mindcyber 1 month ago
admin #holy

เส้นทางอริยะ ตอนที่ยี่สิบสอง

หินรูปโพธิธรรม             ตุ๊กตาล้มลุกคือรูป

ผู้ป่วยโรคจิต                 เจ้ากรรมกลับชาติมา

อรหันต์จี้กง เสด็จลงประทับทรง วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2527

กลอนนำเสด็จ

           พุทธธรรมเผยแผ่มา                    ตะวันออกโปรดผู้คน

จี้จุดที่จิตตน                                           เห็นวิญญาณดวงกมล

เทพพุทธล้วนสำเร็จ                                จากบำเพ็ญปุถุชน

เกรงแต่ปุถุชน                                        ใจไม่มั่นจิตไม่จริง

อรหันต์จี้กง : ฮาฮ้า! ท่านอาจารย์โพธิธรรม แซงคิวแต่งหนังสือ “จี้จุดอัศจรรย์” จนสำเร็จลุล่วงไป ทำให้หนังสือ “เส้นทางอริยะ” ของอาตมาล่าช้าไปครึ่งปี ท่านอาจารย์โพธิธรรม(ตั๊กม้อ) นี้ร้ายกาจมาก ข้ามแม่น้ำเพียงต้นอ้ดต้นเดียว จี้ที่จิตคนโดยตรงให้เห็น พุทธะ ฉับพลัน เป็นหลักเซน สำเร็จรวดเร็ว สูงส่งยิ่งนัก อาตมาเห็นเนื้อหาสาระของ “โพธิธรรมจี้จุดอัศจรรย์” แล้ว มีความเคลื่อนไหว นับเป็นหนังสือทรงคุณค่าเล่มหนึ่ง วันนี้มิใช่จะเยินยอยกย่อง ธรรมะของอาจารย์โพธิธรรมหรอกนะเพราะเป็นสัตย์จริง ทำไมไม่ดูก้อนหินตอนขุด เพื่อวางศิลาฤกษ์สร้างสำนักล่ะ รูปร่างดูคล้ายปรมิตหฤทัย พอพิจารณาดูอีกทีก็จะเห็นเป็นรูปท่านโพธิธรรมซึ่งดูเหมาะเจาะกับฝ่ายจิตธรรม และโดยฤกษ์แห่งการก่อสร้างสำนักนี้ ช่วยเผยแพร่จิตธรรมของพระโพธิธรรม โดยการจี้ตรงจิตเพื่อโปรดผู้คน

หยางเซิง : ขอบคุณ ท่านอาจารย์ ในตอนแรกที่ขุดจอบลงดินได้พบรูปหัวใจก้อนหนึ่ง พวกเราก็ไม่สนใจในระยะแรกพอตอนหลังได้ชำระล้างหินให้สะอาด จึงได้เห็นหน้าตาของพระโพธิธรรม ทำให้พวกเรารู้สึกสะดุ้ง แต่ทำไมลูกตาทั้งข้างจึงดูไม่เท่ากัน

อรหันต์จี้กง :  ฮาฮ้า! ท่านโพธิธรรมถ่ายทอดจิตธรรม ความอัศจรรย์อยู่ที่ “ซ่อนตาทิพย์” ดังนั้น ผู้ไม่รู้ที่เห็น ย่อมไม่มีทางเห็นได้ นอกจากคนที่มีความสนใจ ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนนี่แหละโพธิธรรมแท้ “ซ่อนตา” ล่ะ แต่ผู้รู้พอมองเห็นก็รู้ นี่เป็นการแสดงธรรมแท้จากโพธิธรรม ตอนนี้ขอให้นำก้อนหินนั้นมาขอให้ศิษย์ทั้งหลายพิจารณาดู....พวกเราลองวิจารณ์ “ก้อนหิน” นี้ดูว่า ทำไมเดี๋ยวเหมือนเดี๋ยวไม่เหมือน

ลือฮวงลือ : เพราะว่าจิตเดิมไม่มีรูปลักษณ์ ไม่เกิดไม่ดับซ่อนตาทิพย์จะจี้ที่รูปลักษณ์ภายนอกโดยรูปลักษณ์ภายนอกให้เข้าใจถึงจิตเดิม ที่ไม่เคลื่อนไหว ไร้รูปลักษณ์

โค้วจงลั้ง :  ศิษย์คิดว่า ตอนวาระสุดท้ายของโลก ศาสนาต่างๆ มากมาย ต่างล้อมรั้วมิดชิดไม่ติดต่อไปมา บางครั้งถึงกับลงไม้ลงมือ สาดโคลนใส่กัน ทำให้ท่านโพธิธรรมเศร้าเสียใจดังนั้น ท่านโพธิธรรมจึงได้โปรดมาจากตะวันตก ประทับทรง ณ สำนักเซี้ยเต็กตึ้งอีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูธรรมะ เพื่อให้จิตธรรมของโพธิธรรมแพร่หลายไปทั่ว ทุกๆคนจะได้สำเร็จพุทธะแต่ละศาสนาปรองดองกัน

     ท่านโพธิธรรม ได้มาที่สำนัก จี้จุดอัศจรรย์ ทางสำนักได้บันทึกเอาไว้ หลังการถ่ายทอดจากจิตสู่จิต โดยต้องการให้จิตธรรมนี้ ถ่ายทอดทั่วปฐพี จึงเหมือนการก่อสร้างสำนักอันศักดิ์สิทธิ์นี้ วางรากฐานขั้นแรก รูปลักษณ์ยังหยาบอยู่ดุจมหาสัทธรรมยังไม่กระจ่าง ต้องอาศัยผู้บำเพ็ญธรรมต่างร่วมใจ ใช้จิตพิจารณา “ค่อยเจียนไปให้ละเอียด” หินนี้จึงจะมีคุณค่า และคงเป็นปริศนาธรรมที่ท่านโพธิธรรมส่งมาให้

เอี้ยบุ้งเส่ง :  ศิลาฤกษ์เป็นรูปลักษณ์ ปลอม ความหมายต้องการให้เราอาศัยรูปลักษณ์ปลอมนี้บำเพ็ญจริง

หน่าใจลิบ :  อย่าไปสนว่ามันจะเหมือนหรือไม่เหมือน ตอนนี้ศิษย์ก็รีบนำเอาก้อนหินนี้มากอดไว้ที่ทรวงอก ให้จิตสู่จิต ผมเองรู้ถึงจุดนี้

อรหันต์จี้กง : ฮาฮ้า! ก็จะให้เหมือนตุ๊กตาล้มลุก ต้องไม่ปล่อยมือ ถ้าปล่อยมือ มันก็จะกระแทกใส่เท้าเจ้า ปล่อยมือไม่บำเพ็ญได้ไหม? ควรยืนหยัดอยู่กับดิน โอบอุ้มพุทธจิตพอปล่อยมือก็จบสิ้นกัน ต้องกอดหัวเท้าโพธิธรรมเอาไว้โดยไม่ปล่อยมือ หากเจ้าปล่อยมือ โพธิธรรมก็ล้มลง เจ้าสิ้นลง ศิษย์ทั้งหลายพิจารณาแล้ว ได้ความว่าอย่างไรบ้าง

เหลี่ยวจิ่งเซ้ง : ก้อนหินเป็นรูปลักษณ์ปลอม พุทธรูปก็เป็นรูปลักษณ์ปลอม เพื่อความสะดวกในการแสดงธรรมแก่ชาวโลก ให้คนเคารพนับถือ น้อมจิตสู่ธรรม โดยอาศัยความปลอมไปพบความจริง

อรหันต์จี้กง : ปล่อยมือก็เหมือนห่างธรรม วางใจก็พอแล้วหัวและเท้าทุกคนก็มี อาจจะเล็กกว่าของโพธิธรรม ดังนั้นอย่าให้พ่ายแพ้ล่ะ ศิษย์ได้ประจักษ์กันบ้างไหม?

ลื้อฮวงหยู่ : ทุกคนมีหัวมีเท้าเป็นรูปลักษณ์ปลอม หากแต่พุทธจิตมีกันทั้งนั้น อยู่ในเทวภูมิก็ไม่เพิ่ม อยู่ในมนุษยภูมิก็ไม่ลดลง ดุจฉันคือโพธิธรรม โพธิธรรมคือฉัน พุทธจิตเหมือนกัน ดังนั้น ทุกคนสามารถสำเร็จพุทธะได้ เป็นเหมือนโพธิธรรมได้

อรหันต์จี้กง :  ก้อนหินที่นิ่งเฉยผงกหัวได้ บรรดาศิษย์หัวแข็งหรืออ่อน ตอนที่ควรก้มหัวก็อย่าเงยหัว ตอนเงยหัวก็อย่าก้มหัว ต้องใช้ให้แยบยล ให้ระมัดระวัง ต้องพลิกแพลงได้คนส่วนมากในโลกนี้ หัวแข็งปากก็แข็ง ไม่ย่อมพ่ายแพ้ ไม่ยอมถ่อมตน แบบนี้เป็นโรคจิตอย่างหนึ่ง บางครั้งมีเรื่องที่ควรทำเขากลับหดหัวงอหาง ไม่กล้ารับหน้าที่  แม้จะฉุดซ้ายลากขวาไม่มีใจวิริยะยอมอุทิศ แบบนี้จะประสบความสำเร็จงานใหญ่ๆได้อย่างไร ก้อนหินยังผงกหัวได้ คนหัวดื้อแม้จะตีกระทุ้งก็ไม่รู้สึก ช่างน่าเสียดาย!

     วันนี้เอาหินเป็นหัวข้อในการบรรยาย บรรดาศิษย์ควรพิจารณาให้ละเอียด ก้อนหินก้อนหนึ่งสามารถนำมาเป็นศิลาฤกษ์(ลูกนิมิต) ได้ ให้ประชาชนกราบไหว้ มนุษย์สูงหัวฟุตเศษ ทำไมทำให้น่าเบื่อหน่าย ไม่น่านับถือ อย่างนี้มนุษย์ก็สู้หินก้อนหนึ่งยังไม่ได้ ฮาฮ้า! มนุษย์เป็นหน่อ “พุทธบุตร” อย่าให้พ่ายแพ้กันก้อนหิน กลายเป็นวิญญาณไร้ค่า หรือเป็นเพราะว่ามนุษย์มักถูกก้อนหินทับ เสียจนหายใจแทบไม่ออกเรื่องต่างๆดุจก้อนหิน ที่คอยฝนใจคน บางคนถูกฝนจนหัวร้างข้างแตกเลือดไหลอาบ บางคนโกรธเสียจนเกิดหิน(นิ่ว)ในถุงน้ำดี ใจเป็นหินไปเลย ฮาฮ้า! ....อย่างนี้ก็เลยไม่ได้เป็นพุทธะ เนื่องจากชาวโลกไม่รู้จักความสามารถในการฝนหิน มีดฝน(ลับ) ที่หินยังคม หินฝน(ลับ) มีดยังเงา ข้าฯเชื่อว่าคนฝน(ลับ)จะสามารถเกิดประกายแวววาวได้ ขอให้ชาวโลกโปรดพิจารณาธรรมจากหินเถิด ฮาฮ้า! ย่อยหินให้เป็นทรายให้เป็นเม็ดใหญ่ก็ได้ เม็ดเล็กก็ได้ ชาวโลกคงอยากเป็นผุ้อาวุโส ใครอยากเป็นทรายบ้างล่ะ? เอาละ เสียเวลาไปมากแล้ว เราขึ้นบัวอาสน์ไปแสวงธรรมกันเถอะ

หยางเซิง : ขอรับ! ผมนั่งเรียบร้อยแล้ว ไม่ทราบว่าคืนนี้จะไปไหน?

อรหันต์จี้กง :  วันนี้เราขี่ลมไปแสวงธรรมกัน .... ที่นี่ที่ไหนกันนะ.....

หยางเซิง :  เห็นบ้านหลังหนึ่ง ข้างในรู้สึกว่าบรรยากาศไม่สู้ดีนะ

อรหันต์จี้กง : ก็ใช่ ผู้บำเพ็ญธรรมหากไม่สามารถระงับอารมณ์ให้สงบ แล้วจะสนทนาธรรมได้อย่างไร? คืนนี้เราสัมภาษณ์บ้านหลังนี้กันเถอะ

หยางเซิง : เข้ามาภายในบ้าน บรรยากาศอึมครึม ภายในมีห้องหนึ่ง ค่อนข้างมืด มีคนนั่งอยู่บนเตียงคนหนึ่ง ปากก็ท่องปนเหมือนกลอน มองดูแล้วเหมือนคนประสาทไม่ค่อยดี

อรหันต์จี้กง : ใช่แล้วเด็กหนุ่มคนนี้เป็นโรคประสาทไม่ค่อยดี

หยางเซิง : น่าสงสาร ปัจจุบันยุคอุตสาหกรรมเฟื่องฟู คนเป็นโรคประสาทมีมาก ไม่รู้ว่าพวกเขามีเวรกรรมอะไรอยู่?

อรหันต์จี้กง :  ความเร่งรีบ คำพูดที่ทิ่มแทงหัวใจ หรือถูกกดดันความเครียด สามารถเป็นโรคประสาทได้ง่าย แต่เด็กหนุ่มผู้นี้เกิดจากผลกรรมชาติก่อน จึงได้รับกรรมสนองตอบในชาตินี้ เจ้าดูพ่อแม่ของเขาในห้องถัดไป สุขภาพอ่อนแอหลังจากลูกเป็นโรคแล้วมักถูกทุบตีและด่าทอ สามีภรรยาคู่นี้ยอมรับชะตากรรมยอมอดทน เมื่อลูกไม่สบายเป็นโรคประสาทแล้วทำอย่างไรเล่า ไม่เพียงแต่พ่อแม่ได้รับเคราะห์กรรมเพื่อนบ้านก็ได้รับเคราะห์กรรมด้วย ทุกข์ทรมารยิ่ง

หยางเซิง :  ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากสร้างกรรมอะไรไว้

อรหันต์จี้กง : คืนนี้คงต้องเล่ากฎแห่งกรรมไว้ตักเตือนชาวโลกเด็กชายคนนี้ชาติก่อนเป็นคนใช้เศรษฐี สามีภรรยาคู่นี้ก็คือเจ้านายของหล่อน เนื่องจากมีเงินมีอำนาจ จึงกระทำต่อคนใช้เยี่ยงทาส หากมีความผิดก็ทุบตีด่าว่า โดยไม่มีมนุษยธรรมเลยคนใช้สารผู้มี เมื่อได้รับโทษก็เจ็บแค้น สาบานว่า “ชาติหน้าไม่ว่าจะเกิดเป็นคน หรือเกิดเป็นผีก็ต้องล้างแค้นให้ได้!” เพราะได้รับการทุบตีจึงเกิดเจ็บป่วยอยู่ภายใน หลังจากสามีภรรยาเศรษฐีคู่นี้ตายลงไม่กี่ปี คนใช้หญิงผู้นี้ก็ตายลง สามีภรรยาคู่นี้ ตอนมีชีวิตอยู่ไม่มีความเมตตากรุณา เสพบุญเก่าจนหมด ดังนั้น ชาติต่อมาจึงมาเกิดใหม่ในครอบครัวยากจนเมื่อเติบโตก็ได้แต่งงานเป็นสามีภรรยากันอีก ร่างกายอ่อนแอมีโรคมาก ทำงานเลี้ยงชีพ แต่งงานมาหลายปีก็ไม่มีลูก ดังนั้นจึงเที่ยวไหว้เจ้าขอลูกยังศาลเจ้าต่างๆ ประจวบเหมาะกับวิญญาณแค้นของสาวใช้ผู้นี้ ติดตามมาพบเจ้านายเก่าเข้าลูกชาย ดังนั้น ดาวอสูรจึงเข้าสู่ครรภ์ของเจ้านายเก่า กำเนิดมาเป็นลูกชาย ลูกชายตอนเยาว์วัยเฉลียวฉลาด พ่อแม่รักใคร่เอ็นดู ดีอกดีใจอย่างยิ่ง พออายุย่างเข้า 16 ปี และในคืนวันหนึ่งเกิดฝันร้ายตกใจร้องจนตื่นขึ้น พ่อแม่พบว่าเกิดความผิดปกติในลูก อาการเหมือนกับผีเข้า พอพบเห็นคนก็จะเที่ยวไล่ตีแม้แต่พ่อแม่ก็กลัวราน จึงได้ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโรคจิตอาการก็ไม่ทุเลาลง เป็นเวลานานถึงสิบปีแล้ว เมื่ออาการกำเริบขึ้น ก็จะขว้างปาสิ่งของ ด่าพ่อแม่ ถ้าไปห้ามปรามก็ถูกทุบตี พ่อแม่ก็ใช้เงินจนหมดเนื้อหมดตัว เนื่องจากได้รับความทุกข์ทรมานมานานหลายปี จิตใจก็หดหู่ เกิดเจ็บป่วยประจำ หมดอาลัยตายอยาก

หยางเซิง : เด็กชายผู้นี้ทำไมจึงเกิดร้องลั่นขึ้นในตอนกลางคืนหรือถูกผีเข้า

อรหันต์จี้กง : เนื่องจากชาติก่อนเป็นสาวใช้ ตั้งแต่เด็กๆ เมื่อมาอยู่บ้านเศรษฐีใหม่ๆ หน้าตาน่ารัก เจ้าของบ้านก็เอ็นดูพอนานๆปี เจ้าบ้านก็ไม่ค่อยดูแล และกดขี่ข่มเหง จึงได้กลับมาเกิดเป็นชาย เพื่อแก้แค้นการถูกกดขี่ขมเหง แต่เพราะไม่สามารถจะแก้แค้นได้ พอดีในตอนกลางคืน บุญคุณที่ได้รับสิ้นสุดลง ความเจ็บแค้นในอดีตก็เกิดระเบิดขึ้น จึงได้เกิดอาการผิดปกติเช่นนี้ขึ้น

หยางเซิง : บาปบุญได้รับการสนองตอบอย่างไม่คลาดเคลื่อนช่างน่ากลัวยิ่งนัก!

อรหันต์จี้กง : พอบุญคุณสิ้นสุดความแค้นก็เกิด เจ้าบ้านก็ถูกลูกชายด่าทอ กลับตาลปัตร เพราะเกิดโรคประสาทจะไปโทษใครกัน ต้องโทษตนเองที่ชาติก่อนได้ก่อเวรเอาไว้ ต้องรอจนกว่าลูกชายจะแก้แค้นจนหมด ชาติหน้าจึงจะได้เกิดในครอบครัวมั่งมี ก็จะได้เสพสุขอีก

หยางเซิง :ทำไมเพื่อนบ้านจึงได้รับเคราะห์กรรมด้วย

อรหันต์จี้กง : เพื่อนบ้านเหล่านี้เป็นเพื่อนรักของเขาในชาติก่อนมักมาดื่มกินเป็นประจำ เมื่อเห็นคนใช้ถูกกดขี่รังแก ยังไม่รู้สึกสงสารหรือตักเตือนเจ้าบ้าน กลับตบมือส่งเสริมยินดี ดังนั้นในชาตินี้ไม่รู้เลยย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน เพื่อรับโทษนี่แหละกรรมตามสนองได้อย่างแยบยล จนมนุษย์คิดไม่ถึงกันเลย

หยางเซิง : น่าอัศจรรย์เหลือที่จะคิดได้ถึง กรรมตามสนอง

อรหันต์จี้กง : ชาวโลกรู้ว่า กรรมตามสนอง ไม่มีผิดพลาดก็ควรจะสร้างบุญก่อกุศล ดีต่อบุคคลข้างเคียง มิฉะนั้นชาติหน้า “คอยดู” ว่ากันว่า โลกนี้กลม สักวันหนึ่งเจ้ากรรมก็เผชิญหน้าตอนจะติดตามหาก็หาไม่เจอะ ตอนที่คิดจะหลบก็ดันเจอะน่ากลัวไหมล่ะ !  เราเตรียมตัวกลับสำนักกันเถอะ

หยางเซิง : ขอรับ ผมนั่งบนบัวอาสน์เรียบร้อยแล้ว ขอเชิญอาจารย์กลับได้

อรหันต์จี้กง : สำนักเซี้ยเต็กตึ้ง ถึงแล้ว หยางเซิงลงจากบัวอาสน์ วิญญาณกลับเข้าร่าง


0
196

พญาเต่าผู้มีเมตตา

1654918052.jpg
mindcyber
8 months ago

ทันตาเห็น

1654918052.jpg
mindcyber
11 months ago
สาหร่ายทะเลม้วนเห็ดหอม

สาหร่ายทะเลม้วนเห็ดหอม

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
ไส้อั่วชาวเหนือ

ไส้อั่วชาวเหนือ

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

เหวียนเต๋อชูพึ่งหนังสือเทวราชโองการ ช่วยแม่ที่ล่วงลับและช่วยชีวิตของภร...

1654918052.jpg
mindcyber
4 months ago