รื้อฟื้นคดีฉินไกว้

    เทพฝ่ายพิธีกรรม : ค่ำคืนนี้ท่านยมบาลทั้ง 10 ตำหนักได้รับราชโองการให้มาใช้ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นที่พิจารณาคดีเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลก สานุศิษย์ทุกคนจงจุดธูปคนละดอกเข้าแถวรอรับเสด็จด้วยความสำรวม     

     เลขายม :ท่านยมบาลทั้ง 10 ตำหนัก ได้รับราชโองการให้รื้อฟื้นคดีของฉินไกว้ ขุนนางกังฉินขายชาติแห่งยุคราชวงศ์ซ้อง ขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลก ท่านยมบาลจวนจะมาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ยมทุกคนจงเข้าแถวรอรับเสด็จ     

     ยมบาลตำหนักที่ 1 :ยมบาลทั้ง 10 ตำหนักได้รับราชโองการ ให้มาร่วมประชุมพิจารณาคดีของฉินไกว้ ขุนนางกังฉินสมัยราชวงศ์ซ้อง ค่ำคืนนี้จึงต้องขอใช้สถานที่แห่งนี้เป็นศาลชั่วคราว บัดนี้ยมบาลทั้ง 10 ตำหนักได้มาถึงเรียบร้อยแล้ว เปิดศาล !       

     ยมบาลตำหนักที่ 1 :เจ้าหน้าที่....เอาธงคำสั่งของข้า ไปที่นรกอเวจี เบิกตัวฉินไกว้มาขึ้นศาลรอการไต่สวน     

     เจ้าหน้าที่ :ครับผม....เรียนใต้เท้า...ได้นำตัวฉินไกว้มาแล้วครับ     

     ยมบาลตำหนักที่ 2 :คนที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้า คือฉินไกว้ใช่ไหม ?       

     ฉินไกว้ :ผมคือฉินไกว้ อัครเสนาบดีแห่งราชวงศ์ซ้อง ไม่ทราบว่าใต้เท้าให้ผมมาที่นี่ มีอะไรจะชี้แนะหรือครับ หรือว่าจะอนุญาตให้ผมได้เไปเกิดเป็นมนุษย์อีก ถ้าเช่นนั้นก็ขอขอบคุณมากครับ     

     ยมบาลตำหนักที่ 3 :ฉินไกว้...เจ้าอย่าฝันเฟื่องที่นำเจ้ามาที่นี่ในวันนี้ เนื่องจากเราได้รับราชโองการให้รื้อฟื้นคดีของเจ้าขึ้นมาพิจารณาใหม่ คือจะทำการไต่สวนเจ้าอีกครั้งเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลก เจ้าสมคบกับชนชาติกิมและประหารแม่ทัพงักฮุยอย่างไร จงให้การมาตามความจริงทั้งหมดเพื่อเตือนสติเตือนใจชาวโลก     

     ฉินไกว้ :ผมอยู่ในสมัยราชวงศ์ซ้อง การลอบติดต่อกับต่างชาติ และการวางแผนฆ่าแม่ทัพงักฮุย คดีนี้เมื่อผมตายแล้วตอนนั้น เคยได้รับการพิพากษาจากท่านยมบาลให้จองจำอยู่ในขุมนรกอเวจี จนถึงบัดนี้เกือบพันปีแล้ว จะรื้อฟื้นคดีขึ้นมาทำไมอีกเล่าครับ     

     ยมบาลตำหนักที่ 4 :เนื่องจากปัจจุบันนี้เป็นยุคแห่งกลียุค ทางยมโลกได้รับราชโองการให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง คือจะไต่สวนเหตุการณ์แห่งคดี เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจคนทุจริตขายชาติ     

     ฉินไกว้ :แต่คดีได้ปิดแล้วจะไต่สวนใหม่ไปทำไมอีกและแม่ทัพงักถ้าหากไม่ได้ผมปรักปรำและประหาร แม่ทัพงักกับลูกก็คงไม่ได้ขึ้นสวรรค์เป็นเทพ เชื่อว่าตัวท่านแม่ทัพงักเองก็คงไม่ติดใจเรื่องนี้อีกแล้ว     

     ยมบาลตำหนักที่ 6 :ฉินไกว้จอมกังฉิน สมัยเป็นมนุษย์เจ้าปรักปรำและสั่งประหารท่านงักฮุย จึงถูกตัดสินให้ไปเกิดเป็นหมูถูกแล่เนื้อเฉือนหนัง ชาติแล้วชาติเล่า เมื่อวิญญาณกลับถึงยมโลก ก็ต้องถูกจองจำอยู่ในนรกอเวจีตลอดกาล ไม่มีโอกาสได้ผุดเกิดอีก เนื่องจากทางยมโลกได้รับราชโองการให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาไต่สวนใหม่ เพื่อเป็นการเตือนสติเตือนใจข้าราชการและเสนาบดีที่ทุจริตคอรัปชั่น เจ้าสมคบกับคนต่างชาติปรักปรำและประหารแม่ทัพงักฮุยอย่างไรบ้าง จงให้การมาตามความจริง เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลก จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวอีก     

     ฉินไกว้ :คดีนี้เกิดขึ้นเกือบพันปีมาแล้ว ผมต้องถูกจองจำอยู่ในขุมนรกอเวจี ความทุกข์ทรมานที่ได้รับอยู่ทุกวันก็สุดแสนสาหัสสากรรจ์ ตอนนั้นเมื่อวิญญาณมาถึงเมืองนรกก็ได้ถูกลงโทษด้วยเครื่องทัณฑกรรมนานาชนิด และก็ได้เคยรับสารภาพตามความจริงหมดแล้วว่า ได้ลอบติดต่อกับชนชาติกิมเป็นไส้ศึก คิดคดทรยศต่อชาติ วางแผนปรักปรำแม่ทัพงักฮุยจนต้องได้รับอาญาถึงตายอย่างไรบ้าง ทุกอย่างทางยมโลกล้วนแต่ได้บันทึกไว้ทั้งสิ้น ขอให้ไปตรวจดูในแฟ้มได้ เรื่องนี้ฉาวโฉ่จนถึงบัดนี้ ใคร ๆ ก็รู้เชื่อว่าความแค้นของแม่ทัพงักฮุยก็คงจางหายไปหมดแล้ว ถ้าหากใต้เท้าไม่เชื่อ ก็ลองไปเชิญแม่ทัพงักมาถามดูได้     

     ยมบาลตำหนักที่ 7 :ได้...ยมบาลทุกท่านจะร่วมลงชื่อในเทียบ (บัตรเชิญ) ขอให้ท่านเลขานำเทียบนี้ไปที่สวรรค์เรียนเชิญท่านแม่ทัพงักฮุยให้มาที่นี่ด่วน     

     เลขายม :ได้ครับ...เรียนใต้เท้า ท่านแม่ทัพงักฮุยมาถึงแล้วครับ     

     ยมบาลตำหนักที่ 7 :ยมบาลทั้ง 10 ตำหนักขอต้อนรับท่านงักฮุย     

     เทพงักฮุย :ไม่ทราบว่าใต้เท้าทุกท่าน เชิญข้าพเจ้ามาที่นี่ มีธุระอะไรหรือครับ     

     ยมบาลตำหนักที่ 8:ท่านงักฮุยเชิญนั่ง เนื่องจากพวกเราได้รับราชโองการให้รื้อฟื้นคดีเก่า ขึ้นมาไต่สวนพิจารณาใหม่ โดยร่วมกันไต่สวนความผิดของฉินไกว้แห่งราชวงศ์ซ้องเต่เจ้าฉินไกว้เจ้าเล่ห์ เอาแต่พูดว่าท่านงักฮุยไม่ติดใจเคืองแค้นเรื่องในอดีตอีกแล้ว ดังนั้นจึงได้เชิญท่านมาที่นี่ เพื่อแสดงความคิดเห็นบ้าง     

     เทพงักฮุย :บัณฑิตใช้คุณธรรมละลายความแค้นแม้ว่าข้าพเจ้าจะรู้ว่าฉินไกว้แอบอ้างราชโองการ ออก 12 ป้ายทอง เรียกตัวเข้าเมืองหลวงเพื่อประทุษร้าย แต่เมื่อข้าพเจ้านึกถึงอักษร “ภักดีเพื่อชาติ” ที่มารดาสักอยู่บนแผ่นหลังของข้าพเจ้า จึงไม่กล้าขัดราชโองการ ตัวตายเพื่อชาตินั้นไม่เสียดาย เสียดายแต่ว่ายังไม่สามารถกำจัดศัตรูของชาติ เพื่อประชาชนจะได้อยู่อย่างสงบสุข เรื่องฉินไกว้คิดร้ายปรักปรำ ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว     

     ยมบาลตำหนักที่ 9 :ท่านงักฮุยซื่อสัตย์ภักดีต่อชาติชื่อเสียงเลื่องลือจนบัดนี้ ไม่ติดใจเคืองแค้นเรื่องความชั่วของฉินไกว้ในอดีต  ยอมใช้คุณธรรมละลายความแค้น น้ำใจของมหาบุรุษน่าเลื่อมในจริง ๆ ต้องขออภัยด้วยที่รบกวนท่านในวันนี้     

     เทพงักฮุย :ไม่เป็นไร ข้าพเจ้าต้องขอลาทุกท่าน     

     ยมบาลตำหนักที่ 10 :ฉินไกว้...เจ้าได้ยินคำพูดของท่านงักฮุยหรือยัง ? สมัยนั้นเจ้าปรักปรำหาเรื่องเอาผิดกับท่านงักฮุยต่าง ๆ นานา เจ้าทำลงคอได้ยังไง ? ที่จริงจะลงโทษให้เจ้าไปเกิดเป็นวัวเป็นควาย เพื่อเสวยความทุกข์ทรมานจากการไถนา จากนั้นก็ถูกแล่เนื้อเฉือนหนังเป็นชิ้น ๆ เมื่อวิญญาณกลับถึงยมโลกก็จะถูกจองจำอยู่ในขุมนรกอเวจีต่ออีก แต่เนื่องจากท่านงักฮุยยอมใช้คุณธรรมละลายความแค้น ฉะนั้นจึงอนุญาตให้ไม่ต้องเสวยความทุกข์ทรมานจากการเป็นวัวควายอีก เจ้ามีอะไรจะพูดอีกไหม ?       

     ฉินไกว้ :ผมสำนึกผิดแล้วครับ สมัยนั้นผมไม่ควรไปเชื่อคำหลอกลวงของคนต่างชาติ โดยแอบอ้างราชโองการใช้ 12 ป้ายทอง เรียกตัวแม่ทัพงักกลับเมืองหลวง แล้วตั้งข้อหากบฏจับขังคุก และไม่สมควรไปซ้อมทรมานแม่ทัพงักกับลูกถึงในคุกเพื่อบีบบังคับให้ยอมรับสารภาพผิด และไม่ควรไปเชื่อฟังภรรยให้ประหารแม่ทัพงักที่ศาลาสายลม ผมสำนึกผิดแล้วครับ     

     ขอเตือนชาวโลกที่เป็นข้าราชการและสนาบดีทั้งหลายพึงเอาแบบอย่างความซื่อสัตย์สุจริตของท่านงักฮุย ชื่อเสียงหอมหวนหมื่นปี ตายแล้วได้ขึ้นสวรรค์เป็นเทพเทวดา อย่าได้แสวงหาความสุขสบาย ด้วยการทุจริตขายชาติ ปรักปรำคนดีโดยไร้มูลความจริง ตายแล้วต้องเสวยทุกข์ทรมานแสนสาหัสต้องถูกจองจำอยู่ในขุมนรกอเวจี ไม่ได้ผุดเกิดอีกตลอดกาลเสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเหม็นฉาวโฉ่หมื่นปี คนทุจริตและคนขายชาติทั้งหลาย ขอให้รีบกลับตัวใหม่ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตโดยเร็ว ถึงจะไม่เสียชาติเกิด ใต้เท้าได้โปรดกรุณาอภัยโทษให้ผมได้ไปเกิดเป็นคนอีกสักครั้งหนึ่งเถิด     

     ยมบาลตำหนักที่ 1 :ในเมื่อฉินไกว้มีใจสำนึกผิดและท่านงักฮุยก็ยอมใช้คุณธรรมละลายความแค้น ไม่ทราบว่าท่านยมบาลทุกท่านจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไป     

     ยมบาลตำหนักที่ 5 (เปาบุ้นจิ้น) :ฉินไกว้กระทำความผิดใหญ่หลวง ทางยมโลกได้รับราชโองการให้รื้อฟื้นคดีเก่าขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยร่วมกันไต่สวนฉินไกว้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่ชาวโลกที่ทุจริตขายชาติ เพื่อเตือนให้เขาได้กลับตัวกลับใจเสียใหม่ และเป็นการเตือนชาวโลกว่า ต้องเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตอย่าได้กระทำความชั่ว ปรักปรำคนดี แม้ว่าท่านงักฮุยจะยอมใช้คุณธรรมละลายความแค้น แต่ฉินไกว้สมคบกับต่างชาติคิดคดทรยศต่อชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่พลเมืองดีไม่พึงกระทำความผิดนั้นก็ควรต้องได้รับ ดังนั้น ฉินไกว้ก็ยังควรต้องถูกจองจำอยู่ในนรกอเวจีอีกต่อไป ทว่าการมารับการไต่สวนของฉินไกว้ในครั้งนี้ มโนธรรมได้ปรากฏขึ้น โดยได้พูดเตือนชาวโลกให้เอาเยี่ยงอย่างความซื่อสัตย์ภักดีของท่านงักฮุยถ้าหากมีบุคคลที่ทุจริตขายชาติสามารถกลับตัวใหม่ได้ เพราะคำเตือนของเขาแล้วไซร้ บุญกุศลนั้นก็ควรตกแก่ฉินไกว้ เมื่อถึงเวลานั้น เบื้องบนก็ย่อมจะลดโทษให้เขาเอง ไม่ทราบว่าทุกท่านมีความเห็นอย่างไร ?       

     ยมบาลทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า :คำพูดของท่านเปา สมเหตุสมผล เราทุกคนเห็นด้วย     

     ยมบาลตำหนักที่ 5 (เปาบุ้นจิ้น) :เมื่อทุกท่านเห็นด้วยกับข้าพเจ้าก็ขอให้ท่านเลขาเขียนฏีกากราบทูลให้สวรรค์เบื้องบนทรงทราบ คดีนี้ก็เป็นอันยุติลงเพียงแค่นี้ เจ้าหน้าที่...นำตัวฉินไกว้กลับไปจองจำที่นรกอเวจีต่อไปตามเดิม เลิกศาล !