“เล่นน้ำต้องระวัง จะได้ไม่กลายเป็นผีน้ำ”
องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า
ชีวิตอายุสั้นเหตุอันใด
อย่าโทษใครเคราะห์ร้ายตนสรรหา
จมน้ำตายโหงหนีไม่พ้นนา
อย่าโกรธาแค้นไปก็สายแล้ว
อาจารย์ : ความอบอ้าวในฤดูร้อนทำให้คนเล่นน้ำมาก สนุกสนานกับคลื่น รื่นเริงไม่เบื่อ แต่คุณและโทษของน้ำ ก็เหมือนน้ำสามารถลอยเรือได้ก็สามารถคว่ำเรือได้ ผู้ที่ไม่รู้วิสัยน้ำ ก็มักจะได้รับโทษ เหลือแต่ความแค้นใจตลอดปี
หยงปี่ : ว่ายน้ำในฤดูร้อน เป็นกิจกรรมนอกบ้านของหลาย ๆ คนในแต่ละฤดูร้อนก็มักมีคนจมน้ำตายไม่มากก็น้อยเกิดขึ้นเสมอ ถ้าหากเพราะว่ายน้ำแล้วจมน้ำตายต้องไปขังในเมืองผีตายโหงนับว่าไม่มีค่างวดเสียจริง ๆ
อาจารย์ : พูดเล่นน้อย ๆ หน่อย ประทานแพรฟ้าป้องกันตัว หลับตาเสีย ไปกันเถอะ....เจ้าลืมตาได้ คืนนี้อาจารย์จะพาเจ้าไปหลายแห่ง
หยงปี่ : ครับ...ด้านหน้าทางซ้ายมือมีอาคารสะดุดตาอยู่ เป็นศาลสอบสวนกระมัง วันนี้เราแบกธรรมห้อตะบึง ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน
อาจารย์ : ใช่เป็นศาลสอบสวน วันนี้จะไปหาพวกวิญญาณผีเพื่อคุยกับพวกเขา
หยงปี่ : ศิษย์เห็นทางขวามือไม่ไกลนัก สภาพเหมือนสวนพักผ่อนใหญ่ มีคนแปลกมากมายกำลังว่ายน้ำอยู่ (หยงปี่ว่าแปลกเพราะพวกเขาเปียกปอนไปหมดทั้งผมและเสื้อผ้ามีน้ำหยด พวกที่ว่ายน้ำคือว่ายไม่หยุดโดยไม่มีจุดหมาย มือเท้าเหมือนเต้นรำ เหมือนปูตัวหนึ่งที่วิ่งบนหาดทราย แสดงอย่างร้อนรนเช่นนั้น)
อาจารย์ : คนที่นี่มีหลายคนจมน้ำตาย ในบรรดาคนเหล่านั้นไม่รู้จักวิสัยของน้ำดี แต่มีคำกล่าวว่า เล่นไฟก็ตายเพราะไฟ ว่ายน้ำเก่งก็จมน้ำตาย เป็นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นตนเองเกินไปจนปล่อยวางใจ
หยงปี่ : เห็นท่าทางพวกเขาน่าหัวเราะ หน้าที่บวมและตัวที่บวมเป่งไม่มีท่าทางว่าจะกระดุกกระดิก ถ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็ให้ความรู้สึกแข็งทื่อแก่คน ความรู้สึกของศิษย์ที่มองดู มีความรู้สึกลึก ๆ ว่าก การเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ซ่อนความขมขื่นน่าเวทนาเอาไว้
อาจารย์ : ความจริงคนที่ชอบเล่นน้ำ จะมีความปลอดภัยในน้ำถ้าได้เพิ่มความระมัดระวัง ก็สามารถจะสกัดกั้นอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะมีอันตรายมาก ถ้าได้ป้องกันไว้หลายด้านก็จะหลบเลี่ยงได้ ก็สามารถจะลดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นผู้จมน้ำตายพูดได้เลยว่าสรรหาเอง ทำให้พวกเขาต้องตายโหงถูกคุมขังถูกลงโทษ จะไปโทษใครก็ไม่ได้ (ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่คุมเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาที่เราสองคน ทำความเคารพแล้วก็ถอยห่างออกไป)
หยงปี่ : ขอถามเจ้าว่า เจ้าเป็นใคร ทำไมจึงถูกขังในเมืองตายโหง
วิญญาณผี : เรียกผมว่า เฮจินอัน จมน้ำตายในเแม่น้ำ มีอายุแค่ 18 ปี เพราะฉะนั้นจึงถูกขังในเมืองตายโหง
หยงปี่ : เจ้าเรียกพี่ชายให้ทำกงเต๊กไปให้ ไม่รู้ว่าได้รับหรือเปล่า
วิญญาณผี : ผมขอขอบคุณพี่ชายมาก และความรักของครอบครัวได้รับอยู่แต่ก็หยุด ได้เพียงเล็กน้อย เพราะยังขาดอีกมากแต่ว่าผมก็ได้พบกับน้ำมนต์ตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งเป็นพวกที่ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะฉะนั้น ผมนอกจากขอบคุณพวกเขาแล้วยิ่งขอให้พวกเขาอย่าได้สิ้นเปลืองเพราะผมเลย ผมมีโทษต้องยอมรับ ต้องรับทุกข์
หยงปี่ : หาได้ยากที่เจ้าเข้าใจธรรมะ ทำไมเจ้าจึงไม่เล่าสาระสำคัญของศาลสอบสวนเพื่อเป็นคำตักเตือนชาวโลก โทษของตนเองตนก็รับเอง เจ้าก็สามารถถือโอกาสดีอันนี้แต่งหนังสือ จะได้มีบุญเพื่อลดโทษ
วิญญาณผี : ขอบคุณที่ท่านชี้แนะ อายุขัยบนโลกของผมก็ไม่ยืนนัก มีชีวิตอยู่ได้ 47 ปี ตลอดชีวิตลำบาก แต่ชาตินี้ต้องมีบุตรซึ่งมีเหตุสัมพันธ์เมื่อสามชาติก่อน น่าเสียดายเล่นน้ำเผลอไปนิดเดียวเลยตายโหง แม้ไม่ต้องลำบากกับชีวิตที่เหลือแต่ก็สูญเสียโอกาสในการสืบสกุล เพราะฉะนั้น ผมขอเตือนชาวโลก ดูผมเป็นอุทาหรณ์ก่อนเล่นน้ำต้องรู้วิสัยของน้ำและสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นว่า กระแสน้ำไหลแรง มีน้ำวนหรือไม่ที่ไหนลึกที่ไหนตื้น ต้องระมัดระวัง ก่อนลงน้ำต้องทำตัวให้อุ่นก่อน พอลงน้ำก็ไม่เล่นจนอันตราย ถ้าทำให้เช่นนี้อย่างน้อยก็ลดอันตรายไปได้บ้าง วิธีที่ดีที่สุด ให้เล่นในสระว่ายน้ำที่สมบูรณ์ อย่าไปอาบตามคลองหรือบึงเลย
อาจารย์ : ข้าเสียดายเจ้า แต่ว่าข้ายินดีและปลอบประโลมเจ้าที่สามารถเข้าใจถึงเหตุผลอันนี้ คนที่จะเล่นน้ำ นอกจากที่เจ้ากล่าวมาแล้วข้างต้นอยู่ในน้ำต้องสนใจพละกำลังของตนอย่าได้สำแดงความเก่งกาจ ยิ่งอยู่ในน้ำก็ไม่สามารถแสดงอะไรให้ใครเห็นได้แล้ว ยิ่งทำให้เกิดสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ถึงได้โดยง่าย เอาละคืนนี้หยุดเพียงแค่นี้ หลับตาเสีย อาจารย์จะพาเจ้ากลับสถานธรรม
หยงปี่ : ส่งเสด็จท่านอาจารย์