mindcyber 3 weeks ago

ครั้งที่ 27 สนามวิ่งแข่ง

          “กรีฑาวิ่งแข่งกัน  ขจัดความเหี้ยมโหด”               

             องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า            

                 ท่องตายโหงไม่ท้อแท้แม้ทุกข์เข็ญ             

คืนหนาวเย็นอาจารย์ศิษย์สาวเท้าไว             

เฝ้ารอคอยการเผยแผ่ปีถัดไป             

สั่งสมไว้บุญกุศลตักเตือนคน             

อาจารย์ : เที่ยวเมืองตายโหงคราวก่อนมาถึงแดนขังหนึ่ง ดูแต่ละหน่วยงาน คืนนี้จะเข้าสู่แดนขัง 2 ประทานแพรฟ้าป้องกันตัว เราออกเดินทางกันเถอะ             

หยงปี่ : เรียนถามอาจารย์ แดนขังสองเป็นฆาตกรรมตาย ถ้าอย่างนั้นสถานที่นี้ยมบาลต้องสร้างการลงโทษอย่างหนัก เพื่อเป็นการฝึกฝนอารมณ์ดุร้ายของวิญญาณผีพวกนี้             

อาจารย์ : ไม่...เมืองตายโหงไม่สร้างการลงโทษ ได้บอกไว้แล้วตั้งแต่แรก ถ้าเช่นนั้นการอบรมจะมีผลอย่างไรต่อผีตายโหงพวกนี้ เจ้าดูเอาเองก็แล้วกัน             

หยงปี่ : ศิษย์รู้ว่าเมืองตายโหงไม่สร้างการลงโทษ เพียงแต่แปลกใจว่า จะทำอย่างไรให้พวกตายโหงเหล่านี้ได้ฝึกฝนอารมณ์ความดุร้ายได้             

อาจารย์ : ตอนนี้ได้ผ่านมาระหว่างแดนหนึ่งกับสองแล้ว เจ้าลองหาคำตอบเอาเอง             

หยงปี่ : ศิษย์รู้ว่าได้ผ่านตำหนักซิ่งหง แต่ได้เห็นลักษณะเหมือนสนามกีฬาในเมืองมนุษย์             

อาจารย์ : เราสองคนนั่งอยู่บนอัฒจันทร์คอยดูก็แล้วกัน             

หยงปี่ : (เดินตามอาจารย์ไปสถานที่เหมือนสนามกีฬา) หรือว่าเมืองตายโหงกำลังมีการแข่งกรีฑากันอยู่ ไม่อย่างนั้นจะมีเสียงดังลั่นมาจากข้างในหรือ อาจารย์ยังจะขึ้นไปนั่งดูบนอัฒจันทร์อีกนับว่าทันสมัยได้ดูการแข่งกีฬาในยมโลก (ตอนนี้กำลังเดินเข้าสู่ประตูและเดินขึ้นบันไดไปที่นั่งของคนดู) ว้าว! เป็นการแข่งกีฬากันจริง ๆ ด้วย อย่างนี้ก็สนุกซิจะได้เห็นว่าทางยมโลกเขาแข่งกีฬากันอย่างไร             

อาจารย์ : หยงปี่เจ้าจงตั้งใจดูรายการกีฬาพิเศษนั้น ก็จะเข้าใจว่าจะเห็นเหล่าวิญญาณดุร้ายได้ฝึกฝนอารมณ์เหี้ยมโหดอย่างไร             

หยงปี่ : ครับ! (ทั้งสองขึ้นไปบนอัฒจันทร์แล้วหันไปทางหอบังคับการ พอดีมีเจ้าหน้าที่มาพาทั้งสองคนเข้าไปยังที่นั่งแถวหน้า หยงปี่ก็เฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อ ตาจ้องอยู่ที่สนาม) เฮ้ย! นี่ เหมือนสนามกีฬา เท่ากับว่าจะเปลี่ยนเป็นเกมป่าเถื่อนหรือ นั่นลู่วิ่งมีสิ่งกีดขวาง เปลี่ยนเป็นที่ต่ำที่สูง ทำให้ผู้วิ่งหัวหมุน เปลี่ยนทิศทางเต็มไปหมด (หยงปี่พูดจบลง ก็มีเสียงดังมาจากด้านข้าง) ท่านหยงปี่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เปลี่ยนเป็นเกมป่าเถื่อน นี่เป็นเกมการวิ่งแข่ง เพียงแต่พวกเราเพิ่มหลุมบ่อให้โดยไม่คาดคิด ที่สำคัญคือต้องการให้ผู้วิ่งมีสติแน่วแน่ เพิ่มความระมัดระวัง อย่างนี้จึงจะทำให้กายใจอยู่รวมกัน จะได้ขจัดอารมณ์ดุร้ายได้ ถ้าหากผู้แข่งขันใดชนะก็จะเป็นการสะสมคะแนนใช้ไปลดวันกำหนดโทษได้ นี่คือการแข่งขันที่มีรสชาติจะเปลี่ยนเป็นเกมป่าเถื่อนไปได้อย่างไร             

อาจารย์ : พูดได้น่าฟังมาก แล้วพวกกระโดดสูงนั่น ไม่ปูเบาะเลยแถมยังเป็นอิฐหินอีกจะให้เห็นดีไปได้อย่างไร ก็มีเสียงพูดต่อไปว่าพวกผีฆาตกรรมตายเหล่านี้เป็นพวกไม่กลัวมีดไม่กลัวปืนแล้วจะไปกลัวอะไรกับก้อนอิฐหินนั่น             

หยงปี่ : (ตอนนี้รู้สึกว่าเสียงนั้นไม่ใช่อาจารย์จึงรีบหันไปดู ที่แท้ผู้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คือผู้เฒ่าที่ผมซีดจนเขียว) ท่านเป็นใคร             

อาจารย์ : ฮาฮ้า! ไอ้โง่ นี่คือผู้อำนวยการกีฬาและก็เป็นผู้ควบคุมฝ่ายพลาธิการแดนขังสอง

หยงปี่ : ที่แท้เป็นแผนการของท่านเอง มิน่าเล่าจึงพูดได้อย่างน่าฟังนัก             

พลาธิการ : ผิดแล้ว งานกีฬานี้แม้จะเป็นแผนการของข้าพเจ้าแต่รายการแข่งขันทั้งหมดก็ได้รายงานให้ผู้บังคับข้างบนอนุญาตก่อน จึงพูดได้ว่าไม่มีการเปลี่ยนเป็นเกมป่าเถื่อน             

หยงปี่ : ชาวบ้านเขาวิ่งแข่งกันว่าใครเร็วใครมีกำลัง แล้วที่ลู่วิ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะพบกับสิ่งกีดขวางที่สูงหรือตกลงไปเป็นหลุมลึกท่านควรจะลองไปวิ่งดู             

พลาธิการ : ข้าพเจ้าก็ยอมรับว่าข้าพเจ้าก็ทำไม่ได้ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีโทษของยมโลก จึงไม่ต้องรับการทดสอบ อย่างนี้มีประโยชน์ต่อพวกเขาเมื่อร่างวิญญาณได้มีสติ ทั้งจิตและกายจดจ่อ นาน ๆ ไปก็สามารถกลายเป็นตาข่ายต้านทาน จะได้ลดความอยากลงไม้ลงมือด้วยความเหี้ยมโหดได้             

หยงปี่ : พูดอย่างนี้รายการแข่งขันของท่าน ล้วนมีเจตนาดี             

พลาธิการ : แน่นอน วิญญาณผีเหล่านี้ เพราะเป็นพวกที่ชอบรุนแรงจนตายโหง ไม่ว่าตนเองจะให้ร้ายคนอื่นเขาหรือถูกเขาปองร้าย ก็เพราะตนเองมีอารมณ์ที่โหดร้าย และเมืองนี้ก็ไม่ใช่เมืองนรก ไม่สามารถจะสร้างบการลงโทษที่รุนแรงเพื่อกำราบความโหดเหี้ยม จึงต้องอาศัยชื่อว่าการกีฬา มีการเพิ่มคะแนนจะได้ลดโทษการคุมขัง ทำให้พวกเขาได้แข่งขันเหมือนได้คลายแรงกายลง ก็จะเป็นการขจัดอารมณ์ดุร้ายได้             

หยงปี่ : นี่ก็เป็นความหวังดีอย่างจริงใจ ศิษย์ไร้มารยาท เอ่อ! การแข่งขันนี้ต้องทำกันเป็นประจำหรือไม่             

พลาธิการ : ไม่ ปีละครั่ง แต่ว่าแต่ละรายการ ทุกคนต้องเข้าร่วมมิฉะนั้นก็จะไม่ได้รับการฝึกฝน เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง มองดูแล้ว ผู้แข่งขันทุกคนดูน่าสงสาร ที่จริงพวกเขามิเพียงแต่ได้ขจัดเอาอารมณ์แห่งความดุร้ายเท่านั้น ยังลดเวลาการกักขังลงไปด้วย พูดได้ว่าได้ประโยชน์มากมาย             

อาจารย์ : ขอบใจท่านพลาธิการ ที่ช่วยแนะนำ เราศิษย์อาจารย์ต้องรีบกลับ รบกวนท่านมากแล้ว ข้าจะส่งเจ้ากลับสถานธรรม......ถึงแล้ว ข้ากลับละ               


0
123

ฆ่ากันตลอดชีวิต

น่าสังเวชใจเหลือเกินที่ชั่วชีวิตของคนเราตั้งแต่เล็กจนโตตั้งแต่โตจนแก่จนกระทั้งแก่ไปถึงตายใ...

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

สำนึกบาป

1654918052.jpg
mindcyber
3 months ago

งานเทียวโต่ว

พระอรหันต์ไคซิน

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไขปัญหาธรรม

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago
ข้าวเกรียบปากหม้อ

ข้าวเกรียบปากหม้อ

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago