ประจักษ์หลักฐาน สภาพความเป็นจริงในสามด่าน
หวังจี๋เตี่ยนฉวนซือ
กราบขอบพระคุณพระแม่องค์ธรรม พระอาจารย์ และศิษย์พี่ที่เมตตานำพาข้าพเจ้าเข้ามายังพุทธสถานแห่งนี้ ข้าพเจ้า “หวังจี่” คิดว่าตัวเองเป็นเตี่ยนฉวนซือ ช่างเป็นเกียรติและโชคดีที่จะสามารถกลับคืนพระนิพพาน ไฮ! ต้องทอดถอนใจจริงๆ ข้าพเจ้าเคยมีจิตเมตตากรุณาจะฉุดช่วยสามโลก เตี่ยนฉวนซือมากมายภายใต้การนำพาของเฉียนเหยิน เป็นเพราะงานธรรมกิจยิ่งปฏิบัติก็ยิ่งกว้างขวาง จึงแบ่งเขตกันรับผิดชอบดูแล เพราะข้าพเจ้ารับพระโองการสวรรค์ค่อนข้างเร็ว อายุแค่ ๒๗ ปีก็รับพระโองการสวรรค์เป็นเตี่ยนฉวนซือแล้ว จึงได้ติดตามปฏิบัติแพร่ธรรมกับเฉียนเหยินก่อนผู้อื่น ไปบุกเบิกแพร่ธรรมยังสถานที่ต่างๆ มีบุคลากรจำนวนมาก ด้วยเหตุที่เฉียนเหยินเมตตากรุณา จึงให้ เตี่ยนฉวนซือทั้งหลายแบ่งเขตกันรับผิดชอบดูแล จะได้ส่งเสริมสนับสนุนเวไนยสัตว์ได้ง่ายขึ้น
แต่ใจของข้าพเจ้าไม่ราบเรียบเป็นปกติ เพราะเหตุใดนักธรรมผู้น้อยที่ข้าพเจ้าส่งเสริมในตอนแรกเริ่ม เฉียนเหยินจึงจัดแบ่งให้ไปอยู่กับเตี่ยนฉวนซือท่านอื่นๆ ผู้ที่เป็นมือซ้ายขวาติดตามอยู่กับข้าพเจ้านั้น ล้วนแต่เป็นเจี่ยงเอวี๋ยนผู้ฝึกหัดบรรยายใหม่ๆทั้งนั้น ข้าพเจ้าจึงเกิดความไม่พอใจ ไม่พอใจที่เหตุใดนักธรรมอาวุโสไม่ยุติธรรม ไม่พอใจเตี่ยนฉวนซือทั้งหลาย ที่เหตุใดจึงมาแย่งชิงเอานักธรรมผู้น้อยของข้าพเจ้าไป ข้าพเจ้าจึงกำชับกับนักธรรมผู้น้อยที่ข้าพเจ้าดูแลว่า ไม่อนุญาตให้ไปยังพุทธสถานที่เตี่ยนฉวนซือท่านอื่นดูแลรับผิดชอบอยู่ ถ้าหากพวกเขาจะไปที่พุทธสถานเหล่านั้นจริงๆ ข้าพเจ้าก็จะไม่ดูแลพวกเขาแล้ว ข้าพเจ้าใช้พระโองการสวรรค์ที่มีอยู่ บังคับกดดันนักธรรมผู้น้อยเหล่านั้นข้าพเจ้าจะตำหนิด่าว่าผู้ที่ค่อนข้างใหม่ ด่าว่าว่าพวกเขาปฏิบัติหน้าที่กันอย่างไม่มีประสบการณ์ ทำงานอย่างลวกหยาบขอไปทีไม่ได้จัดสรรเวลามาอยู่ร่วมงานกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงเกิดควาโมโหไม่พอใจอยู่เสมอ ระเบิดอารมณ์อยู่บ่อยๆ ความไม่พอใจแต่ละอย่างเกิดขึ้นจิตใจมืดมัวไร้แสงสว่าง ผู้ที่เห็นข้าพเจ้า“หวังเตี่ยนฉวนซือ” ในใจก็จะมีความเกรงกลัว
ข้าพเจ้าอายุยังไม่มาก ในใจก็ไร้ซึ่งความเมตตาแล้ว เหมือนกับปีศาจร้ายที่ใครเห็นใครก็กลัว มีแต่คนถอยห่างไม่กล้าเข้าใกล้ตอนแรกข้าพเจ้าไม่รู้ว่าคนอื่นๆ กลัวข้าพเจ้า แต่คิดไปว่าที่คนอื่นๆ มีกิริยาอาการเช่นนั้น คงเป็นเพราะเคารพในความยิ่งใหญ่ของข้าพเจ้า “หวังเตี่ยนฉวนซือ” แน่ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้แต่กระหยิ่มใจอยู่เงียบๆ ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้ฟังคำบอกกล่าวของมือซ้ายขวาของข้าพเจ้าว่า นักธรรมผู้น้อยมากมายพูดกันว่า “หวังเตี่ยนฉวนซือเข้มงวดเคร่งครัดเกินไป” พวกเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้ ข้าพเจ้าจึงได้พูดกับมือซ้ายขวาไปว่า “ไม่เป็นไร ขอให้เชิญผู้ที่มีปัญหามาพบกับข้าพเจ้าได้” มือซ้ายขวาของข้าพเจ้าไม่กล้าพูดตรงๆ ว่า นิสัยอารมณ์ของข้าพเจ้าไม่ดีใบหน้าไม่มีแววแห่งความเมตตากรุณาอยู่เลย จึงทำให้นักธรรมผู้น้อยไม่กล้าเข้าใกล้ ทุกครั้งที่ทำงานอะไรก็ตาม ข้าพเจ้าจะตำหนิข้อผิดพลาดของนักธรรมผู้น้อยอย่างรุนแรง ทำให้นักธรรมผู้น้อยต่างหวาดกลัวไปตามๆ กัน ที่ข้าพเจ้าไม่พอใจเป็นที่สุดก็คือ บุคลากรในอดีตของข้าพเจ้าติตตามอยู่กับเตี่ยนฉวนซือท่านอื่นๆ ข้าพเจ้ายังสั่งนักธรรมผู้น้อยว่า ข้าพเจ้าไม่อนุญาตให้ไปศึกษาหลักธรรมที่พุทธสถานที่เตี่ยนฉวนซือท่านอื่นดูแลรับผิดชอบอยู่ ความยึดติดยึดมั่นแต่ละอย่างจึงทำให้ผู้อื่นพลาดโอกาสแต่ละครั้งๆ ไป
จนกระทั่งอายุได้ ๗๓ ปี ข้าพเจ้าจึงละกายสังขาร พระแม่องค์ธรรมรู้อยู่แล้วว่า ในขณะที่ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่นั้น ในใจมีแต่ความแบ่งแยกเธอเขาเราฉัน ไม่มีใจปฏิบัติธรรมเพื่อส่วนรวมมักจะเกิดความโมโหไม่พอใจอยู่บ่อยๆ ไม่พอใจที่เฉียนเหยินไม่ยุติธรรม ในตอนนั้นเป็นเพราะนักธรรมอาวุโสจะเสริมส่งข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ จึงเกิดความไม่พอใจขึ้นเสมอๆ เมื่อสะกายสังขารตอนอายุ ๗๐ กว่าปี เบื้องบนก็ยังเมตตาให้ร่างกายของข้าพเจ้าอ่อนนุ่มดั่งสำลี เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของนักธรรมผู้น้อยของข้าพเจ้าเอง เมื่อพวกเขาเห็นเช่นนั้น ต่างก็ดีใจกันใหญ่และพูดกันว่า “หวังเตี่ยนฉวนซือร่างกายอ่อนนุ่มดั่งสำลีกลับคืนสู่เบื้องบน เป็นที่ประจักษ์ให้เห็นถึงความสูงส่งล้ำค่าของวิถีธรรม” พวกเขาคิดว่าหนึ่งร้อยวันให้หลัง วิญญาณของข้าพเจ้าจะมาผูกบุญสัมพันธ์ในกระบะทราย จึงได้กราบขอให้เฉียนเหยินได้เมตตา ให้เรียนเชิญวิญญาณของข้าพเจ้ามาผูกบุญสัมพันธ์ด้วย
มีอยู่ครั้งหนึ่ง พระอาจารย์ได้ประทับทรงมาบอกว่า ให้ช้าอีกสักหน่อย ให้ถัดออกไปก่อน สาเหตุเพราะข้าพเจ้า “หวังจี๋”ยังอยู่ “ด่านสอบอารมณ์” ของสามด่านเก้าทวาร บุญภายนอกและกุศลภายในยังไม่สมบูรณ์พูนพร้อม ไม่กล้าที่จะบอกกล่าวให้กับนักธรรมผู้น้อยได้รับรู้ ด้วยความเมตตาของพระอาจารย์ที่ได้ให้ข้าพเจ้ายังเหลือหน้าเหลือตาอยู่บ้าง ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าบำเพ็ญศึกษาธรรม อย่าได้บำเพ็ญความสัมพันธ์ของคน จะต้องอาศัยใจที่เมตตากรุณา และยุติธรรมดีงามมาปฏิบัติช่วยงานสามโลก เบื้องบนจึงจะช่วยเหลือ นักธรรมผู้น้อยจึงจะได้ก้าวเดินตามพวกเราไปในมหาธรรมอันสว่างไสว อย่าได้มีความไม่พออกพอใจพุทธสถานอาณาจักรธรรมเป็นของพระแม่องค์ธรรม จงอย่าได้แบ่งแยกเธอเขาเราฉัน นั่นเป็นเพราะเฉียนเหยินเมตตา จึงได้แบ่งเขตกันเพื่อให้ง่ายแก่การรับผิดชอบดูแล และยังได้กล่อมเกลานำพาผู้ลุ่มหลงได้มากขึ้นอีก จะต้องมีเมตตา และปัญญาเห็นธรรมส่งเสริมธรรม อย่าได้แบ่งเราแบ่งเขา ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุปัจจัยหนุนนำทั้งนั้น ให้พวกเขาได้เข้าใจชัดเจนในหลักธรรมจะได้อุทิศเพื่อธรรมะ จะได้ปฏิบัติธรรมให้เบื้องบน จะได้เป็นสะพานเชื่อมให้เวไนยสัตว์เหยียบย่างกลับคืนสู่เบื้องบนได้ ทุกสิ่งก็เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพวกเขาเหล่านั้น อย่าได้ขัดขวางการบำเพ็ญปฏิบัติธรรมของผู้อื่น แต่จะต้องส่งเสริมดูแลพวกเขาให้ดีๆ
ศิษย์พี่เมตตาให้ข้าพเจ้า ได้มาบอกเล่าความจริงทุกสิ่งทุกอย่างจึงขอให้พระอาจารย์เมตตา นำพาข้าพเจ้าไปบำเพ็ญขัดเกลาที่พุทธาลัยได้ในเร็ววัน รอคอยกันให้ดีๆ เอาเฉียนเหยินเป็นแบบอย่างให้ดีๆ ขอให้เตี่ยนฉวนซือเมตตา ขอให้เมธีน้องพี่ชายหญิงทั้งหลายเมตตา