทดสอบอย่างดุร้ายเหี้ยมโหด ข้าเองก็มีความผิดมหาเทพไม่อาจแบกรับภาระหน้าที่นี้ได้ เป็นเพราะพระพุทธมีความเมตตากรุณาพระองค์ จึงไม่อาจแบกรับหน้าที่ทำการทดสอบได้ มีแต่พวกทหารมารของข้าที่ทดสอบด้วยความโหดเหี้ยมจึงหวังว่าทุกๆ ขณะจิต ทุกๆ คน จะได้จดจำและรู้แจ้งกัน


ทางธรรมะและหมู่มารมีอยู่คู่กัน จึงยิ่งต้องเพิ่มพูนความเชื่อมั่นศรัทธาและใจดั่งเหล็กกล้าให้แข็งแกร่ง เพื่อนำมากำราบสยบการทดสอบใหญ่ได้ ผู้ที่ผ่านการทดสอบ ก็จะได้บันทึกชื่อในบัญชีสวรรค์แต่ถ้าไม่ผ่านการทดสอบ ก็จะถูกลบชื่อออกจากบัญชีสวรรค์ และมีส่วนได้ในนรกภูมิ ถึงแม้จะเข้าใจแทงตลอด ในวัชรสูตรทั้ง ๓๒ บท ก็ไม่สู้มีจิตญาณอันเป็นจริง พึงพิจารณาโดยอาการอย่างนี้เถิด


(๒) ธรรมะจริง บำเพ็ญจริง ทดสอบจริง

สายน้ำไหลไป ปลาก็แหวกว่าย หากเข้าใจเจตนาของเบื้องบนก็ต้องเร่งรีบก้าวเดิน อย่าได้เดินเป็นคนสุดท้าย แบกรับภาระใหญ่ของสามโลก อย่าได้มีความกลุ้มกังวล ถามตัวเองดูว่ามีความผิดพลาดกันหรือไม่? ถามตัวเองดูว่าคล้ายกับน้ำใสสะอาดที่ไหลหลั่งหรือยัง? ไหลหลั่งไปทางทิศตะวันออก ลองถามจิตญาณของตนดูว่า ถึงระดับที่เบาใสของก้อนเมฆที่สะอาดหรือไม่?


หากเลื่อนลอยไปกับก้อนเมฆ ก็จะมีการทดสอบมาฝนมาขัดทดสอบจนกระทั่งทุกๆ ย่างก้าวก็ยากที่จะเดิน ทดสอบจนกระทั่งพวกเจ้าไม่อาจกำหนดมรรคผล ทดสอบจนกระทั่งพวกเจ้าไม่ได้ขึ้นเรือธรรม ทดสอบจนกระทั่งพวกเจ้าผอมโซเหลือแต่กระดูกสร้างบุญกุศลในทางหนึ่ง แต่ก็หลั่งไหลออกไปในอีกทางหนึ่ง จนกระทั่งไม่คิดที่จะไปนั่งบนบัลลังก์บัวสามยานเก้าระดับอีก ถ้าคิดจะสำเร็จเป็นพุทธะ พวกเจ้าก็ต้องหมุนวนรอบข้าซึ่งเป็นหัวหน้ามารและผีทั้งหลาย


ข้าได้รับบัญชาให้ได้มาทดสอบธรรม ทดสอบให้ผู้บำเพ็ญร่วงหล่นไป ข้าจึงจะมีบัลลังก์ผลบุญให้ได้นั่ง หากไม่อาจทดสอบให้พวกเจ้าร่วงหล่นไปได้ ข้าก็ย่อมไม่พอใจ ข้าย่อมไม่ชอบใจถ้าจะต้องฉุดลากขาหลังของพวกเจ้า ข้าจะลากฉุดให้พวกเจ้าต้องตกไปในทะเล ให้พวกเจ้าเดินด้วยความยากลำบากในทุกๆ ย่างก้าว ให้พวกเจ้าได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในทะเลทุกข์จะเอาเหตุการณ์เรื่องราวทุกๆ อย่าง ทุกๆ แบบมาทดสอบพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าโกรธแค้นไม่พอใจข้า พวกเจ้าก็จะได้รับ


ข้าจะทดสอบข้อบกพร่อง ข้ออ่อนด้อยในตัวพวกเจ้ายึดจับที่ข้อด้อยของพวกเจ้า ให้เจ้าไม่มีความศรัทธาเชื่อมั่นต่อธรรมะ ให้เจ้ามองเห็นเยื่อใยสัมพันธ์อย่างจืดชืดหน่ายแหนงเยื่อใยสัมพันธ์เหล่านั้นจะได้บอบบางเสื่อมคลายไป ทดสอบจนพวกเจ้าล้มลุกคลุกคลาน กลับหัวกลับหางไปหมด ให้พวกเจ้าไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ในอาณาจักรธรรม ข้าจะทดสอบจนภรรยาหรือไม่และลูกๆ ของเจ้า ต้องแยกย้ายไกลห่างกันทดสอบ จนพวกเจ้าไม่สามารถตั้งมั่นหรือมีความสง่าน่าเกรงขามอยู่ได้ในอาณาจักรธรรม


โดยเฉพาะคนที่ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น ข้าก็จะให้เจ้าต้องโค้งกายวอนขอข้าเก้าสิบองศาเลย วิงวอนขอร้องให้ได้ผ่านการทดสอบของข้าพญาอสูร


หากใจมารของเจ้ามาหาข้า ข้าก็เต็มใจที่จะเป็นเพื่อนของเจ้าติดตามอยู่กับเจ้า เป็นเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลังเจ้า ต่อให้พระพุทธะจี้กงขอร้องข้าก็ไม่เกิดประโยชน์ พระองค์ท่านรับบัญชามาเพื่อปฎิบัติเผยแพร่ธรรม ส่วนข้าเองก็ได้รับบัญชามาทดสอบธรรม มองดูพวกเจ้าผู้บำเพ็ญ เดี๋ยวก็ก้าวไปข้างหน้า เดี๋ยวก็ถอยไปข้างหลัง ถ้าอยากจะผ่านการทดสอบของข้าไปให้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ พวกเจ้าจะต้องยอมรับในทุกข์อย่าง อย่าได้โทษว่าข้าไร้เยื่อใยสัมพันธ์ อย่าโทษว่าข้าไม่เมตตากรุณา ถ้าข้าไม่สามารถทดสอบให้ผู้บำเพ็ญร่วงหล่นได้แม้คนเดียว แล้วข้าจะมีมรรคผลให้ได้เสวยหรืออย่างไร?


ดูซิว่าเจ้าเก่งกาจหรือว่าข้าเก่งกาจ ดูซิว่าเจ้าสามารถหรือว่าข้าสามารถ? ดูซิว่าเจ้าน่าเกรงขามหรือว่าข้าน่าเกรงขาม?สำหรับผู้ที่มักจะวิพากษ์วิจารณ์ เจ้าก็จะต้องได้รับ หากเจ้าบอกว่าเจ้าเป็นศิษย์ของพระวิสุทธิอาจารย์ แล้วจะสูงส่งกว่าคนอื่นๆหนึ่งขั้น มีบุคลิกน่าเกรงขาม การที่จะผ่านการทดสอบของข้าไปให้ได้นั้น ก็ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ข้าจะจับตามองดูเฝ้าอยู่ทุกเวลานาที จะประชิดติดตามจนกว่าจะมีโอกาสที่เหมาะสมจึงจะลากดึงขาหลังของเจ้า ฉุดลากเจ้าลงมา ให้เจ้าไม่สามารถเดินในหนทางธรรมได้อีก ข้าจะผลักให้เจ้าตกไปในทะเล......ทดสอบจนเจ้าไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ทำให้เจ้าไม่อาจสงบจิตญาณของตนลงได้ ทดสอบจนเจ้าไม่สามารถสำแดงออกซึ่งปัญญาได้เลย ทดสอบจนเจ้ากลับตาลปัตร กลับถูกกลายเป็นผิดกลับผิดกลายเป็นถูก ทดสอบจนเจ้าเกิดเรื่องถูกผิดนินทาว่าร้ายอะไรๆ ก็จะเอามาทดสอบเจ้า


เตี่ยนฉวนซือทั้งหลาย อันดับแรกข้าจะทดสอบพวกเจ้าก่อนเจ้าไม่ขอบคุณข้าหรือ ข้าจะทดสอบจนเจ้ายืนอย่างไม่มั่นคง ยืนอย่างไม่สงบ ทดสอบจนเจ้าจะร้องไห้หรือหัวเราะก็ไม่ได้ จะทดสอบจนเจ้าไม่มีความเชื่อมั่นศรัทธาต่อธรรมะจะทดสอบเจ้าจนกระทั่งใครๆ ก็เบื่อหน่ายเจ้าเกลียดชังเจ้า จะทดสอบจนเจ้าไม่มีอาหารจะกิน จะทดสอบให้เจ้าไม่สมจิตสมใจในทุกๆ เหตุการณ์เรื่องราว ถ้าจะทดสอบเจ้าทุกๆอย่าง


ผู้บำเพ็ญในยุคขาวแต่ละคนข้าก็จะทดสอบ หากข้าไม่ทดสอบพวกเจ้า ข้าจะรายงานภาระต่อเบื้องบนได้อย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ชอบระเบิดอารมณ์โมโหโกรธ ข้าก็จะยิ่งทดสอบเจ้า ทดสอบไฟอวิชชาของเจ้า ให้แต่ละอย่างๆ เกิดขึ้นเองโดยปริยาย


ข้ามักจะอยู่ใน “ตำหนักวิสุทธิ์สงบ” ของเจ้าเพื่อทำให้อกสั่นขวัญหายไปหมด จะชักนำให้เจ้าชื่นชอบหมกมุ่นอยู่กับสุรา-ราคะ-ทรัพย์สิน-อารมณ์ ข้าจะชักนำให้เจ้าผิดต่อปณิธานที่ได้ตั้งเอาไว้ จะทำให้เจ้าชื่นชอบหมกมุ่นในกามราคะ เมื่อถึงตอนนั้นข้าก็จะมีบุญกุศลแล้ว เจ้าอย่าได้บอกว่าข้าพญาอสูร ไม่เมตตากรุณาเจ้าอยากจะสร้างบุญกุศล ข้าเองก็อยากสร้างบุญกุศลหากข้าไม่ทดสอบเจ้า ก็ไม่สามารถกลับคืนเบื้องบนได้ ลูกหลานมารของข้าก็ย่อมไม่ได้บารมีจากข้าหนุนส่งไปด้วย จะทดสอบให้พวกเจ้าไม่สมใจสมความปรารถนาในทุกๆ เรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นทางธรรมหรือทางโลก ก็ไม่เป็นไปตามที่นึกคิดคาดหวัง ทำให้พวกเจ้าไม่สนใจไปเสียแปดเก้าเรื่องในสิบเรื่อง


ข้าจะอาศัยผู้บำเพ็ญที่ร้ายกาจดุดัน มาทดสอบพวกเจ้าข้าจะอาศัยสาวสวย (หนุ่มหล่อ) มายั่วยวนให้พวกเจ้าลุ่มหลงติดกับ ข้าจะอาศัยทุกสิ่งทุกอย่างมาทดสอบเจ้า จนพวกเจ้าไม่สามารถรับกันได้ไหว เมื่อนั้นจึงจะปรากฏอริยะปราชญ์เมธี และพุทธะเทพเซียนออกมาได้


เจ้าอยากจะสำเร็จเป็นพุทธะเทพเซียน มันง่ายขนาดนั้นเชียวหรือ เจ้าอยากจะขึ้นสวรรค์ มันง่าย ขนาดนั้นเชียวหรือ อืม!เจ้าจำเป็นต้องผ่านด่านทดสอบของข้าให้ได้เสียก่อน แต่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก


ข้าจะติดตามเจ้าไปทุกที่ทุกเวลา ทดสอบจนเจ้ากลับตาลปัตรหน้าหลังยุ่งเหยิง ทดสอบจนเจ้าไม่มีศรัทธาความเชื่อมั่น ทดสอบจนเจ้าไม่มีความวิริยะก้าวหน้า เตี่ยนฉวนซือเอ๋ย! เจ้ากลัวหรือไม่กลัวเจ้าคิดดูซิว่าแบกภาระพระโองการสวรรค์นั้น มันง่ายหรือไม่ เจ้าก็เหมือนกันที่ต้องเจอการทดสอบจากข้าก่อนข้าจะให้เจ้าเจอการทดสอบเสมอๆ หากไม่ผ่านกัน ก็อย่าหวังจะได้ดื่มเหล้ารสดี (ผลสำเร็จ) เลย หากเจี่ยงชือทั้งหลายมิใช่ที่เย่อหยิ่งอวดดี คิดเอาเองว่าความรู้ความสามารถนั้นมากมาย ข้าก็จะมาทดสอบพวกเจ้า ทดสอบจนพวกเจ้าตกไปสู่ใจมาร เพื่อที่ใจมารของเจ้าจะดึงดูดข้าซึ่งเป็นมารภายนอกเข้าสู่ตัวเจ้า จะต้องจำเอาไว้ให้ดี ข้าจะอาศัยอยู่ที่ตำหนักวิสุทธิ์สงบของพวกเจ้าข้าจะอยู่ข้างกายพวกเจ้าตลอดเวลา ขอแค่มีโอกาส ข้าก็จะเข้าไปในตำหนักวิสุทธิ์สงบของพวกเจ้า


ข้าจะทดสอบพวกเจ้า ทดสอบถันจู่เจ้าตำหนักพระ ทดสอบเจี่ยงซืออาจารย์บรรยายธรรม ทดสอบปั้นซื่อเหยินเอวี๋ยนพุทธบริกรทดสอบเต้าชินญาติธรรม ใครต่อใครก็ต้องถูกทดสอบ ให้เจ้าต้องเดี๋ยวเดินหน้าเดี๋ยวถอยหลัง ดูซิว่าใครจะเก่งกาจสามารถกว่ากัน ดูซิว่าใครเข้มแข็งแกร่งกล้ากว่ากัน ดูซิว่าใครมีความมั่นคงแน่วนิ่ง แสดงกันออกมาซิ พวกเรามาเปรียบเทียบกันดูดีหรือไม่มาเปรียบเทียบกันดู หากเจ้าคิดจะมาเป็นเพื่อนของข้าพญาอสูรลูกหลานมารของข้าก็จะคอยติดตามเจ้าดั่งกับเงาตามตัว ต้องจำเอาไว้ให้ดี ข้าจะคอยตรวจสอบชั้นประชุมธรรมอยู่ที่ด้านข้างนี้


(๓) หนึ่งความคิดเป็นมาร ลุ่มหลงตลอตชาติ


หากหนึ่งความคิดเป็นมาร ก็ย่อมลุ่มหลงไปชั่วชีวิต นิสัยอารมณ์ยังคงมีกันอยู่ ก็ย่อมขุ่นมัวไม่สดใส ตำแหน่งของข้านั้นใครๆ ก็ลุ่มหลงคลั่งไคล้ ใครกันที่จะมาทดสอบพลังบุญของเจ้า?


หากว่าเจ้าเกิดความคิดจิตสั่นไหว ผู้ที่ยึดติดอยู่กับเรื่องถูกผิดนินทาหรือความชั่วความแค้น ความเคยชินกับความยโสอวดดีรวมทั้งจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์ดีงาม ข้าก็จะให้พวกเจ้าสูญเสียการย้อนมองส่องตนและความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งควรจะมีกันในหมู่มนุษย์ ทำให้ชีวิตของพวกเจ้านั้นต้องติดพันอยู่กับแรงกรรมของแดนอสูร ลูกหลานมารของข้าจะมาก่อความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับผู้ที่ชั่วช้าต่ำทราม กับผู้นอกคอกมีความประพฤติไม่ดีงาม จะยิ่งทำให้ความคิดที่จะกระทำผิดกระทำชั่วของพวกเจ้า ถลำดำดิ่งส่วนผู้ที่ถูกทดสอบจนร่วงหล่นไป ก็จะยิ่งพัดกระพือไฟโกรธแค้นในใจของพวกเจ้าขึ้นมาด้วย ทำให้มันลุกโหมเผาไหม้อย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้ต้องต่อสู้กับมารที่แอบแฝงอยู่ในใจของพวกเจ้าแล้วจึงเกิดมายาลวงตาทั้งหลาย และยังจะเอาหญิงสวย (กามราคะ) มาทำให้เจ้าลุ่มหลงยึดติด ทำให้เจ้าต้องทุกข์ทนลำบากเพราะความสัมพันธ์ต่อลูกๆ เจ้าจึงไม่อาจถอนตัวไปได้ ทำให้เจ้าตกไปสู่ “ชีวิตภาวะอดีตกรรม” และบาปกรรมที่หนักที่สุดในปัจจุบันชาติ ให้ต้องรับทุกข์เป็นเวลาอันยาวนาน ต้องให้เจ้าถูกผูกมัดจากคนอื่นไม่หยุดหย่อน ให้เจ้าต้องวิวาทแก่งแย่งกับผู้อื่นไม่หยุดหย่อน โดยที่ไม่สามารถลดละลงได้เลย


ยิ่งกว่านั้นคือ ให้เจ้าต้องใช้ชีวิตอย่างหวั่นหวาดเต็มไปด้วยอันตราย ไม่เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าต้องเลิกล้มถอนตัวออกกลางคันเปลี่ยนแปรความมุ่งมั่นเอาในระหว่างทาง ใจธรรมถดถอยไปแล้ว จึงหลีกห่างไกลไปจากประตูพุทธะอาณาจักรธรรม เป็นเพราะว่าข้าดูถูกดูหมิ่นความยโสอวดดื้อถือดีของผู้บำเพ็ญ ที่มีแต่ชื่อว่าเป็นผู้บำเพ็ญ ที่คิดไปเองว่าตนเองนั้นสูงส่ง และไม่เห็นใครอยู่ในสายตา จงระวังไว้ให้ดีหากถูกข้าจับจ้องมองเห็นเข้า พวกข้าก็จะฉกฉวยโอกาสแล้วเข้าประชิด ทำให้ความดีงามเรื่องดีงามของพวกเจ้าเสียหาย ทำให้พวกเจ้าไม่อาจหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ตลอดไป ไม่อาจสำเร็จเป็นเทพเซียนได้


มีคนพูดกันถึง “ความน่ากลัวของการเวียนว่ายในภูมิวิถีหกในท่ามกลาง เทวภูมิ มนุษยภูมิ เปรตภูมิ เดรัจฉานภูมิ อสูรกายภูมิและ นรกภูมิ นั้น มักจะมองข้ามการดำรงคงอยู่ของอสูรกายภูมิกันพวกเจ้าคิดไปว่า เมื่อได้รับธรรมะแล้วก็จะไม่ตกสู่นรกภูมิไม่ตกไปสู่ความเป็นผี? ข้าขอบอกกับพวกเจ้าว่า หากว่าใจของพวกเจ้ามีความเอนเอียงยึดติด ความคิดไม่ถูกต้องดีงาม ไม่ก้าวหน้าปฏิบัติตามหนทางธรรมของตนเข้า ก็จะทำให้พวกเจ้าจิตใจหวั่นไหว จนไม่รู้ที่จะตรวจสอบพินิจตนได้ อีกทั้งนำพาความชั่วช้ามาประชิตัว ทำให้ในขณะที่พวกเจ้าไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั้น ได้กลายเป็นลูกหลานมารในอสูรกายภูมิ


พวกเจ้าคงคาดคิดไม่ถึงกันว่า ข้าเองก็เคยเป็นผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง แต่ว่าใจพุทธะในวันนี้ เจ้าสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าเมื่อถึงพรุ่งนี้แล้วจะยังคงอยู่? ยากเหลือเกิน ข้าเป็นคนในสมัยหนันซ่ง “เฮ้อเปิ่นหนิง” คือชื่อเดิมของข้า ในตอนนั้นข้าหลอกลวงคนอื่น หลอกลวงฟ้า หลอกลวงเทพผี รับรู้ปฏิบัติตามในทางเปิดเผย แต่ก็ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามในทางลับด้วย ใช้หน้าตาจอมปลอม เพราะความเห็นแก่ตัวของแต่ละคน จึงทำให้ต้องวิวาทแก่งแย่งกับผู้ร่วมบำเพ็ญอื่นๆ และยังชอบเยาะเย้ยถากถางเจ้าอาวาสในสมัยนั้น แต่ข้าเป็นคนที่กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ และยังทำให้ผู้อื่นต้องแบกรับความผิดแทนข้า เมื่อเป็นอย่างนี้ข้าก็ไม่รู้จักสำนึกขมาดีๆ และยังผูกมัดขัดขวางคนอื่น ทำให้ตนเองมีพฤติกรรมไปในทางชอบออกหน้าออกตา เหล่านี้จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ข้าต้องตกมาสู่แดนอสูรในวันนี้


พวกเจ้าไม่ต้องมาคุยเรื่องบุญจริงกุศลแท้ หรือการบำเพ็ญสะสมความดีงามกับข้า ข้ารู้แต่เพียงว่า ใครคล้อยตามข้าก็รุ่งเรืองใครขัดขืนข้าก็มอดม้วย หลังจากที่ข้าทำลายชื่อเสียงอันดีงามของผู้บำเพ็ญแล้วจึงถูกขับไล่ออกจากสำนัก จึงได้ตั้งกลุ่มของตัวเองบิดเบือนวิชาความรู้ประจบสอพลอ หลอกลวงผู้อื่น ด้วยเหตุนี้จึงนำพาเวไนยสัตว์ผิดพลาดไปไม่น้อย และยังมีแผนการชั่วร้าย ปั้นเรื่องใส่ความให้ผู้ออกบวชต้องทุศีล ทำให้คนเหล่านั้นสูญเสียผลบุญที่ทำมาในช่วงเริ่มแรกไปเพื่อจะได้คลายความเจ็บแค้นของข้า


คนในสมัยนั้น ต่างก็พูดกันว่าข้าเป็นมารใหญ่มาเกิด ดังนั้นใครเห็นใครก็กลัว และต่างพากันละทิ้งทอดทิ้งไปหมด แต่ในทางกลับกันข้าเกิดความชื่นชอบ คิดว่าตนเองนั้นมีกุศลผลบุญใหญ่ผู้คนบนโลกควรที่จะเคารพนบไหว้ต่อข้า


ในตอนที่กำลังจะละกายสังขารนั้น ใจของข้านั้นยังไม่ตายยากที่ความชั่วร้ายจะมลาย ความคิดที่ไม่ดียังไม่ได้กำจัดทิ้งหลังจากตายไปแล้วจึงไม่ได้สำนึกแก้ไข จึงได้ไปยังแดนมารอยู่ภายใต้การควบคุมของพญามาร ในขณะนั้นเอง เป็นเพราะความผูกติดเกี่ยวโยงของความคิดและแรงกรรม จึงต้องตกต่ำถลำลึกไปยังหลุมลึกที่ไร้ก้นบึ้ง ในชั่วแวบนั้นเอง จึงมีเขามารสองเขางอกขึ้นมาบนหัว บนตัวก็เกิดหนามแหลมเต็มไปหมดรอบตัวก็มีไฟลุกกระพืออยู่ เส้นผมก็ชี้โด่เด่ ใบหน้าสีดำ และมีเขี้ยวโง้งหน้าตาน่าเกลียดอัปลักษณ์ หากไม่มีรูปลักษณ์อย่างนี้ จะทำให้คนบนโลกตกอกตกใจหวาดกลัวได้อย่างไร


ขอบอกกับพวกเจ้าว่า จงระวังมารเล็กมารน้อยทั้งหลายของข้าที่จะคอยเสาะหาผู้ที่ไม่มีความกระปรี้กระเปร่า ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างท้อแท้สิ้นหวัง ผู้ที่ในใจไม่มีความดีงามเลยแม้แต่น้อย หรือผู้ที่ไม่มีความเที่ยงตรงถูกต้องในใจ ข้าก็จะให้พวกเจ้าต้องประสบกับมาร เจอะเจอกับโรคภัยทำให้มารแห่งโรคภัยมากลุ้มรุมอยู่บนตัว จะได้ทำให้พวกเจ้าเจ็บป่วยไม่ว่าจะกินยาหรือผ่าตัดหรือจะใช้ทรัพย์สินทั้งหมด ของครอบครัวมาเยียวยารักษาก็ไม่อาจรักษาให้หายได้ ข้าจะทำให้พวกเจ้าอยากอยู่ก็ไม่ได้อยากตายก็ไม้ได้อีก ต้องรู้ไว้ว่าพวกข้าจะแทรกซอนเข้าไปในทุกขุมอณูไม่มีที่ที่พวกข้าไปไม่ถึง


การที่คนบนโลกประสบกับอุบัติเหตุ หรือว่ามีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้านั้น ไม่ใช่ว่าจะไร้สาเหตุหรือไม่มีที่มาที่ไป ล้วนแล้วแต่มีผีมารหรือเจ้ากรรมนายเวรคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นนี่เป็นความร้ายกาจที่ไม่มีรูปลักษณ์ นี่คืออันตรายที่มองไม่เห็น ทุกสิ่งทุกอย่างก็อยู่ในจิตใจของพวกเจ้าเอง มีหรือไม่มีพลังธรรมอันวิสุทธิ์ดีงาม? ไม่เช่นนั้นก็จะถูกพวกข้าพิชิตกำราบเอา


โลกในยุคปัจจุบันนี้ มีสิ่งแปลกประหลาดมากมายเกิดขึ้นรวมทั้งภัยสงครามและเภทภัยทั้งหลาย ภัยพิบัติที่ลงมาสู่โลก นั่นเป็นเพราะคนเราก่อกรรมทำเข็ญเอง ก็เหมือนกับแมลงเม่าที่บินเข้าสู่กองไฟหนอนไหมที่ทำรังห่อหุ้มตัวเอง ทำเองก็รับผลเอง


มีคำกล่าวว่า “เจ้ากรรมมีอยู่จริง หนี้แค้นสนองจริง” พวกเจ้าแต่ละคน เป็นเพราะจิตใจที่ไม่วิสุทธิ์สงบจากหลายภพหลายชาติ จึงมีผลกรรมที่ก่อขึ้นทางกาย-วาจา-ใจ และยังมีแรงกรรมแต่ละอย่างรวมกันแล้ว กลายเป็นเหตุต้นผลกรรมวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่อยู่ในนรกภูมินั้น ถ้าหากได้ “ป้ายทวงชีวิต” มาอยู่ต่อหน้าพวกเจ้าแล้ว การเอาชีวิตของพวกเจ้าที่อยู่บนโลกนั้นก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ในตอนนี้ ข้าพร้อมลูกหลานมารก็จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพื่อทำให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายได้สมปรารถนา พวกเจ้าจึงต้องระมัดระวังหนทางชีวิตของตัวเองต้องระวังทุกย่างก้าวของตนเอง อย่าได้โทษว่าพวกข้านั้นไร้เยื่อใยไร้มโนธรรม


ยังมีอีกคือ หากในครอบครัวไหนไม่มีพลังความดีงาม กลับก่อบาปสร้างกรรมมากมาย พวกข้าก็จะรอคอยพวกเจ้าอยู่ที่ด้านนอกของบ้านเรือน เพื่อทำให้พลังความเลวร้ายหมุนวนอยู่รอบกาย รอจนกระทั่งดวงของคนคนนั้นตกต่ำ ก็จะเข้าประชิดตัวให้เจ้าได้สร้างบาป และยังชักนำให้เจ้าประพฤติผิดต่อเรื่องมนุษยธรรม (ธรรมของคน) และอนุตตรธรรม (ธรรมของฟ้า) เพื่อให้ผิดบาปของเจ้านั้นหนักหนามากมายขึ้น และผู้บำเพ็ญที่จิตใจไม่ราบเรียบเป็นปกติและที่หยิ่งยโส ข้าก็จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรทวงหนี้ได้โดยที่เจ้าไม่รู้ตัว ให้รู้สึกว่าทุกๆ เรื่องราว ทุกๆ เหตุการณ์ไม่ราบรื่น ทำให้พวกเจ้าไม่มีความเป็นผู้เป็นคน เพื่อจะทำให้พวกข้าฉวยโอกาสประชิดตัวได้ สำหรับผู้ที่ใช้ความฉลาดมาบำเพ็ญธรรม ข้าก็จะให้พวกเจ้าได้มีชื่อเสียงจอมปลอม ทำให้พวกเจ้าเกิดความกระหยิ่มยิ้มย่องใจ จึงไม่รู้จักย้อนมองส่องตน บดบังประทีปที่สว่างไสวในใจของเจ้า ชักนำให้เจ้าเดินไปสู่ความมืดมนอับแสง พวกเจ้าได้แต่ตั้งปณิธานกันแบบเห็นเป็นของเล่น! และขอบเขตระหว่างชายหญิงก็ไม่ชัดเจน ที่ชอบที่สุดคือให้จิตใจของพวกเจ้าไม่สว่างไสวเสมอๆ จะได้ยิ่งทำให้พวกข้าเข้าใกล้ประชิดตัวพวกเจ้ามากขึ้น นำให้พวกเจ้าเดินไปในหนทางมิจฉาเลวร้ายทำให้พวกเจ้า ไม่สามารถกำจัดเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้ายทิ้งไปได้ จึงทำให้ได้รับผลตอบสนองที่น่าหวาดกลัวทุก ๆ อย่าง


หากพวกเจ้าไม่ทำหูให้สะอาดสงบ ปากไม่รู้จักเก็บมิดที่ซ่อนเอาไว้ ไม่รู้ที่จะประคองรักษาหน้าที่พื้นฐานเพื่อปฏิบัติธรรม และคอยมองหาคุ้ยเขี่ยความไม่ดีงามของผู้อื่น ข้าก็จะทำให้เจ้าติดอยู่ในวังวนของเรื่องถูกผิดนินทาว่าร้ายตลอดไป ทำให้อินทรีย์หกของเจ้าไม่วิสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่สามารถเป็นสุขได้ในการใช้ชีวิต ข้าจะทำให้คนบนโลกจิตใจไม่สงบ เพราะความถูกความผิดบุญคุณ และความแค้น และให้ต่างเข่นฆ่าทำลายกัน


เมื่อธรรมสูงหนึ่งฟุต มารก็จะสูงหนึ่งเมตร กระจกถ้าไม่ได้ขัดเช็ดก็ย่อมไม่สว่าง พวกเราลองหาโอกาสมาประลองกันสักหน่อย ไม่แน่ว่าเจ้าที่นั่งอยู่ที่นี่ ก็คือคู่ปรับที่ข้าตามหานั่นเอง! ให้ข้าเป็นเงาติดตามตัวเจ้าก็แล้วกัน! ทำให้รูปกาย (เจ้า) กับรูปเงา(ข้า) ไม่แยกห่างจากกัน จะได้มีเยื่อใยผูกพันกัน เพื่อที่เจ้าจะได้เข้าใจถึงโฉมหน้าเดิมทีของข้าได้มากขึ้น จะทดสอบจนพวกเจ้ากายพ่ายแพ้ และชื่อเสียหาย เป็นอุปสรรคขัดเกลาจนไม่อาจเป็นผู้เป็นคนได้


ธรรมจริงแท้มีอยู่แค่กายเดียว นั่นคือความสว่างไสวที่ไร้ขอบเขตมารมีอยู่มากมาย ก็คือความคละเคล้าปะปน ความอับแสง หากเจ้าลุ่มหลงยึดมั่นถือมั่น ประพฤติปฏิบัติออกนอกลู่แนวทาง มีความลำเอียงอคติ หากไม่ได้บำเพ็ญตนเอง ไม่บำเพ็ญขัดเกลาให้จิตใจดีงาม และความคิดถูกต้องไม่สับสนแล้วละก็ พวกข้าก็จะมานำพาพวกเจ้าไปยังแดนมารที่มืดมนอันธการทำให้พวกเจ้าไม่รู้ตัวรู้ตน พวกเจ้าไม่สามารถหลีกพ้นจากอุ้งมือพญาอสูรอย่างข้าไปได้ ทุกคนพึงรู้ถึงความสำคัญของภาระอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองแบกรับอยู่ แต่จะมีใครสักกี่คนที่สามารถทำตาม สิ่งที่ควรทำและฟังบัญชาของเบื้องบนได้ จะต้องแสดงออกมาเป็นความจริง? ใจดวงนี้ของเจ้าเดี๋ยวก็ขึ้นเดี๋ยวก็ลงกระเพื่อมสั่นไหวไม่สงบนิ่ง ให้พวกเจ้าและอุทิศทุ่มเท เจ้าก็รู้สึกว่าได้รับความไม่เป็นธรรม ให้เจ้าทุ่มเทอุทิศ เจ้าก็คิดแต่ว่าจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนกลับมา หากไม่เป็นไปตามความปรารถนาหรือไม่ได้รับการยอมรับจากคนอื่น ก็จะสูญเสียความมุ่งมั่นเกิดความท้อแท้ใจ เปรียบเทียบแข่งขันกันแต่เรื่องชื่อเสียงผลประโยชน์ยึดติดอยู่กับอัตตาตัวตน หากว่าความผิดจุดอ่อนของพวกเจ้าเหล่านี้ ตกมาอยู่ในเงื้อมมือของข้า ข้าก็จะจับพวกเจ้าแต่ละคนๆจะทำให้พวกเจ้าได้ปล่อยไก่หน้าแตกต่อหน้าผู้อื่น


อย่าได้คิดว่ากายสังขารนี้ของพวกเจ้า เป็นสีคุ้มกันให้กับตนเองหากเกิดความคิดที่ชั่วร้ายขึ้นมา ล้วนถูกเก็บแฝงเร้นเอาไว้เทพกับผีมองเห็นพวกเจ้าได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เหมือนลำตัวโปร่งแสง พวกเจ้ากลัวกันหรือไม่? ไม่จำเป็นต้องกลัวกันหรอกมีคำพูดกล่าวว่า “ใจไม่ลวกหยาบ ก็เย็นสบาย” พวกเจ้าหากปฏิบัติได้ถูกต้องดีงาม ต่อให้พวกข้ามารทั้งหลายจะมีฤทธิ์เดชมากขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถจัดการกับพวกเจ้าได้ ไม่เช่นนั้นหากพวกเจ้าไม่ก้าวเดินไปในหนทางอันถูกต้องดีงาม ความประพฤติไม่ตรงไปตรงมา จิตใจไม่กระจ่างแจ้ง ก็ทำให้พลังดีงามไม่เจริญ ในตอนนั้นก็ย่อมมีความระแวง เกิดมีผีแอบแฝงใจมารก็จะก่อขึ้นเอง ก็อย่าได้โทษพวกข้าว่ามาโดยไม่ได้เชื้อเชิญจึงทำให้พลังเลวทรามวนเวียนอยู่รอบกายของพวกเจ้า พวกเจ้าจึงไม่สามารถนั่งนอนได้เป็นสุข จิตใจว้าวุ่นไม่สงบคงนั่งได้ทำให้ “บริเวณหว่างคิ้ว” (ซึ่งก็สื่อถึงบริเวณญาณทวารนั่นเอง)มืดมนอับแสง ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้พบเจอพวกเจ้าก็จะไม่กล้าเข้าใกล้ ทำให้พวกเจ้าชอบหลั่งน้ำตาโดยไม่สามารถควบคุมได้เลยคำพูดวาจา และพฤติกรรมความประพฤติก็สูญเสียความเป็นปกติที่ดีงามไป ทำให้วิญญาณกลับตาลปัตร ไม่เป็นผู้เป็นคน


ปัจจุบันนี้ มีโรคเจ้ากรรมนายเวรมากมายที่รักษาแต่ก็รักษาไม่หาย เยียวยาแต่ก็เยียวยาไม่ดีขึ้น ใช่หรือไม่? นี่จึงเป็นข้อยืนยันได้ถึงการตัดสินบัญชีครั้งใหญ่ในยุคสามวาระท้ายปลายกัป เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายต่างก็เร่งรัดในการทวงหนี้เวรกรรมคืน หรือบ้างก็ทวงเอาชีวิตมารก็จะคอยช่วยเหลือ เป็นการตัดสินชี้ขาดครั้งใหญ่ ระหว่างคนกับผีขัดเกลาจนจิตใจหรือร่างกายของพวกเจ้านั้น ไม่อาจที่จะทนทานได้ไหวทำให้พวกเจ้ารู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง


วาระท้ายปลายกัปนี้ พวกเจ้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ดูซิว่าพวกเจ้าจะรับมือกับพวกข้าอย่างไร หรือจะให้พวกข้ามากำราบเจ้าจนล้มไป ถึงแม้ว่าพวกข้าจะเป็นแขกที่ไม่รีบเร่ง แต่ในอนาคตพวกเจ้าคงจะต้องขอบคุณพวกข้า ถ้าสามารถพูดได้แต่ทำไม่ได้หรือสักแต่พูดแต่ไม่ขัดเกลาฝึกฝน ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่บำเพ็ญพรหมจรรย์ ด่านเกี่ยวกับกามราคะนั้นยากที่จะหนีพ้นไปได้ง่ายๆ “ห้าล้ำเลิศ-สี่เที่ยงตรง” ทำกันได้กี่มากน้อย หากไม่รู้ที่จะแปรสัมพันธ์ทางโลกให้เป็นสัมพันธ์ทางธรรม หากดวงตาซัดส่ายสับสน ก็ย่อมถูกมารราคะเข้าประชิด พวกเจ้าทำถูกต้องต่อปณิธานที่ได้ตั้งเอาไว้หรือไม่? พวกเจ้าได้ตั้งปณิธานสำคัญต่อหน้าพระอนุตตรธรรมเจ้า ก็เหมือนกับทำสัญญาที่ได้ลงตราประทับเอาไว้แล้ว มีข้อสัญญาจึงจะมีพยานหลักฐานจะบิดพลิ้วไม่ยอมรับไม่ได้ ดังนั้นปณิธานของพวกเจ้าก็คือภาระหน้าที่ที่ต้องทำของพวกเจ้า หากทำหน้าที่ได้ไม่ดี ก็จะเป็นการตัดขาดชีวิตของตนเอง และไม่มีประโยชน์ต่อหน้าที่ของตนไม่อาจบรรลุหน้าที่ของตนได้


วันนี้พระอนุตตรธรรมมารดาทรงเมตตากรุณา แม้จะไม่เรียกว่าเป็นผู้ผิดต่อปณิธาน หัวไม่ขาดชีวิตไม่สิ้น แต่เมื่อตั้งปณิธานล้วนแต่ไม่ไปเจริญบรรลุปณิธานนั้นๆ ก็ย่อมถูกจิตอัน ดีงามประณามโดยทำให้ร่างกายทุกข์ทรมาน และชีวิตจิตญาณเสียหายรู้ทั้งรู้แต่ก็ยังทำผิด บาปก็ต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว พวกเจ้าพิจารณาโทษกันเอาเถิด!

0
255

ครั้งที่ 30 ตอน ท่องหอส่องบ้านเดิมพบยมบาลเซียมล้ออ๊วง

1654918052.jpg
mindcyber
10 months ago

ทำลายสาวพรหมจรรย์จนชื่อเสียถึงกับฆ่าตัวตาย

1654918052.jpg
mindcyber
2 months ago
ซุปไข่มังสวิรัติ

ซุปไข่มังสวิรัติ

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

มหาโพธิสัตว์กับจุลโพธิสัตว์

พระมัญชุศรีโพธิสัตว์

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

กรรมของโสเภณี

วิญญาณบาปจากนรก

1654918052.jpg
mindcyber
11 months ago