พระโพธิสัตว์กษิติครรภ
ทุกเช้าและก่อนนอน หลังจากล้างมือบ้วนปาก ให้คุกเข่าพนมมือ หรือยืนพนมมือด้วยอาการนอบน้อมหน้าพระพุทธรูปแล้วสวดภาวนาตามลำดับดังต่อไปนี้ (ถ้าไม่มีพระพุทธรูปให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก)
1. นามอ สือฟาง จูฝอผูซา (กราบ)
2. นามอ เปิ่นซือ ซื่อเจียหมอหนีฝอ (กราบ)
3. นามอ ซีฟาง จี๋เล่อซื่อเจี้ย ต้าฉือต้าเปย อาหมีถอฝอ (กราบ)
4. นามอ อาหมีถอฝอ (แต้จิ๋ว : นามอ ออมีทอฮุก สวดร้อยครั้ง พันครั้ง ยิ่งมากยิ่งดี ตามเวลาเอื้ออำนวยของแต่ละคน ไม่ต้องคุกเข่าก็ได้ จะนั่งสวดหรือยืนสวดก็ได้)
5. หรืจะสวดนามแห่งเราก็ได้คือ นามอ ต้าย่วนตี้จ้างหวังผูซา (ร้อยครั้ง พันครั้ง ยิ่งมากยิ่งดี)
6. นามอ กวนซื่ออิมผูซา (กราบ)
7. นามอ ต้าซื่อจื้อผูซา (กราบ)
8. นามอ ชิงจิ้ง ต้าไห่จุ้งผูซา (กราบ)
9. เอวี้ยนอี่ ฉื่อกงเต๋อ จวงเอี๋ยน ฝอจิ้งถู่ ซั่งเป้า ซื่อฉงเอิน เซี่ยจี้ ซันถูขู่ ยั่วโหย่ว เจี้ยนเหวินเจ่อ ซีฟาผูถีซิน จิ้นฉือ อีเป้าเซิน ถงเซิง จีเล่อกั๋ว (กราบ 3 ครั้ง จบการสวด)
(ข้อ 9. เป็นคำอุทิศมีความหมายว่า......ขออุทิศส่วนกุศลนี้แด่ สุขาวดีแดนแห่งพุทธะ เพื่อตอบแทนพระคุณทั้งสี่เหล่า และสงเคราะห์ผู้ตกอยู่ในทุคติภูมิทั้งสาม หากผู้ใดได้ยินได้ฟังคำสวดนี้ ขอจงบังเกิดจิตโพธิ ยามละกายสังขารจงได้จุติสุขาวดีพร้อมกัน)
การสวด “นามอ อาหมีถอฝอ” หรือ “นามอ ออมีทอฮุก” (จะใช้หรือไม่ใช้ลูกประคำก็ได้) นอกจากสวดตอนเช้าและก่อนนอนแล้ว เวลาอื่นก็สวดได้ทุกเวลา ไม่ว่าขณะนั่ง ยืน เดิน นอน หรือขณะทำงาน หากไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานก็สวดได้ทั้งนั้น ยกเว้นอยู่ในสถานที่ไม่สะอาด เช่น ห้องน้ำ หรือห้องนอน ให้สวดในใจ ห้ามออกเสียง ข้อสำคัญขณะสวด ใจอย่าคิดฟุ้งซ่าน ปากกับใจต้องรวมเป็นหนึ่งเดียวคือปากสวด “อาหมีถอฝอ” ใจก็คิดถึง “อาหมีถอฝอ” หูก็ฟัง “อาหมีถอฝอ”
นักปฏิบัติที่มุ่งหวังจุติสุขาวดี จะต้องหมั่นสร้างความดีทำบุญให้ทาน และรักษาศีลห้า ได้แก่
1. ห้ามฆ่าสัตว์
2. ห้ามลักขโมย
3. ห้ามประพฤติผิดในกาม
4. ห้ามพูดเท็จ
5. ห้ามดื่มสุราของมึนเมา
นักปฏิบัติจะต้องละเว้นการกระทำที่ไม่ดีทั้งห้าข้อนี้ โดยเฉพาะบุหรี่ทุกชนิด ไม่ควรสูบอย่างยิ่งเพราะการสูบบุหรี่ทำให้ปากเกิดกลิ่นเหม็นไม่สะอาด เมื่อไปสวดพระนามของพระพุทธะ หรือสวดมนต์คาถา ย่อมเป็นการไม่เคารพและการสูบบุหรี่ยังมีโทษต่อร่างกายอีกด้วย ดังนั้นนักปฏิบัติจึงต้องรักษาทั้งศีลห้าและงดสูบบุหรี่ จึงจะสามารถจุติสุขาวดีได้
ผู้ที่มุ่งหวังจุติสุขาวดี ควรจะกินเจด้วย มิเช่นนั้นเมื่อจุติสุขาวดี จะนำกรรมไปด้วย หากสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยก็ อาจกินแต่พวกเนื้อสามสะอาด และกินเจแบบ 6 วัน หรือ 10 วันไปก่อน การกินเจแบบ 6 วัน คือทุกเดือนวันที่ (จีน) 8, 14, 15 23, 29, 30 ส่วนแบบ 10 วันคือ วันที่ (จีน) 1, 8, 14, 15, 18, 23, 24 และอีก 3 วันสุดท้ายของเดือน (เทียบใกล้เคียงกับวันพระวันโกนของไทย) ต่อเมื่อสามารถกินเจทุกวันจึงค่อยกินเจแบบถาวร ส่วนพวกเนื้อสัตว์สามสะอาดที่กล่าวข้างต้นคือ
1. ตาไม่ได้เห็นสัตว์ถุกฆ่า
2. หูไม่ได้ยินเสียงร้องตอนสัตว์ถูกฆ่า
3. ไม่ใช่ฆ่าเพื่อให้ตนกินโดยเฉพาะ
วิธีปฏิบัติธรรมเพื่อให้บรรลุพ้นจากการเวียนว่ายในหกภูมิมีหลายวิธี ก็มีแต่วิธีสวด “อาหมีถอฝอ” เท่านั้นที่เป็นทางลัดตรง ปฏิบัติได้ง่ายและมั่นใจได้แน่นอนที่สุด โดยการอาศัยพลังแห่งพุทธะ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ตรัสในสูตร “อมิโธเก็ง” ส่วนวิธีอื่นล้วนต้องใช้พลังของตนเอง ซึ่งใช่ว่าคนที่มีรากฐานและปัญญาธรรมดาทั่วไปจะสามารถปฏิบัติจนสำเร็จได้วิธีบางอย่างจะต้องใช้พลังความสามารถและบารมีเก่าเป็นอย่างสูง การปฏิบัติก็ยากและต้องใช้เวลายาวนาน อายุขัยของคนปัจจุบันก็สั้นมาก เกรงว่าปฏิบัติยังไม่ทันสำเร็จจะสิ้นอายุเสียก่อน ก็จะเป็นการเสียเวลาเปล่า สรุปแล้ววิธีสวดนามพุทธนี่แหละที่ง่ายแลชัวร์ที่สุด ซึ่งทุกคนสามารถปฏิบัติได้ทั้งสิ้น