“ตายอย่างกล้าหาญคนยกย่อง ปูนบำเหน็จเป็นเทพเจ้า”
องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า
พลีชีพเพื่อชาติวิญญาณนักรบ
ทุกคนเคารพโลกสดุดี
ปูนบำเหน็จพิเศษในความดี
ให้หน้าที่ฝ่ายธุระปฏิบัติธรรม
อาจารย์ : วันนี้จะพาศิษย์ไปเที่ยวเมืองตายโหงเพื่อพบกับ ผู้พลีชีพเพื่อชาติเป็นพิเศษ การตายของเขาเป็นความจงรักภักดีต่อประเทศชาติ ได้สร้างบุญคุณไว้อย่างมาก ดังนั้นเบื้องบนจึงปูนบำเหน็จเป็นพิเศษ หากก่อนเกิดมีบุญกุศลไม่เพียงพอก็จะให้เข้าอยู่ในเมืองตายโหงชั่วคราวจนกว่าจะหมดอายุขัยบนโลกแต่เบื้องบนก็ต้องการชมเชยคนที่จงรักภักดีรักชาติ จึงมอบหมายหน้าที่ให้กับผู้ที่พลีชีพเพื่อชาติเป็นพิเศษ อาทิเช่น เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการ หรือรอคอยจนกว่าอายุขัยในโลกจะสิ้นสุดลง ผลงานระหว่างที่เป็นเจ้าหน้าที่และการบำเพ็ญตนผู้อำนวยการเมืองตยโหงจะเป็นผู้นำเสนอต่อเบื้องบนเพื่อรับการปูนบำเหน็จ อาจพูดได้ว่าผู้ที่จงรักภักดีต่อชาติ แต่ยังไม่ได้บำเพ็ญตน ก็เป็นการใช้เมืองตายโหง เป็นสถานที่เพิ่มเติมในการปฏิบัติธรรม
หยงปี่ : ก็พูดได้ว่า พวกที่จงรักภักดีต่อชาติ พลีชีพเพื่อส่วนรวมทั้งหมดจะได้เป็นเทพเจ้าใช่ไหม
อาจารย์ : ความจงรักภักดีเป็นธรรมในอันดับแรก ๆ ของคุณธรรมแปด เป็นขวัญแท้จริงที่สำคัญยิ่ง เพื่อความอยู่รอดของประชาชนและเผ่าพันธุ์ ดังนั้นเมื่อเฝ้ารักษาความจงรักภักดีนี้จนกระทั่งต้องชดใช้ชีวิต เบื้องบนจะรู้สึกซาบซึ้งจึงปูนบำเหน็จเป็นพิเศษ โดยเอาช่วงอายุขัยที่เหลืออยู่ในโลกไปบำเพ็ญธรรมแทนในเมืองตายโหง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเพียบพร้อมด้วยความงามสองประการคือ ไม่ฝืนต่อกฏสวรรค์ เป็นการชมเชยต่อข้าราชการผู้จงรักภักดี และคุณความดีของผู้จงรักภักดีจะได้รับการประกาศเกียรติคุณด้วยความเอิกเกริกเกรียงไกรแพรวพราวเสมอมา ยิ่งเมื่อได้รับการหลุดพ้นจากพันธนาการจากโลกแล้ว ก็จะได้รับการสถาปนาเป็นเทพเจ้าทันที
หยงปี่ : การรักษาความจงรักภักดี ก็เป็นการบำเพ็ญธรรมจนสำเร็จได้อีกแนวทางหนึ่งใช่ไหม
อาจารย์ : พูดเช่นนั้นก็ได้ ดีแล้ว ประทานแพรฟ้าป้องกันตัวหลับตาลงเราจะเดินทางกัน...ถึงแล้ว ศิษย์ข้าลืมตาได้แล้ว
หยงปี่ : ครับ! พวกเขาทำอะไรกันนะ ฝึกทหารกันอยู่หรือ (ข้างหน้าเป็นสนามฝึกใหญ่ มีวิญญาณผีจำนวนมากกำลังได้รับการฝึกฝนเหมือนการฝึกทหารบนโลก บางคนก็มีสติขวัญสมบูรณ์ ความสง่างามของกายที่ฉกรรจ์ของคนวัยหนุ่มกำลังรับฟังการบรรยายหลักธรรมเพื่อการฝึกฝน เห็นพวกเขามีลักษณะองอาจผึ่งผายก็เดาว่า กำลังเล่าเรื่องที่ซาบซึ้ง)
อาจารย์ : เจ้าถาม ๆ คนที่เดินมา เขาเป็นผู้ที่เราจะถามหาในคืนนี้ (ขณะที่อาจารย์กำลังพูดอยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ฉกรรจ์แต่งตัวทหาร เดินมาทางอาจารย์และศิษย์สองคน)
ทหาร : กระผมจางเอ่ยเต๋อ ด้วยบารมีของท่าน รับหน้าที่เป็นพนักงานฝึกสอนในเมืองตายโหง ได้รับทราบจากผู้อำนวยการว่าวันนี้ให้มาพบท่านอาจารย์และศิษย์เป็นพิเศษ
อาจารย์ : ไม่ต้องรักษามารยาท ศิษย์ข้าเป็นมือทรงเอกอยากจะขอให้ท่านตอบคำถาม
หยงปี่ : โปรดชี้แนะ ท่านจาง ท่านเข้ามาเมืองตายโหงอย่างไรมีกำหนดกี่ปี วันนี้มีหน้าที่อะไร
ทหาร : ข้าพเจ้าสังกัดอยู่ในกองทหารแห่งชาติ มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่กำลังลาดตระเวนอยู่ที่ถนนจงกลั่นเมืองไถจง รถเกิดพลิกคว่ำถึงแก่ความตาย มีอายุเพียง 22 ปี อายุขัยบนโลก 48 ปี ยังมีอายุเหลืออยู่อีก 26 ปี ที่จริงต้องขังในแดนชั้น 3 ด้วยบารมีเบื้องบนที่เห็นว่าพลีชีพเพื่อชาติ ขณะมีชีวิตอยู่ก็ประกอบความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ถึงกับทำบาป ท่านผู้อำนวยการเมืองตายโหงจึงให้ทำหน้าที่เป็นพนักงานฝึกสอนในแดนชั้นสาม ด้านหนึ่งก็ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายเรื่องใจจงรักภักดีรักชาติ ให้แก่วิญญาณผีในเมืองตายโหง และก็ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ควบคุมฝึกทหารภาคสนาม
หยงปี่ : ทำไมจึงต้องฝึกวิญญาณผีในเมืองตายโหงด้วย
ทหาร : เพราะว่าในเมืองตายโหงมีวิญญาณผีที่ไม่จงรักภักดี เช่น หนีทหาร ขายชาติ เป็นต้น พวกเขาขณะมีชีวิตอยู่ไม่จงรักภักดีต่อชาติ เพราะฉะนั้นจึงต้องฝึกอบรม “ความจงรักภักดี” ให้อยู่ในความคิด โดยฝึกอบรมอย่างเคร่งครัดในวินัย เพิ่มความประทับใจให้ลึกซึ้งเป็นการทำโทษ
หยงปี่ : ถ้าเช่นนั้นคนหนุ่มเหล่านั้นที่แต่งตัวต่าง ๆ กันกับตัวท่านก็เป็นพนักงานฝึกสอนซิ
ทหาร : ใช่แล้ว ท่านเห็นพวกเขามีท่าทางกำลังอธิบายถึงแนวทางรักชาติแก่วิญญาณผี
หยงปี่ : น่าอิจฉาจริง พวกท่านพลีชีพเพื่อชาติ ตายไปแล้วดวงวิญญาณสง่างามยังสามารถให้วิทยาทานแก่วิญญาณผีไม่ละอายที่เป็นวิญญาณนักรบร้อยเปอร์เซ็นต์แน่ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พวกท่านยังได้โอกาสสร้างบารมีเป็นพิเศษเพื่อสำเร็จเป็นเทพเจ้าในเร็ววันใช่ไหม
ทหาร : มีครับ พวกแนวหน้าก็มีหัวหน้าอยู่คนหนึ่ง เพราะตระเตรียมแผนการสอนแก่วิญญาณผี อริยเจ้าเบื้องบนได้ตรวจสอบ แล้วรายงานขึ้นสู่เบื้องบนเป็นกรณีพิเศษ เบื้องบนจึงปูนบำเหน็จให้เร็วเป็นพิเศษรับหน้าที่เป็นเทพเจ้า ยังมียิ่งกว่านั้น ขณะมีชีวิตในโลกก็ได้บำเพ็ญเพียรสร้างกุศล เมื่อมาอยู่ที่นี่ก็ยังได้รับกุศลที่อุทิศจากญาติมิตรบนโลกอีก แม้จะเป็นผีก็สามารถไปเป็นเทพเจ้าได้อย่างรวดเร็ว
หยงปี่ : ขอบคุณในคำชี้แนะอย่างละเอียดของท่าน
อาจารย์ : การเยี่ยมเยือนหมดเพียงเท่านี้ หลับตาเสีย อาจารย์จะพากลับสถานธรรม
หนังสือเล่มนี้ได้รับโอวาทศักดิ์สิทธิ์ของเซียนซือ สามารถนำเอาข้อมูลของญาติมิตรที่ตายไปแล้วส่งมายังสำนักได้ แล้วถวายสารสอบถามว่ายังถูกขังอยู่ในเมืองตายโหงหรือไม่ ทั้งยังได้จัดระเบียบเพื่อไปเยี่ยมเยือนพูดคุยด้วย ทำให้วิญญาณผีได้มีโอกาสได้เขียนลงในหนังสือเป็นการสร้างกุศล เพื่อจะได้พ้นจากนรกโดยเร็ว ทำให้ผู้อ่านได้ส่งจดหมายมามากถึง 150 ฉบับ เพื่อวานให้ช่วยสอบถามญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว แต่มีจำนวนจำกัดในการแต่งหนังสือ ที่เหลือก็รอผู้อำนวยการเมืองตายโหงตอบรับเพื่อทำลงในวารสาร ของให้ท่านตรวจอ่านได้