ครั้งที่ 5 สัมภาษณ์ลูกทรพีในอเวจี

2024-07-14 03:13:35 - mindcyber

    ประทับทรง วันที่ 4 มีนาคม 2527

เทพดาวหลิว :คืนนี้เป็นวันเกิดของพระกรรมฐานจี้กง สานุศิษย์ต่างมาเซ่นไหว้ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา รังสีธรรมพวยพุ่งดุจสายรุ้ง คาดว่ากิจกรรมธรรมะของสำนักเซิ่งเทียนไม่ช้าคงเจริญรุ่งเรืองไปไกล เช่นนี้จึงไม่เสียแรงที่เหล่าเทพพรหมได้อุตส่าห์ลงมาเมืองมนุษย์ลิขิตหนังสือ ขอให้สานุศิษย์ทั้งหลายจงมานะพยายามต่อไป อย่าย่อท้อ เมื่อใจบุญกุศลเต็มขั้นสมบูรณ์ จักเหลือชื่อไว้ในโลกา เสวยสุขยังแดนสวรรค์

พระจี้กง :         

กตัญญู รู้คุณ ธรรมของคน

กรรมส่งผล ทรพี พ่วงติดกาย

การเลี้ยงบุตร ไม่อบรม ขมที่ใคร

อันวัวหาย ล้อมคอก ออกสายไป

พระจี้กง :มนุษย์เกิดมาในโลก ควรมีความกตัญญูจึงไม่เสียแรงเปล่าที่พ่อแม่ได้ชุบเลี้ยงอุ้มชูมา ผู้ใดเนรคุณพ่อแม่จักมีความผิดข้ออกตัญญู บั้นปลายจักต้องถูกสวรรค์เบื้องบนลงโทษ เมื่อตายแล้วยังต้องเป็นสมาชิกของนรกอเวจี

ชิวเซิง :รุนแรงถึงขั้นนั้นเชียวหรือครับ?

พระจี้กง :แล้วเธอคิดว่าอาจารย์พูดล้อเล่นล่ะซิ

ชิวเซิง :เปล่าครับ... เพียงแต่คิดว่าความผิดของการอกตัญญู คงไม่ถึงขั้นต้องตกนรกอเวจี

พระจี้กง :นั่นต้องแล้วแต่เหตุการณ์ อย่างเช่นบางคนนอกจากไม่เลี้ยงดูพ่อแม่แล้ว ยังด่าทุบตีพ่อแม่อีกพฤติกรรมเช่นนั้นเป็นความผิดขั้นอุกฤษฏ์ ถ้าไม่ส่งไปลงนรกอเวจี จะให้ส่งเขาไปสวยสุขยังสวรรค์งั้นหรือ ?

ชิวเซิง :ความจริงก็ใช่ อาจารย์พูดมีเหตุผลดี

พระจี้กง :เอาละ...เรารีบเดินทางกันเถอะ

ชิวเซิง :ผมนั่งเรียบร้อย ไปได้แล้วครับ

พระจี้กง :ระยะนี้อาจารย์สังเกตการประพฤติปฏิบัติของเธอ รู้สึกก้าวหน้าขึ้นมาก แต่บางครั้งยังแสดงอาการเย่อหยิ่ง ยังต้องปรับปรุงอีก

ชิวเซิง :ได้ฟังอาจารย์พูดเช่นนี้ ศิษย์ละอายใจจังต่อไปผมจะพยามยามฝึกหัดบ่มนิสัยให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ ขอให้อาจารย์หมั่นอบรมชี้แนะด้วย

พระจี้กง :สาธุ.... “รู้ผิดจักแก้ไขเป็นยอดประเสริฐ” อย่างนี้จึงไม่เสียแรงเปล่าในการพร่ำอบรมของอาจารย์ เอาละ...รีบลงจากดอกบัว หัวหน้าแดนและพัศดีตั้งแถวรอคอยอยู่แล้ว

ชิวเซิง :กระผมขอคารวะท่านหัวหน้าและทุกท่าน

หัวหน้า :ชิวเซิง ไม่ต้องมากพิธีหรอก

ชิวเซิง :วันนี้ได้มารบกวนท่านอีกแล้ว

หัวหน้า :เป็นภาระหน้าที่ ว่ารบกวนได้อย่างไร เมื่อหนังสือเรื่องนี้เขียนเสร็จ คงสามารถเหนี่ยวรั้งสัตว์โลกผู้ดื้อรั้นได้ไม่น้อย

พระจี้กง :เอาละ...เราเดินพลางคุยพลางก็แล้วกัน

หัวหน้า :ครับ...เกือบถึงประตูคุกแล้ว  (ขณะนี้ หัวหน้าแดนสั่งให้พัศดีเปิดประตูคุก พระจี้กงเอาแก้ววิเศษออกมาส่อง)

ชิวเซิง :นั่นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังพิงลูกกรงอยู่ สวมเสื้อผ้าขาด ๆ ผมเผ้ายุ่งเหยิง มีเลือดปนหนองไหลเยิ้มเต็มตัวลักษณะน่าสะพรึงกลัว

พระจี้กง :ชิวเซิง...เธอเข้าไปสัมภาษณ์เถิด

ชิวเซิง :ครับ...ผมจะเข้าไปสัมภาษณ์เดี๋ยวนี้ (วิญญาณบาปเห็นชิวเซิงไปใกล้อย่างกระทันหัน มีท่าทางหวาดกลัว)

ชิวเซิง :ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก

วิญญาณบาป :ท่านเป็นมนุษย์ ทำไมจึงเข้ามาในสถานที่ซึ่งมืดมิดไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเช่นนี้

ชิวเซิง :ผมได้รับเทวโองการให้ลิขิตหนังสือ คุณจะกรุณาเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้พวกเราฟังบ้างได้ไหม?

วิญญาณบาป :ไม่มีอะไรน่าเล่าหรอก

ชิวเซิง :คุณอย่าคิดเช่นนี้ เพียงแต่คุณเล่าถึงสิ่งที่ได้กระทำให้พวกเราฟัง เพื่อบันทึกลงในหนังสือธรรมะ อันเป็นการตักเตือน ชี้แนะให้ผู้คนละชั่วทำดี ผมเชื่อว่าหัวหน้าแดนที่นี่คงจะรายงานให้ท่านยมบาล ลดโทษให้แก่คุณได้บ้าง

วิญญาณบาป :จริงหรือ...งั้นผมจะเล่า แต่ว่าตอนนี้ผมหิวจนไม่มีเรี่ยวแรงจะพูดอยู่แล้ว

พระจี้กง :จงรีบกลืนยาเม็ดนี้เข้าไป

วิญญาณบาป :โอ...ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว หวนรำลึกถึงตอนเป็นมนุษย์ ได้อาศัยอยู่ที่ตำบลหนึ่งของภาคใต้ พ่อแม่เป็นคนร่ำรวยของท้องที่นั้น เนื่องจากผมเป็นลูกคนเดียว ดังนั้นพ่อแม่จึงรักและตามใจตั้งแต่เด็ก เพียงแต่เอ่ยปากก็มีเงินใช้ครั้นได้เงินมาก็ไปมั่วสุมกับพวกเพื่อน ๆ เอาแต่กิน ดื่ม เล่นการพนัน หาความสุข โดยเฉพาะไปเช่าบ้านอยู่ร่วมกับเพื่อนหญิง หรือเสพยาเสพติด จากวันเป็นเดือน พิษยาเสพติดส่งผลให้จิตใจเลื่อนลอยท้อแท้ ไม่คิดหาความเจริญก้าวหน้า

     คุณพ่อก็ยุ่งกับธุรกิจการค้า ส่วนคุณแม่ก็นั่งติดกับโต๊ะไพ่ทั้งวัน ซึ่งมักจะ 2-3 วัน กลับบ้านที เนื่องจากยาเสพติดมีโทษต่อร่างกาย จึงทำให้ผมรู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงบ่อย ๆ แต่ยังคงกลับบ้านไปขอเงินเพื่อซื้อยาเสพติดมาเสพอยู่เสมอ โดยคิดแต่เพียงขอให้ได้มีความสุขชั่วครั้งชั่วคราวก็พอสุขภาพร่างกายจะเป็นอย่งไรไม่เคยสนใจ เป็นอยู่เช่นนี้ได้ 3 ปี ต่อมาเนื่องจากคุณพ่อถูกเพื่อนล้มแชร์ จึงพลอยทำให้เป็นภาระ มีหนี้สินท่วมตัว ต่อมาไม่นานบริษัทก็ประสบกับภาวะล้มละลาย โรงงานที่มีอยู่จำต้องหยุดดำเนินกิจการ เหตุนี้จึงทำให้คุณพ่อคิดมากจนล้มป่วยบ่อย ๆ ส่วนคุณแม่ก็กลัดกลุ้มเสียใจ

     วันหนึ่งผมเกิดความกระหายยาเสพติดอย่างรุนแรงแต่ไม่มีเงินซื้อ จึงรีบขึ้นรถกลับบ้าน หวังจะขอเงินคุณแม่ ๆ เห็นลักษณะท่าทางของผมก็รู้ว่าติดยาเสพติด ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ยอมให้เงิน ด้วยเกรงว่าผมจะถลำยิ่งลึก ตอนนั้นเป็นเพราะผมเกิดความอยากยาเสพติดอย่างรุนแรง จึงค้นหาเงินตามตัวคุณแม่ ๆ ด่าไม่ขาดปากว่าผมเป็นลูกเนรคุณเนื่องจากผมเกิดโทสะชั่ววูบขาดสติยั้งคิด ได้ผลักคุณแม่ล้มลง แล้วแย่งเอาเงินไปซื้อยาเสพติด เมื่อผมกลับมาบ้านอีกครั้ง จึงรู้ว่าคุณแม่ได้เสียชีวิตแล้ว คุณพ่อความจริงป่วยอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเหตุการณ์เช่นนั้นก็ด่าว่าใหญ่ไม่หยุดปากปรากฏว่าต่อมาอีกไม่กี่วัน คุณพ่อก็เสียชีวิตตามไปอีกคน

     ต่อมาวันหนึ่ง ขณะที่ผมอยู่ท่ามกลางการต่อสู้วิวาทของเพื่อน ๆ ผมได้ถูกคนตีหัวด้านหลัง โชคร้ายจึงต้องตายแต่ยังวัยรุ่น เมื่อวิญญาณถึงยมโลก ยมบาลไม่พูดพร่ำทำเพลง สั่งให้เจ้าหน้าที่ยมหัวม้าหัววัวลากผมไปโบยเดี๋ยวนั้น 200 ไม้ก่อนแล้วค่อยพิจารณากัน ได้เห็นคุณพ่อคุณแม่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งถูกยมบาลตำหนิว่า “เลี้ยงลูกไม่อบรมสั่งสอน เป็นความผิดของใคร ? พวกเจ้าผู้เป็นพ่อแม่ไม่รู้จักปรับปรุงตนให้ดี ควรถูกลงโทษอันหนักจากนรก” หลังจากนั้นผมก็ถูกนำตัวมาพบยมบาลอีก ยมบาลได้ตวาดด้วยเสียงอันดังว่า เจ้าคนอกตัญญูจะต้องให้เจ้าเจอกับรสชาติโทษทัณ

ฑ์ต่าง ๆ ของนรก เสร็จแล้วจึงจะส่งไปจองจำไว้ที่ขุมอเวจี ไม่ได้ผุดเกิดอีกตลอดกาล

ชิวเซิง :ที่แท้เป็นเช่นนี้ ถึงได้ถูกตัดสินให้มาทนทุกข์ที่นรกอเวจีอยู่ที่นี่ขอให้สามารถสำนึกถึงความผิดในอดีตและควรจะรู้ถึงบุญคุณของบิดามารดาที่ได้ชุบเลี้ยงบุตรธิดาด้วยความยากลำบาก

พระจี้กง :ชิวเซิงไม่ต้องพูดให้มากความ ตอนมีชีวิตไม่เชื่อกฏแห่งกรรม ทำแต่ความชั่วช้า ยังสมควรแก่การเห็นใจอีกหรือ?

ชิวเซิง :อาจารย์ครับ...เขาก็สำนึกผิดแล้ว ทำไมไม่ให้โอกอาสแก่เขาบ้าง

พระจี้กง :ทุกอย่างสายเกินไปแล้ว เอาละ...การทัศนาของคืนวันนี้เอาเท่านี้ก่อน รีบอำลาท่านหัวหน้าแดน

ชิวเซิง :กระผมขอลาท่านหัวหน้าและทุก ๆท่าน

หัวหน้า :ขอส่งท่านจี้กงและชิวเซิง

พระจี้กง :ชิวเซิง...รีบขึ้นดอกบัว

ชิวเซิง :ผมนั่งเรียบร้อย ไปได้แล้วครับ

พระจี้กง :ถึงสำนักเซิ่งเทียนแล้ว ชิวเซิง..ลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าร่าง


More Posts