mindcyber 1 month ago
admin #holy

เส้นทางอริยะ ตอนที่สามสิบ

สมุนยาพิสดาร              แฝงความเมตตารักษาสารพัดโรค

โรคพิสดารเหตุจากกรรม สร้างบุญขจัดปัดเป่า

อรหันต์จี้กง เสด็จลงประทับทรง วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2527

กลอนนำเสด็จ

           เพราะมีกายเราไซร้         จึงได้มีเคราะห์บ่ส่าง

หากปราศจากร่าง                       จิตที่ว่างไม่สับส่าย

จำหน่ายส่วนเกินทิ้ง                    ที่เหลือยิ่งเบาสบาย

ความกังวลมลาย                         อย่าขวนขวายให้ปวดหมอง

อรหันต์จี้กง : ท่านเล่าจื้อ กล่าวว่า “ข้ามีความทุกข์ยาก เพราะมีกายนี้” พุทธองค์ ตรัสว่า “การชุมนุมสี่มหาภูต จึงเวียนว่ายตายเกิด” ด้วยเหตุนี้ กายมนุษย์อันจอมปลอมจึงก่อเคราะห์กรรมไว้ไม่น้อย

     ชั่วชีวิตของคนๆ หนึ่ง ต้องทานยา หาหมอ ฉีดยา ผ่าตัด สารพัดเพื่อช่วยชีวิต ล้วนเพราะมีกายนี้ จึงพบกับความทุกข์เพื่อที่จะขจัดทุกข์ ก็ควรจะปฏิบัติตัวเจริญธรรม เพื่อลดการเจ็บป่วย ตัวอย่างที่สำนักนี้ ศิษย์ลี้ ซื่อ ซิ้วกี เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล ได้รับการผ่าตัด คงมีความเข้าใจซาบซึ้งเนื่องจากการแต่งหนังสือนี้ ก็มีการพูดถึงความเจ็บป่วยของมนุษย์ ดังนั้น จึงคิดจะไต่ถามถึงความรู้สึกที่ได้รับจากการผ่าตัดครั้งนี้ เป็นโรคอะไรหรือจึงต้องผ่าตัด

ซิ้วกี :  ทางเดินอาหารผิดปกติ

อรหันต์จี้กง : ทำไมจึงผิดปกติ

ซิ้วกี : ศิษย์คิดว่าคงเกี่ยวกับอารมณ์ เพราะบ่อยครั้งที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย เลยทำให้ทานอาหารไม่ค่อยลง คิดไม่ตก

อรหันต์จี้กง :  ฮา ฮ้า! พอคิดไม่ตกก็เลยทานยา ใช่ไหม

ซิ้วกี :  รู้สึกละอายใจ

อรหันต์จี้กง :  หาทุกข์ใส่ตัว ก่อให้เกิดโรค เพราะฉะนั้นอาตมาจึงอยากให้ปฏิบัติธรรม ก็จะสามารถลดความเจ็บป่วยลงเพื่อนำลงในหนังสือนี้ ภายหลังการผ่าตัดแล้ว เธอมีความรู้สึกและความคิดเห็นอย่างไร

ซิ้วกี :  สืบเนื่องจากวางมือจากหน้าที่ในบ้านไม่ได้ จึงปล่อยปละละเลย ไม่คิดจะไปผ่าตัด ต่อมาฝันว่ามีเทวดาเข้าฝันแนะนำให้ในฝันนั้นก็ได้ฝันถึงนายแพทย์ผู้หนึ่งผ่าตัดให้ พอศิษย์ไปถึงโรงพยาบาลก็ได้พบกับนายแพทย์ผู้นั้นตามฝัน จึงไม่รีรอให้เขารักษาผ่าตัดให้ คงเป็นเพราะศิษย์กับนายแพทย์ผู้นี้คงมีกรรมสัมพันธ์ต่อกัน จึงได้รับความปลอดภัยผ่านฆาตเคราะห์ครั้งนี้ไปได้ ต้องกราบขอบพระคุณเทพ พุทธ ที่เมตตาช่วยเหลือ

อรหันต์จี้กง : นอนโรงพยาบาลกี่วัน

ซิ้วกี :  ทั้งหมดสิบแปดวันคะ

อรหันต์จี้กง : ผ่านการผ่าตัดใหญ่โดยมีเรื่องอัศจรรย์ ทั้งนี้เพราะเธอมีความศรัทธาต่อเทพ พุทธ ที่สำนักนี้ เทพ พุทธ จึงได้ช่วยเหลือเธออย่างลับๆ เธอจึงฟื้นกลับคืนโดยรวดเร็ว มนุษย์มีโรคหนัก ต้องมีสาเหตุจากปางก่อน เจ้ากรรมนายเวรจึงประชิดตัว มีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้มาก ดังนั้นจึงต้องถูกชำแหละแหวะท้องเพื่อสังเวยการอาฆาต วันนี้เจ้ายังไม่หายดีก็มาช่วยงานที่นี่ อาตมารู้สึกยินดี จึงจะช่วยขจัดปัดเป่าเวรกรรมให้เจ้า เพื่อจะได้หายวันหายคืน รู้หรือเปล่า

ซิ้วกี :  การผ่าตัดครั้งนี้ ทำให้รู้สึกซาบซึ้ง เข้าใจอะไรไม่น้อยศิษย์กราบขอบคุณความเมตตาการุณย์ของเทพ พุทธ ที่ช่วยเหลือ ต่อไปจะตั้งใจวิริยะอุตสาหะยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณความรักของเทพ พุทธ

อรหันต์จี้กง : ฮา ฮ้า! เทพ พุทธ นั้นเมตตาอยู่แล้ว มีแต่มนุษย์ที่ไม่รู้จักสำนึกผิด ก่อกรรมทำเข็ญไว้มาก แล้วจะให้ทำอย่างไร ศิษย์หยางขึ้นบนบัวอาสน์เถิด

หยางเซิง :  ขอรับกระผม! วันนี้จะไปที่ไหนขอรับ

อรหันต์จี้กง :  สุดแต่พบจักปลอดภัย

หยางเซิง : ขอรับๆ คนหากสุดแต่พบจักปลอดภัย เชื่อว่าคงมีแต่ความสวัสดิมงคล

อรหันต์จี้กง :ชาวโลกส่วนใหญ่มักไม่พอใจกับความมีอยู่ในปัจจุบัน ถึงแม้จะอยู่ฐานะที่ดีที่สุดแล้วยังรู้สึกไม่พอ จึงเกิดความฟุ้งซ่าน จิตเกิดความโลภ กลับนำ “ความมีโชค” ไปเปลี่ยนเป็น “ความซวย” ซึ่งล้วนเกิดจากการหาภัยเข้ามาเอง มิใช่สวรรค์ไม่ประทานโชค ดังนั้น คำว่า “สุดแต่พบจักปลอดภัย” เป็นคติพจน์ หากสามารถรักษาคติพจน์นี้ได้โลกมนุษย์ก็เป็นแดนสวรรค์ แม้แต่ในห้วงรักษาลึกของขุมนรกยังกลายเป็นสระดอกบัวขาวได้ ศิษย์หยางเจ้าจงมองดูลงไปดูทิวทัศน์เบื้องล่าง

หยางเซิง :  ด้านล่างเป็นโรงพยาบาลหลังใหญ่ มองจากบัวอาสน์ผ่านหลังคาโรงพยาบาล เหมือนมองผ่านแผ่นกระจกใส มีผู้ป่วยนอนเต็มไปหมด บ้างก็ร้องครวญคราง บ้างกำลังรับน้ำเกลือบ้างก็นอนหลับ อากาศเบื้องบนอาคารทำไมจึงมีไอธาตุที่เย็นยะเยือก รู้สึกอยากจะสำรอก

อรหันต์จี้กง :  เทพ พุทธ จะเห็นทะลุถึงทุกบ้านช่อง หน้าต่างสวรรค์นี้ไม่มีอะไรปิดบัง เพราะเจ้านั่งอยู่บนบัวอาสน์ ผสานจิตกับอาจารย์ไปแต่งหนังสือนานแล้ว จึงเกิดมีทิพย์จักษุจึงมีแววตาเช่นนี้ ไอธาตุที่เย็นเหนือโรงพยาบาล เพราะผู้ป่วยมีจิตธาตุที่จมลึก จึงเกิดพลังของความมืดครึ้ม ประจวบกับผู้ป่วยถูกเจ้ากรรมนายเวรจากอดีตชาติแก้แค้น เจ็บปวดครวญคราง ตาปุถุชนไม่เห็น หารู้ไม่ว่าในความไม่เห็นก็มีวิญญาณจองล้างจองผลาญกัน ดังนั้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับความอบอุ่น และพลังจากเทพ พุทธ เพื่อให้หลุดพ้นจากกรรมสนอง โชคดีที่มีเหล่านายแพทย์ พยาบาลให้ความช่วยเหลือให้ฟื้นคืนกลับ ดังนั้น โรงพยาบาลก็เหมือน วัดศาลเจ้า มีหมอดุจเทพ พุทธ ผู้ป่วยดุจสรรพสัตว์ สรรพสัตว์ต่างได้รับโทษมากน้อยต่างกัน เสียดายที่ไม่อาจล่วงรู้ได้จะได้ขอให้เทพ พุทธ ช่วยเหลือ สำหรับผู้ที่มาถึงวัด ก็ยังไม่รู้จักอดทนฝึกฝน สำนึกผิด สร้างกุศล เหมือนผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลคิดแต่มาเที่ยวทัศนาจร โดยสำคัญผิดคิดว่าตนไม่เจ็บป่วย เมื่อเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์แล้วจิตยังมีความประพฤติเช่นนี้ เที่ยวผ่านเลยไปโดยไม่ได้อะไร ก็เหมือนผู้ป่วยที่พบหมอผู้เก่งกาจ แล้วก็ยังพลาดโอกาสรักษา

หยางเซิง : อาจารย์พูดถูก ชาวโลกมีโอกาสเข้าถึงแดนศักดิ์สิทธิ์(วัด สำนักสงฆ์ โรงเจ ศาลเจ้า) ควรจะได้รู้สำนึกถึงที่สุดมี่ความวิริยะปฏิบัติธรรม เหมือนได้พบ เทพ พุทธ แต่แล้วก็ไม่รู้จักแสวงหา “ธรรม” เมื่อพลาดโอกาสเกิดเป็นคนก็ยากแท้ที่จะกลับคืน

อรหันต์จี้กง :  เราอย่าได้รีรอ รีบเร่งเดินทาง หาที่พิสดารกันเถอะ..........ถึงที่แล้ว

หยางเซิง : ดูเหมือนเราเคยมาที่นี่กันแล้ว เป็น “ภูเขาสมุนยา” ใช่ไหม

อรหันต์จี้กง :  ถูกแล้ว เจ้าดูซิ ท่านฮั้วท้อเซียนซือลอยละลิ่วมาถึงแล้ว

หยางเซิง :  ขอกราบนมัสการ ท่านเซียนซือ

ฮั้วท้อ : มีต้อง! วันนี้ท่านทั้งสองมาถึง ภูเขาสมุนยา มิทันต้อนรับแต่ไกล โปรดอภัยด้วย

อรหันต์จี้กง :คิดจะขโมยเด็ดสมุนยา หารู้ไม่ว่าท่านมาถึงเลยทำให้ไม่กล้าลงไม้ลงมือ

ฮั้วท้อ : ฮา ฮ้า! ท่านพระจี้กงพูดเล่นอีกแล้ว ที่จริงชาวโลกมียาอายุวัฒนะอยู่แล้ว แปลกที่เขาทิ้งเสียเอง แล้วก็เสียเงินทองไปหาซื้อยามาอีก จึงค่อยสบายใจ

อรหันต์จี้กง :  หมายความถึงอะไรนะ

ฮั้วท้อ : ทุกคนมียาอายุวัฒนะ คือพรหมจรรย์ ธาตุ(ปราณ)สติ สามสิ่งวิเศษ แต่ไม่รู้จักถนอม วุ่นวายจนเหน็ดเหนื่อยหมดเรี่ยวแรง กินดื่มเสียท้องพองหายใจหอบ เป็นบ่อเกิด แห่งความเจ็บป่วย กลับกลายเป็นโทษ

อรหันต์จี้กง : ท่านเซียนซือพูดถูก ชาวโลกมิใช่ไม่มีเงินแต่ทำไมทุกคนจึงบ่นว่าจนๆ ล้วนแต่เพราะไม่รู้จัก “ประหยัด”

หยางเซิง : อาจารย์พูดถูก ทุกๆ คนควร “พบธรรม” แต่เพราะ “ขาดบุญ” ดังนั้นจึงไม่เห็นธรรม ท่านเซียนซือโปรดนำชมสมุนยาเถิด

ฮั้วท้อ : ภูเขานี้มีสมุนยาจำนวนมาก ไม่สามารถพูดให้หมดที่เดียว ข้าฯจะพาท่านดูเพียงบางส่วนก็แล้วกัน

หยางเซิง : ก็ดี ขอรับ ติดตามหลังท่านเซียนซือไปตามทางเดินบนภูเขา ลัดเลาะขึ้นไปบนเขา ริมทางทั้งสองข้างมีสมุนยาปลูกเต็มไปหมด ดูมีชีวิตชีวา ชุกิ่งช่อไสว ยานี้ไม่เห็นมีบนโลก

ฮั้วท้อ :สมุนไพรนี้ เรียกว่า “หญ้าคลายทุกข์”

หยางเซิง :ดูเหมือนดอก “กิมจัมฮวย” (ดอกเข็มทอง) ดูน่ารักไหวติงเองแม้ไม่มีเลย น่าแปลก! จะช่วยอธิบายถึงสรรพคุณของยาสักหน่อยจะได้ไหม

ฮั้วท้อ : สมุนยานี้มีสรรพคุณในการคลายทุกข์ ละอองเกสรเป็นสีเหลืองเหมือนใจมีเมตตา ความรัก ไม่มีลมพัดแต่พัดไกลเองเหมือนคนสบายใจ คนที่มีความรัก มีความสบายใจเห็นทุกอย่างก็ปล่อยวางได้ ปลงได้ ทุกอย่างดุจลมพัดพาไปใจคอรู้สึกเบาสบาย แล้วจะมีความทุกข์อะไรเล่า

หยางเซิง : คิดไม่ถึงว่า สมุนไพร สวรรค์ แฝงเร้นไปด้วยความหมายที่แยบยล

ฮั้วท้อ :  ต้นนี้เป็น “เชี่ยงชุนเช่า” (หญ้าเขียวนาน)รับประทานแล้วจะเป็นหนุ่มถึงหมื่นปี

หยางเซิง :หญ้าเขียวนานนี้ ทำไมจึปลูกในน้ำใส โดยไม่ตายได้

ฮั้วท้อ: เพราะชีวิตอยู่อย่างอัศจรรย์ นิสัยชอบน้ำสะอาดไม่ต้องมีปุ๋ย ทานยานี้แล้วจะเป็นหนุ่มไม่แก่ ชาวโลกหากเรียนแบบยาขนานนี้ ก็เหมือนต้นเขียวหมื่นปี ปลูกในน้ำสะอาดก็อยู่ได้นาน แต่เพราะนิสัยคนสกปรก มีความโลภ พาความกังวลมาสู่ตัว เลยเจ็บป่วยไม่หยุดหย่อน หากจิตรักษาความสะอาดบริสุทธิ์ ทานผักดื่มน้ำเหมือนท่านขงจื้อ ที่มองความร่ำรวยและยศศักดิ์เหมือนเมฆลอย ไม่แน่นอนหากหลีกห่างความโลภ ฟุ้งซ่านและความสกปรกขุ่นมัว ก็สามารถจะยืนยาวอยู่ได้ เหมือนผู้อยู่บนภูเขา ถึงไม่มีของทะเลและเนื้อสัตว์ที่ดีๆ มาบำเรอ มีแต่ข้าวธรรมดา ผักหญ้าและอากาศบริสุทธิ์ ก็กลับแข็งแรงและอายุยืน

หยางเซิง : ตัวนี้เหมือน “คงซิมไฉ่” (ผักไส้กลวง=ผักบุ้ง)มันใช้ทำยาได้ไหม

ฮั้วท้อ : ท่านอย่าดูถูกมันนะ เพราะมันไส้กลวง มันจึงมีชีวิต(ขึ้นได้) ทุกหนทุกแห่ง เพียงเอามาปักก็ขึ้นแล้ว แม้แต่ในคลองหรือในนาข้าวก็สามารถขึ้นได้ เมื่อเด็ดไปแล้ว มันก็แทงยอดขึ้นมาอีก

หยางเซิง : ฟังท่านเซียนซือพูดถึงความเป็นอยู่ของมัน แล้วสรรพคุณละ

ฮั้วท้อ : ผักไส้กลวง ก็เป็นผักบุ้งในโลกมนุษย์ แต่สรรพคุณไม่เท่ากัน ผักบุ้งก็ใช้แก้พิษ แก้อักเสบ ขับปัสสาวะ และสบายใจ หากคนพบกับเรื่องราวต่างๆ แล้วไม่เก็บไว้ในใจก็ไม่อุดตัน ก็เหมือนได้กินผักบุ้ง คือจะไม่กักเรื่องไว้ ใจก็ปลอดโปร่ง เมื่อพบกับฆาตเคราะห์ ความกดดัน ต่อต้านหรือเจ็บป่วย เป็นต้น ก็ให้อดทนจนสุดความสามารถของมนุษย์ ฟังมติสวรรค์ เหมือนผักบุ้ง แล้แต่กรรม จึงสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่ต่างๆ กัน ไม่กัดพิษ คลายทุกข์ให้สะอาดเสมอจึงมีคุณสมบัติในการ แก้พิษ แก้อักเสบ ขับน้ำ มันยังเป็นผักที่ให้เราได้รับประทานไม่หมด พอตัดก็จะแทงยอดอีก อยากให้ชาวโลกได้เรียนแบบมัน ถ้าหากพบกับการสูญเสีย ก็อย่าโกรธแค้น ต้องยืนหยัดให้มั่นเพื่อฟื้นคืนมาใหมี เหมือนผักบุ้งพอเด็ดไปก็แทงยอด เหมือนสูญเสียแต่ไม่สูญเสีย คนหากรักษาอุดมการณ์นี้ไว้ก็จะไม่มีทุกข์กังวล

หยางเซิง :  ฟังท่านเซียนซือเล่ามา ได้ประโยชน์ไม่น้อย ผักบุ้งนี้แฝงเร้นด้วยหลักธรรมแยบคาย ทำให้รู้สึกเส้นทางที่จะไปทุกอย่างมีช่องทาง ขอถามท่านเซียนซือ ทำไม “ผักแดง” นี้จึงขึ้นงามนัก มันใช้ทำอะไรได้บ้าง

ฮั้วท้อ : หญ้านี้เรียกว่า “หญ้าบำรุงเลือด” ฟ้าดินสร้างได้พิสดาร ก้านใบสีแดง ซึ่งหมายถึง ใช้บำรุงเลือด สร้างเลือด หยางเซิงลองๆเอามือคลำดู รู้สึกอย่างไรบ้าง

หยางเซิง : เอามือลูบคลำต้นผักแดงดู มีความรู้สึกอบอุ่นเหมือนมีความร้อนอย่างนั้น น่าแปลกดีนะ

ฮั้วท้อ :  คุณสมบัติเฉพาะของ “หญ้าบำรุงเลือด” เนื่องจากเลือดอบอุ่น หญ้าบำรุงเลือดจึงมีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะบำรุงเลือด มติสวรรค์พิสดารยิ่ง จักรวาลซ่อนเร้นสัจธรรมคณานับ คนที่มีความรัก ใจอบอุ่น ก็จะไม่เงียบเหงา ดูคนที่เป็นโรคโลหิตจางมือเท้าจะหนาวเย็น ฉะนั้นคนต้องการความรัก ยื่นแขนอันอบอุ่นไปช่วยผู้ยากจน จุนเจือผู้ทุกข์ หากผู้เป็นโลหิตจาก เลือดยังเดินติดขัด จิตใจไม่ปลอดโปร่ง ร่างกายอ่อนแอมีโรคมก โดดเดี่ยวไม่มีที่พึ่งชาติก่อนคงเป็นคนที่ไม่มีความเยื่อใย โทษแห่งความเย็นชาความรู้สึกสำนึกผิดรีบแก้ไข อธิษฐานแล้วก่อกุศล ช่วยเหลือคนลำบาก พิมพ์หนังสือตักเตือนผู้คนให้รู้ตื่นเจริญธรรมสร้างบุญ ความมืดครึ้มก็จะจางคลาย แสงอาทิตย์จะเริ่มฉายอีกร่างกายก็จะค่อยๆ คืนสู่ความแข็งแรง

อรหันต์จี้กง :  เนื่องจากเวลาจำกัด เราไปชมที่อื่นกันบ้าง

ฮั้วท้อ :  พระจี้กงพูดถูก เพื่อทำเวลา ข้าฯจะพาหยางเซิงไปชมที่อื่น

หยางเซิง :  ขอบคุณที่ท่านเซียนซือเมตตา เดินตามหลังท่านไปรอยเท้าลอยละล่อง ชั่วกะพริบตาก็มาถึง อาคารที่มีห้องเรียงกันเป็นแถว ภานในมีคนที่ใบหน้าแฝงไว้แต่แววทุกข์ไม่ทราบว่าที่นี่เป็นที่ไหน

ฮั้วท้อ :  สวรรค์ได้สร้างที่นี่ขึ้น เพื่อเป็นการลงโทษผู้เป็นโรคห่าสถานที่สงโทษของผู้เจ็บป่วย เรียกสถานที่นี้ว่า “ป่วยเจ็บทัณฑสถาน” การเจ็บป่วย ภัยธรรมชาติ การระบาดของโรคเป็นสาเหตุจากกรรมที่มีอยู่ แต่ชาวโลกไม่เข้าใจจุดนี้ ร่างกายมนุษย์ที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ก็เป็นผลจากก่อเวรกรรมไว้ในอดีตชาติ หากสะสมแต่บาปกันมากๆ เข้าก็จะกลายเป็นความเลวร้ายของมลภาวะ ทำให้มนุษย์มีความเจ็บป่วยที่แตกต่างกันไป สวรรค์ได้จัดทัณฑสถานนี้ขึ้น ก็เพื่อสร้างโรคภัยไข้เจ็บ เป็นการลงโทษมนุษย์

หยางเซิง :เมื่อสวรรค์ให้มาเกิด แล้วทำไมจึงต้องปล่อยเชื้อโรคลงมาด้วย

ฮั้วท้อ: เพราะใจคนชอบแก่งแย่ง ชอบฆ่า ชอบเสพกาม ชอบทำบาป.........ท่ามกลางความว่างเปล่า ก็ได้ก่อสร้าง “ไอพิษเชื้อโรค” ทำให้เกิดมลภาวะ ซึ่งเกิดจากอคติ อกุศลจิตรวมตัวกันขึ้นเป็น “โรคมาร” จากที่นี่ก็สร้างเชื้อโรคปล่อยลงมาสู่ร่างกายมนุษย์ หากมนุษย์ยังไม่แก้ไขความเลวร้ายภาวะของเชื้อโรคก็จะรุนแรงขึ้น เจริญขึ้น ทำให้โรคมารมาเยือนมากขึ้น ในทางกลับกัน ผู้ที่มีจิตดี ความเป้นอยู่ปกติทำบุญทำกุศล เชื้อโรคที่แฝงอยู่ในร่างกายก็จะค่อยลดลงร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น

หยางเซิง : สวรรค์ลงโทษมนุษย์ แล้วทำไมจึงปลูกสมุนยาช่วยชีวิตมนุษย์อีก

ฮั้วท้อ  : สวรรค์ลงโทษมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์ลิ้มรสความทุกข์ลำบาก เพื่อเป็นการแก้ไขความเลวร้าย ให้รู้รักถนอมตนผู้ที่กำลังเจ็บป่วยมักสำนึกถึงความผิดครั้งก่อนๆ กลับเนื้อกลับตัวไปสู่ความดี และเพราะสวรรค์เมตตา จึงส่งนายแพทย์มือดี หรือยาดีๆเพื่อช่วยเหลือชีวิต ขณะที่เจ็บป่วยอยู่ ควรน้อมจิตไปสู่ความดี อย่าได้โกรธแค้น หรืออาจจะอธิษฐานว่าจะสร้างกุศล การรักษาก็จะได้ผล ค่อยๆหายขึ้น หากการเจ็บป่วยรุนแรงมีอาการหนักขึ้น หมายถึงหมดอายุขัย หรือมีบาปกรรมหนัก ผู้ที่เป็นลูกหลาน ต้องรีบเร่งสร้างกุศลเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้วายชนม์ เพื่อเป็นบุญหนุนนำ ไม่ต้องไปสู่อบายภูมิ

หยางเซิง : ผู้ที่เจ็บป่วยนานๆ ไม่หาย มิทราบว่าเพราะมารไม่ยอมวางมือใช่หรือไม่

ฮั้วท้อ :  เจ็บป่วยนานๆไม่หาย มิเพียงผลาญเงินทองทางบ้านยังทำลายร่างกาย อย่างนี้เรียกว่า “โรคกรรมสนอง” หากพบว่าเป็นเช่นนี้ ควรสำนึกผิดต่อหน้า เทพ พุทธ กลับมาสร้างกุศล ให้ทานบริจาก สร้างหนังสือธรรมะ ปล่อยสัตว์ แล้วให้จุดธูปอ้อนวอนขอให้จิตของข้าฯแผ่ไปธาตุมาถึง เพื่อนำโรคมารกลับ ภายหลังทานยาก็จะได้ผล สุดท้ายจะให้

ข้อแนะนำ 5 ข้อ เพื่อเป็นการหล่อเลี้ยงชีวิต

1. มีใจที่สมบูรณ์ จึงจะมีร่างกายที่แข็งแรง

2.มีใจที่กุศลดีงาม จึงจะมีเนื้อหนังที่สวยงาม

3. ต้องแก้ไขนิสัยเลวก่อน จึงสามารถเปลี่ยนคุณภาพของร่างกาย

4. ลืมความกังวล จึงมีความเปล่งปลั่งชะลอแก่

5.เมื่อรู้จักพอเสมอ จึงจะเป็นยาคลายความทุกข์

อรหันต์จี้กง : หมอปุถุชนรักษากาย หมออริยะรักษาจิตทั้งกายและใจต้องรักษา ขอบคุณคำสั่งสอนของท่านฮั้วท้อเซียนซือ เพื่อเป็นการให้คุณค่าแก่หนังสือ “เส้นทางอริยะ” เนื่องจากเวลาหมดแล้ว หยางเซิงเตรียมกลับสำนัก

หยางเซิง :  ขอบคุณท่านเซียนซือที่ชี้แนะ ที่ให้ยาดี เนื่องจากอาจารย์ให้กลับ จึงขอกราบลา

อรหันต์จี้กง : หยางเซิงรีบขึ้นบนบัวอาสน์ เตรียมตัวกลับ.............สำนักเซี้ยเต็กตึ้ง ถึงแล้ว หยางเซิงลงจากบัวอาสน์ วิญญาณกลับเข้าร่าง

0
101

ผลแบ่งดีชั่ว

พระกษิติครรภ์โพิสัตว์

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago
แกงส้มผักรวม

แกงส้มผักรวม

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

อริโยวาทฮ้อเซียนโจ้ว

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

โอวาทพระศรีอารยเมตตรัย

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

โอวาทพระเจ้าบุ้งฮ้วง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago