mindcyber 1 month ago

ครั้งที่ 2 ด่านลงทะเบียน

          “จดชื่อก่อนบนถนนอินหยาง  ลงทะเบียนเมื่อถึงด่าน”               

             องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า            

             ลงทะเบียนวิญญาณผีเมื่อถึงด่าน             

ได้เดินผ่านอินหยางเจวี้ยเศร้าหมองจิต             

ไม่เข้าใจกฏสวรรค์ดูถูกชีวิต             

ไม่ทันคิดเมืองตายโหงคืนกลับยาก             

อาจารย์ : ครั้งก่อนได้ไปถึงอินหยางเจวี้ย (แดนระหว่างมนุษย์กับยมโลก) คราวนี้ไปเที่ยวชมด่านลงทะเบียน             

หยงปี่ : อาจารย์ครับ! วันนี้พวกเราไปปล่อยสัตว์กันมา ท่านไม่รู้สึกหรือว่าบรรดาศิษย์ต่างเหน็ดเหนื่อย เพราะฉะนั้นอยากขอให้อาจารย์ทำแบบง่าย ๆ รวบรัดจะได้ไหมครับ             

อาจารย์ : พวกเจ้าเหน็ดเหนื่อยก็จริงอยู่ แต่บุญกุศลก็มาก คืนนี้ยังต้องแต่งหนังสืออีกตอนหนึ่ง เหมือนการไถหว่านส่วนหนึ่งเก็บเกี่ยวผลส่วนหนึ่ง เหนื่อยมากแต่บุญกุศลก็แยะมิใช่เป็นโอกาสที่ดีหรอกหรือ คนอื่นยังไม่มีใครเหนื่อยจนล้มมีแต่เจ้าพูดเองเออเอง อย่างอแง อาจารย์จะนำเจ้าออกเดินทาง ประทานแพรฟ้าไว้ป้องกันตัว หลับตาลงเสีย             

หยงปี่ : ครับอาจารย์ ใช่แล้ว อาจารย์บอกว่าที่ด่านลงทะเบียนเป็นด่านแรกที่เข้าสู่เมืองผีตายโหง พวกวิญญาณผีต้องมาขึ้นทะเบียนที่นี่             

อาจารย์ : ถูกแล้ว เจ้าหน้าที่ด่าน มีหน้าที่คอยจดชื่อลงทะเบียนพวกวิญญาณผี เพื่อว่าเมืองผีตายโหงจะได้มีหลักฐานที่ตรวจค้นได้             

หยงปี่ : ดังนั้น  การแต่งหนังสือครั้งนี้ มีผู้อ่านที่ส่งจดหมายมาเพื่อฝากสอบถามก็จะรู้ชัด             

อาจารย์ : ถูกแล้ว แต่ถ้าต้องการค้นหาคนนั้น ต้องเข้าเมืองผีตายโหงเสียก่อน เกี่ยวกับรายชื่อที่ส่งมาสอบถาม เจ้าก็นำมาเผาส่งไปแล้วให้อาจารย์ติดต่อกับเมืองผีตายโหง เพื่อว่าจะได้จัดเรียงเพื่อพิมพ์ลงในหนังสือตอนเยี่ยมเยือน             

หยงปี่ : ครับ ศิษย์จะจัดเตรียมให้เรียบร้อยแล้วนำขึ้นถวาย             

อาจารย์ : ดีแล้ว ผ่านอินหยางเจวี้ยแล้ว ตอนเข้าสู่ทางเมืองผีตายโหง เจ้าลืมตามองดูรอบ ๆ ได้แล้ว             

หยงปี่ : (ลืมตาดูไปรอบๆ) อาจารย์! ระหว่างทางทำไมจึงมีพวกยมทูตควบคุมวิญญาณผีมากมายเช่นนี้ ในโลกมนุษย์จะมีคนตายโหงมากมายอย่างนี้หรือ             

อาจารย์ : เจ้าลองพิจารณาดูให้ละเอียดซิว่าสภาพของวิญญาณผีมีอะไรต่างกันบ้าง             

หยงปี่ : ที่ต่างกันหรือ อ๋อ ! มีสีขาว สีดำ แดง และสีน้ำตาล เป็นผีต่าง ๆ ของแต่ละประเทศบนนี้ ถึงว่าสิจึงมีผีตายโหงมากมายเช่นนี้ อาจารย์ครับ ! ถ้าเป็นอย่างนี้ พวกเขาก็ต้องใช้ภาษาต่าง ๆ กันไป แต่ละคนก็พูดกันคนละภาษาแน่เลย เที่ยวหาคนแปลก็ไม่ต้องทำงานกันเลย             

อาจารย์ : ผิดแล้ว ชีวิตของคนบนโลกนี้ต่างก็มีความคิดเห็นการกระทำและภาษาต่างกันไป แต่เมื่อตายลงก็มีชนิดเดียวการพูดเพียงอาศัยกระแสจิตไปสัมผัส ฉับพลันความหมายนั้นก็สื่อกันได้ การแต่งหนังสือด้วยการถ่ายทอดให้เห็นรูปลักษณ์ก็เพื่อสะดวกในการเข้าใจเท่านั้น             

หยงปี่ : อาจารย์พูดถูก โลกของวิญญาณเป็นโลกที่ปราศจากภาพมายา อย่างเช่นการบอกเล่าในการแต่งหนังสือนี้ เช่น การถ่ายทอดสภาพจริงก็ใช้ภาษาที่ใช้กับสภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นใช่ไหมครับ             

อาจารย์ : ถูกแล้ว เพราะฉะนั้นคนประทับทรงแต่ละคนจึงถ่ายทอดสภาพจริงออกมาแล้วไม่สู้จะเหมือนกันทีเดียว นี่คือหลักของเหตุผล อ้อ ! ใกล้ถึงด่านลงทะเบียนแล้ว เราศิษย์กับอาจารย์ลองศึกษาการทำงานของพวกเขาดู             

หยงปี่ : (เดินตามหลังอาจารย์ไปยังด่าน อันที่จริงเรียกว่า ด่านดูจะใหญ่เกินไปสักหน่อย เพียงแค่ศาลาพักร้อนกับเก้าอี้ม้ายาวสองตัว อย่างนี้ก็เรียกว่าด่านเสียแล้ว วิญญาณผีเข้าแถวรอกันเป็นคู่ ๆ รอจนกว่าพนักงานในศาลาจะลงชื่อเสร็จ จากนั้นก็ผ่านเข้าไปข้างในห้องของอาคารเรือนแถวยาวหลังหนึ่ง)                                        อาจารย์ครับ ที่นี่คือด่านลงทะเบียนหรือ แล้วอาคารเรือนแถวยาวนั้นคืออะไรกันครับ             

อาจารย์ : ก็ใช่ ด่านลงทะเบียนก็เพียงทำหน้าที่ทำสมุดลงทะเบียนให้เข้าไปในเมืองตายโหงเท่านั้นเอง อาคารด้านหลังนั้นก็เป็นเพียงอาคารที่พักรอของวิญญาณผีที่ลงทะเบียนแล้ว เพื่อรอการมอบเอกสารจากยมบาล เมื่อเรื่องราวเตรียมเสร็จแล้ว ค่อยส่งเข้าไปในเมืองตายโหงเพื่อพิพากษาแยกขังกันต่อไป             

หยงปี่ : ขอเรียนถามอาจารย์ มีการแยกขัง ถ้างั้นเมืองตายโหงก็เหมือนเมืองนรกที่แยกออกเป็นนรกสิบขุมใหญ่และสิบแปดขุมนรกน้อยใช่ไหม             

อาจารย์ : ไม่ใช่ ที่ว่าแยกขัง ก็คือการแยกชั้นคุมขัง นี่เหมือนกับคุกในแดนมนุษย์ โดยใช้โทษตามระยะเวลามาแบ่งแดนขังรายละเอียดไว้เข้าไปข้างในแล้วเจ้าก็จะค่อย ๆ เข้าใจไปเอง             

หยงปี่ : ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้เราจะไปดูการทำงานของพวกเขาหรือจะเข้าไปในอาคารหลังนั้นกัน             

อาจารย์ : ไม่ละ เจ้าไม่เห็นหรอกหรือพวกวิญญาณผีต่างรอคอยกันเข้าไปในศาลา จะไปรบกวนการทำงานของพวกเขาทำไมโดยไม่จำเป็น แล้วอาคารหลังนั้นก็เป็นที่ควบคุมชั่วคราว เพื่อรอคอยการส่งต่อ ไม่มีอะไรน่าดู ตอนนี้เอกสารจากยมบาลยังส่งมาไม่ถึง พวกวิญญาณผีเหล่านั้นคงจะคำรามใส่เจ้าจนขนลุก ฟังพวกเขาเที่ยวโทษฟ้าโทษดิน ใต้ลิ้นมีดอกบัวขึ้นกระมังจึงพูดเสียจนบุปผาสวรรค์หล่นลงมาเรี่ยราด ทำราวกับว่าพวกเขาควรจะได้ขึ้นสวรรค์ไม่น่าจะตกนรกเลย ถ้าหากเจ้าสนใจ ก็เข้าไปคนเดียวก็แล้วกัน             

หยงปี่ : คิดว่าคงเป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ในคุกส่วนใหญ่จะพูดว่าถูกกลั่นแกล้ง เรื่องนี้ศิษย์เข้าใจ อันที่จริงถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ถูกกลั่นแกล้งพวกเรารู้แก่ใจดี หากไม่ผิดกฏหมาย ตำรวจคงไม่จับคน เพราะฉะนั้น ศิษย์ก็ไม่สนใจที่จะเข้าไปดู             

อาจารย์ : ถ้าอย่างนั้น คืนนี้เที่ยวมาถึงอ่านลงทะเบียนก็หยุดเพียงเท่านี้ คราวหน้าจะพาเจ้าเที่ยวเมืองตายโหงถึงแดนมอบขัง เอาล่ะ ! เจ้าหลับตาเสีย อาจารย์จะพาเจ้ากลับสถานธรรม             

หยงปี่ : ครับอาจารย์....ขอกราบส่งอาจารย์กลับสู่ฟ้า

0
125
video

ล้างคืนใจเดิม

admin
mindcyber
2 years ago

คติพจน์เทพยดาหลิวชุนฮวง

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

ออกทะเลหากฤษณา

โอวาทธรรมาจารย์เซี้ยงฮวบ

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

โอวาทท่านข่งจื้อ

ข่งจื้อ

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

มารศาสนา

วิญญาณบาปจากนรก

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago