พระโพธิสัตว์กวนอิม
วันก่อนเราได้ผ่านไปที่ตอนใต้ของเกาะแก้ว ได้เห็นพระภูมิและพระอรหันต์ท่านหนึ่งกำลังถกปัญหาธรรมกันอยู่อย่างหาข้อยุติไม่ได้ เพราะต่างก็มีเหตุผลของตน วันนี้เราได้เชิญทั้งพระอรหันต์และพระภูมิมาที่สถานธรรมแห่งนี้ เพื่อให้เขาทั้งสองมาถกปัญหาธรรมกันอีกครั้งหนื่ง เพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้บำเพ็ญธรรม ขอเชิญพระอรหันต์และพระภูมิเข้ามาประทับทรงได้ เราจะถอยไปชั่วคราวก่อน
พระอรหันต์: ท่านพระภูมิ รู้สึกท่านมีความสุขจริงอยู่ทุ่งนาป่าเขาได้สูดอากาศบริสุทธิ์ทุกวันน่าอิจฉาจัง
พระภูมิ: แน่นอน ไม่เช่นนั้นเราจะได้ชื่อว่าเป็นพระภูมิเจ้าที่รึ ก็ย่อมมีวาสนาได้รับอากาศอันบริสุทธิ์ นี่ยังไม่เท่าไหร่ ทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาลวันสารท วันตรุษ ยังได้กินอาหารคาวหวานพร้อมกับเพื่อนเก่าแก่ 2-3 คน ร่วมวงสนทนากันอย่างครื้นเครง เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งนั้นไม่ต้องห่วง และเมื่อถึงวันเกิดเราชาวบ้านก็จะนำหมูเห็ดเป็ดไก่มาเซ่นไหว้ ทั้งยังได้ดูงิ้วหรือหนังกลางแปลง ยุคนี้ทันลมัย เราชอบฟังเพลงยอดนิยม ชาวบ้านก็จัดการให้ทุกปี ทำให้เรามีความสุขสมหวังมาก ถึงว่าเป็นพระภูมินี้ดีนักหนา
พระอรหันต์: ท่านพูดก็มีเหตุผลดีอยู่ แต่ว่าท่านยังไม่หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด แม้ว่าชาติก่อนท่านจะได้สั่งสมบุญกุศลไว้ สวรรค์เบื้องบนจึงได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นพระภูมิเจ้าที่ ถ้าท่านไม่บำเพ็ญธรรมขัดเกลาจิตและโปรดสัตว์อีกเอาแต่หลงใหลอาหารคาวเมืองมนุษย์ เมื่อหมดบุญวาสนาก็ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดอีก ท่านไม่ทราบเรื่องนี้เลยหรือ?
พระภูมิ: เป็นไปได้อย่างไร เราได้เป็นพระภูมิแล้วทำไมยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก!
พระอรหันต์: แม้ท่านจะได้เป็นพระภูมิแล้ว แต่จิตญาณก็ไม่แตกต่างจากปุถุชน ยังหลงใหลในลาภสักการะ ชอบดูงิ้ว ขอบฟังเพลงเพราะ ๆ จิตใจยังมีความโลภในกิเลสตัณหาอายตนะยังไม่สะอาด ยังไม่พ้นจากการเกิดและตาย เหมือนปุถุชนทั่วไปที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ
พระภูมิ: ท่านไม่ต้องมายุ่งกับเรื่องของเราให้มากเลย เมื่อตอนเราเป็นมนุษย์ได้ตั้งความหวังไว้ว่า ชีวิตนี้จะไม่ทะเยอทะยานอะไรอีก ขอเพียงตายแล้วได้เป็นพระแม้เจ้าที่ก็พอ เมื่อสมความปรารถนาแล้วอย่างอื่นไม่คิดหวังอะไรอีก
พระอรหันต์: ท่านยังมีความหลงในอุปาทาน ไม่ยอมเข้าใจว่ากายเนื้อของท่านได้ตายแล้ว ท่านยังคงยึดติดในกายเนื้อ จนถึงวันนี้ยังมีความหลงถึงปานนี้ หมดหนทาโปรดจริง ๆ
พระภูมิ: ท่านกินเจสารอาหารไม่พอหล่อเลี้ยงร่างกาย ดูเราสิหน้าแดงเปล่งปลั่งร่างกายก็แข็งแรง
พระอรหันต์: ตอนมีชีวิตถือศีลกินเจ ก็เพื่อหวังให้จิตสว่าง เกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ดวงจิตผ่องใสว่างเปล่าแม้เรามีร่างกายแต่ไม่ยึดติดในร่างกาย เมื่อยมทูตมาถึงร่างเนื้อก็แปรสภาพ รู้สึกเหมือนว่าเป็นเพียงสิ่งสมมติไม่เที่ยงแท้เมื่อไม่มีร่างกาย แม้แต่การกินเจก็ไม่ต้อง จิตเราปล่อยวาง ไม่ยึดเป็นของเขาของเรา ไฉนท่านยังมีความโลภคิดอยากกินอีก?
พระภูมิ: ท่านพูดลึกซึ้งเกินไป เราฟังไม่รู้เรื่อง ท่านกลับไปแดนสุขาวดีของท่านเถอะ
พระโพธิสัตว์กวนอิม: ท่านพระภูมิจงฟังเราแสดงธรรม พระภูมิคือเทวดาแห่งโชคลาภ โชคลาภย่อมมีวันหมดไม่มีโชคลาภจึงจะเป็นเทวดาที่แท้จริง อย่าโลภในกิเลสตัณหาจนทำให้เกิดฟุ้งซ่าน ภพทั้งสามเป็นภพมายา มีแต่ความว่างอันผ่องใสเท่านั้นจึงจะเป็นความว่างเปล่าอันแท้จริง มีเกิดย่อมมีตาย ไม่ตายจึงไม่เกิด การที่ท่านมีความโลภ คิดหวังลาภสักการะ จะทำให้ท่านต้องปฏิสนธิเป็นมนุษย์ ซึ่งต้องรับทุกข์ในเมืองมนุษย์อีก
พระภูมิ: ท่านพระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาโปรดอย่าให้เราไปเกิดในเมืองมนุษย์อีกเลย เนื่องจากตอนมีชีวิตเราไม่รับฟังพระธรรม ได้ยินแต่ผู้เฒ่าผู้แก่พูดว่า เป็นพระภูมิเจ้าที่นี้ดีนักหนา จึงทำให้มีความคิดเช่นนี้ ท่านพระโพธิสัตว์ขอให้ช่วยโปรดข้าพเจ้าได้กลับไปยังแดนสุขาวดี เพื่อให้พ้นทุกข์ ด้วยเถิด
พระโพธิสัตว์กวนอิม: เจริญพระพุทธะอยู่ที่เขาหลิงซันเขาหลิงซันก็อยู่ที่ใจท่านนั่นเอง เมื่อวางดาบลงจึงเป็นพุทธะเราจะโปรดท่านให้กลับไปยังแดนสุขาวดี ไปฟังพระแสดงธรรมได้ตรวจเแล้ว อดีตชาติท่านก็เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งมาจุติกาลเวลาทำให้ค่อย ๆ ลืมพื้นเพแห่งปัญญา ยังดีที่วันนี้ท่านได้พบกับพระอรหันต์ถกปัญหาธรรม ทำให้สะกิดใจเรา ขอเตือนชาวโลก การบำเพ็ญธรรมจะต้องละทิ้งโลภ โกรธ หลง มิเช่นนั้นยากที่จะบรรลุธรรม
น่าสังเวชใจเหลือเกินที่ชั่วชีวิตของคนเราตั้งแต่เล็กจนโตตั้งแต่โตจนแก่จนกระทั้งแก่ไปถึงตายใ...