5.เพื่อลงถึงพื้น ผู้น้อยก็ปล่อยมือของพระอาจารย์
2024-10-13 07:40:06 - mindcyber
พระอาจารย์พูดว่า "ที่นี่สว่างมาก ถนนบนนิพพานนี้ ลื่นมาก" ผู้น้อยปล่อยมือของพระอาจารย์ พอจะเดินก็ลื่นลงจึงพูดกับ พระอาจารย์ว่า "ที่นี่เดินยากมาก "
พระอาจารย์จึงใช้พัดพัดหนึ่งครั้ง
ผู้น้อยก็สามารถวิ่งได้
หลินถันจู่: นี่คือที่ไหนหรือครับ?
พระอาจารย์: ที่นี่ เป็นแดนพุทธาลัย
หลินถันจู่: "ผู้น้อยนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศ ที
หนึ่งตั้ง 3-4 ชั่วโมง ไม่เคยไปกระทบ
กับนิพพานเลย"
คิดต่อไปอีกว่า เมื่อเราได้เป็นเซียน นั่งอยู่บนเมฆแกว่งไปมา คงจะสบายซีนะ ที่จริงแล้วนิพพานคือ โลกอีกใบหนึ่งมีภูเขา มีแม่น้ำ มีพื้นดิน มีต้นไม้ มีดอกไม้ ทิวทัศน์สวยงามมากๆ
มองเห็นบ้านหลังหนึ่งแต่ไกล
บนหลังคามีแสงรัศมีระยิบระยับมองแล้วทำให้ตาลาย
หลินถันจู่: "บ้านข้างหน้านั้น คืออะไรครับ?"
พระอาจารย์: "คือพุทธาลัย เป็นสถานที่ ที่พวกเราจะ ไป "
หลินถันจู่: "โอ้! สวยงามอย่างนี้เชียวหรือ?
แสงสว่างระยิบระยับจังเลย"
พอเดินเข้าใกล้ถึงมองเห็นทั้งสองข้างมีทหารฟ้า ขุนพลฟ้า ยืนเป็นแถว ล้วนสวมเสื้อเกราะ มือถือหอก เหมือนกับหอกที่อยู่ในสำนักบู๊ ทหารฟ้า ขุนพลฟ้า ทั้งสองข้าง เอาหอกเคาะที่พื้น 2 ครั้งเสียงดัง "ปัง! ปัง!" ดูเรียบร้อยสง่างามมาก
ทักทายพระอาจารย์ว่า
"สวัสดีพระพุทธบรรพจารย์เทียนหยาน"
ผู้น้อยจึงทราบว่าพระอาจารย์ที่พาผู้น้อยมานี้คือ
พระพุทธบรรพจารย์เทียนหยาน
ตัวผู้น้อยทั้งเซ่อทั้งโง่ พระอาจารย์มาถึงสถานธรรมเทียนเต้าถัน ผู้น้อยไม่ได้รับเสด็จเลย เพราะรีบเร่งและดีใจเลยไม่ได้ รับเสด็จพระอาจารย์
พระอาจารย์พูดว่า
"ลูกศิษย์ทุกคนสบายดีไหม ไม่ต้องมากพิธี"
เมื่อแสดงมารยาทต่อกันแล้ว เหล่าทหารก็ใช้หอกทองคำเคาะที่พื้น "ปัง! ปัง!" สองครั้ง
ดูสวยงามน่าเกรงขามกว่าการแสดงใน โลกมนุษย์มากนัก เมื่อเดินเข้าไปใกล้อีกนิดได้เห็น กำแพงล้วนเป็นสีทองเดินเข้าไปอีกนิดจึงเห็นบนประตูใหญ่เขียนว่า
"เทียนฝอเอวี้ยน" (พุทธาลัย)
พระอาจารย์พูดกับพวกเขาว่า
"ขอให้เปิดประตูใหญ่ คืนนี้ข้าพาลูกศิษย์มาชม"
ผู้เฝ้า ประตูก็เปิดประตูแล้วพูดว่า
"เชิญท่านบุราณพุทธะ"
เมื่อประตูถูกเปิดออกผู้น้อยได้เห็นคนมากมายยืนอยู่ที่นั่น ห้องนั้นเหมือนกับห้องพละ ใหญ่มาก คนยืนเต็มไปหมดไม่เหลือทางเดินไว้เลย พระอาจารย์ ถือพัดโบกให้ผู้น้อยเดินตามเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงด้านฝั่งตะวันออกดูกว้างหน่อย คนไม่ค่อยแน่น
พระอาจารย์: "ศิษย์ยืนอยู่ตรงนี้อย่าเที่ยววิ่งไปไหน ล่ะ"
หลินถันจู่: "ครับ"
แล้วพระอาจารย์ก็หายตัวไป คงไปพบปะกับเหล่าเซียนผู้น้อยไม่กล้าไปไหนได้แต่ยืนมอง
ใจคิดแย่แล้ว!
ทำไมพระอาจารย์พาผู้น้อยมาทิ้งอยู่ในกลุ่มของคนอเมริกัน พวกเขาสูงใหญ่ ผู้น้อยเตี้ยกว่า เมื่อยืนก็ถูกบังไปหมดแล้วจะมองเห็นอะไร?
แต่ความจริงแล้วบนสวรรค์นั้นมีความอัศจรรย์แยบยล(วิทยาศาสตร์ที่ว่าเจริญแล้วยังเทียบไม่ได้เลย) จะไม่ถูกบังเลยอย่างเช่นผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าของผู้น้อย ควรจะเห็นด้านหลังของคนที่อยู่ด้านหน้าของเขา แต่ไม่ใช่ กลับเห็นหน้าของเขาไม่ว่าหน้าของคนข้างหน้า หน้าของคนข้างหลัง ทุกคนก็สามารถจะเห็นกันได้ ด้านหลังของผู้น้อยก็ยังมีคนมากมาย คนเหล่านั้นผู้น้อยก็มองเห็น สามารถเห็นได้ทั่วทุกทิศ
หากยืน จนเมื่อยจะย่อเข่าลงก็ยังมองเห็น ที่นั่นมีทั้งคนผิวดำ คนผิวขาว คนญี่ปุ่น แต่คนจีนมีมากกว่าและมีคนจมูกแหลมๆ มีคนผมแดงที่ม้วนเป็นก้อนๆ มีหนวดม้วนเป็นก้อนๆ คงจะเป็นชาวสเปน พวกเขาได้รับวิถีธรรมแล้วกลับไปเปรียบเสมือนอาวุโสของพวกเรา
ผู้น้อยสำรวจห้องนี้อีกครั้งหนึ่ง ห้องใหญ่มากใหญ่กว่าโรงยิมหรือห้องพละเสียอีก แท่นบัญชาการก็ใหญู่ พระอาจารย์คุยกับเซียนผมขาวๆ ที่อยู่ใกล้ ตรงนั้นพระองค์หนึ่ง
ผู้น้อยมองเห็นไม่ชัดว่าเป็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์ไหน?
หลังแท่นบัญชาการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีเทพวินัยธรทั้ง 4พระองค์ คือ
เทพวินัยธรกวนอู หลี่เซียนจู่ จางเฟย เย่เฟย
ต่อมาก็เป็นแปดเซียน ตรีเทพพิทักษ์ ขุนพลทหารมากมาย และยังมีขุนพลพิทักษ์สถาน จอมเทพพิทักษ์สถานล้วนนั่งอยู่
แต่พลทหาร ขุนทหารล้วนยืน เป็นสองแถวสง่างามมากผู้น้อยสังเกตเห็นห้องนี้กว้างใหญ่มาก แต่ไม่มีไฟฟ้าคนก็มากมาย
หากว่าผู้น้อยไปโรงภาพยนตร์หรือที่สาธารณะที่ไหนก่อนอื่นต้องไปสำรวจก่อนว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน? เวลาเข้าห้องน้ำจึงจะได้ไม่เข้าผิดห้อง แต่เอ๊ะ! พุทธาลัย ไม่มีห้องน้ำเลยมีแต่ประตูสี่ด้าน ตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้ เท่านั้น
ผู้น้อยมองเห็นพระอาจารย์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เดี๋ยวเหาะมาเดี๋ยวเหาะไป ทุกพระองค์ทักทายกับพระอาจารย์ พูดกันเดี๋ยวเดียวก็ไป พระอาจารย์ ก็ดีใจโบกพัดไปมา ขณะนั้นผู้น้อยนึกกลัวคิดจะพูดว่า
"พระอาจารย์ ลูกศิษย์ยืนอยู่ที่นี่ ท่านอย่าคุย กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนเพลินแล้วเหาะไปนะ คืนนี้ผู้น้อย จะพักอยู่ที่ไหน?ผู้น้อยไมู่ร้จักใครเลยสักคนมีแต่พระอาจารย์คนเดียว"
ในใจผู้น้อยคิดเพียงแค่นี้
พระอาจารย์ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า