ครั้งที่ 28 ตอน ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อยครั้งที่ 2
2024-04-08 08:30:32 - mindcyber
ครั้งที่ 28 วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2520
ตอน ท่องแดนผึ้งพิษนรกน้อยครั้งที่ 2
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
อาจารย์เทพ ทรงโปรดเรา พระคุณนำ
คุณธรรมลํ้า เอื้ออาทร มิรู้วาย
ในโลกนี้ นักธรรมชั่ว มีมากมาย
บำเพ็ญกาย ลวงสังคม ต้องรับกรรม
อรหันต์จี้กง :พระพุทธ เทวดา เทพศักดิ์สิทธิ์เสด็จสู่โลกมนุษย์เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ กอบกูช่วยมวลมนุษย์รับสอนศิษย์ประสาทวิชาให้ อบรมสั่งสอนบำเพ็ญธรรม คอยแต่จะสอนให้ชาวโลกกลับคืนสู่ความดั้งเดิมต้นกำเนิด เพื่อบำเพ็ญบรรลุสำเร็จธรรมที่แท้จริง พระคุณสวรรค์ท่านและคุณธรรมของครูบาอาจารย์นั้น หนักหนาใหญ่ยิ่งจนหาที่เปรียบมิได้ ที่เรียกว่า "เป็นครูเพียงวันเดียว ต้องนับถือเป็นบิดาไปตลอดกาล" ตามหลักธรรมแล้วต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอนของครูอาจารย์ เอาแบบอย่างความประพฤติจากท่าน หากแต่ว่ามีพวกศิษย์อุบาทว์ แหกธรรมทำลายศีลอาศัยชื่อจากเทพเจ้ารวบทรัพย์ลวงผู้หญิง ไม่บำเพ็ญเป็นเทพยดา แต่บำเพ็ญเป็นผู้หลอกลวงในคราบของเทพเจ้าไม่ไปสวรรค์ กลับมาโดนคดีในโรงศาล โทษฐานบาปกรรมนั้นไม่เบาเลย ผู้ที่เข้าไปเป็นศิษย์แห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ละเมิดกฎเกณฑ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ ยมกฎนั้นลงโทษหนักมากมวลชนไม่ว่าจะสละตัวเข้าไปบำเพ็ญธรรมอยู่ในศาสนาใดก็ตาม ควรที่จะปฏิบัติตามคำพระวินัย มารยาทอันศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงโทษไม่สามารถให้อภัยได้ เจ้าหยางเซิงเตรียมท่องนรกสำหรับวันนี้ รีบขึ้นบนดอกบัวเร็ว
หยางเซิง :กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว มิทราบว่าจะมุ่งสู่แห่งใดในวันนี้?
อรหันต์จี้กง :ไป "นรกผึ้งพิษ" นั้นอีก ไปดูพวกแหกธรรมเสียศีลจะลงเอยกันอย่างไร ปิดตาทั้งสองข้าง เราจะเริ่มเดินทางแล้ว….ถึงแล้วละ รีบลงจากดอกบัวเร็ว
พัศดี :ขอต้อนรับท่านอาจารย์กับท่านหยางเซิงมาเยือนคุกนี้เป็นคำรบสอง
อรหันต์จี้กง :เพราะเหตุว่าขณะนี้ในโลกมนุษย์มีคนไม่น้อยอาศัยชื่อแห่งเทพเจ้ารวบรวมทรัพย์ ล่อลวงหญิงอย่างอุกอาจกว้างขวาง ทำให้สะทกสะท้านต่อศักดิ์ศรีอันศักดิ์สิทธิ์ของวินัยแห่งศาสนา อันถ่องแท้ชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงต้องกลับมาเสาะหาข้อมูลเตือนใจชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง
พัศดี :ขอรับ พระคุณท่าน ท่านทั้งสองโปรดตามข้าพเจ้าเข้าไปข้างใน ข้าพเจ้าจะปล่อยวิญญาณโทษ 2-3 ตน ให้มันเล่าเรื่องการทำชั่วของตนเองต่อท่านหยางเซิง
หยางเซิง :ขอบคุณท่านพัศดีมาก ผึ้งพิษเหล่านี้บินว่อนทั่วไปหมด พอเห็นวิญญาณโทษก็ต่อยเอาต่อยเอา แต่ละคนโดนต่อยจนช้ำบวมไปตามๆ กัน จนหัวหมุนตาลาย
พัศดี :ไม่เพียงเท่านี้ซิครับ ยังปวดแสบปวดร้อนเป็นไข้ด้วย เพราะว่าผึ้งพิษนี้มีพิษรุนแรงยิ่ง ข้าพเจ้าจะเอานักโทษ 2-3 ตน ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่ตนเคยทำผิด ให้นายทหารรีบคุมตัววิญญาณโทษออกมาโดยเร็ว
นายทหาร :ขอรับคำบัญชา… ได้เอาตัววิญญาณโทษ 3 ตนออกมาแล้ว
พัศดี :วิญญาณโทษฟังคำสั่งให้ดี พระคุณท่านนี้คือ อรหันต์จี้กงอีกท่านหนึ่งคือหยางเซิง แห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งเมืองไถ่ตง สองศิษย์อาจารย์รับโองการแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ให้ทุกตนสารภาพความผิดที่ตนทำไว้ในแดนมนุษย์ เพื่อเป็นการเตือนใจชาวโลก
หยางเซิง :ขอถามบุรุษผู้นี้ ท่านมารับโทษยังที่นี้ด้วยเหตุใด?
วิญญาณโทษ :ผมไม่ควรเลย เป็นความจริง ขณะที่ผมอยู่ในแดนมนุษย์ มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ในตำบลหนึ่ง เนื่องจากในหมู่บ้านจะสร้างศาลเจ้า ผมจึงออกทำการเรี่ยไรเงินแทนชาวบ้าน แต่ไม่เคลียร์เงินทองให้เรียบร้อย โดยเอาเงินที่เรี่ยไรมา อมไว้ส่วนหนึ่งเอากระเป๋าตัวเอง เมื่อตายแล้จึงรู้ว่าการอมเงินของเทพเจ้านั้นมีบาปหนักหนา ดังนั้นจึงถูกตัดสินให้มารับโทษที่คุกนี้ ผึ้งพิษต่อยคนเจ็บปวดมากโดยไม่มีการปราณีทั้งปวดทั้งคันยากที่จะทนทานได้ ท่านก็เห็นตามตัวผมแดงช้ำไปหมด เกี่ยวกับงานการของเทพเจ้า ชาวโลกควรเคลียร์ให้ใสสะอาด เงินทองเทพเจ้าแม้สตางค์แดงเดียวก็อมไม่ได้ การที่ผึ้งพิษต่อยนั้นเป็นการสนองตอบของผม ผมผิดครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้นนอกจากนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดอีกเลย
พัศดี :แกเป็นผู้ใหญ่บ้าน ต้องบริการผู้เป็นลูกบ้านของแก ทำความดีให้แก่บ้านเกิดเมืองนอน หมู่บ้านจะสร้างศาลเจ้าเพื่อเป็นการระลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปางก่อนและให้ความเคารพเลื่อมใส แต่แกกลับฉวยโอกาสลวงทรัพย์ โทษนั้นอภัยให้ไม่ได้ ตนที่ 2 รีบสารภาพผิดระหว่างมีชีวิตอยู่โดยเร็ว
หยางเซิง :ของถามอาจารย์รูปนี้ ท่านออกบวชแล้วไฉนไม่ไปทางทิศตะวันตกแดนผุดผ่องแต่กลับมาอยู่นรกด้วยเล่า?
วิญญาณโทษ :นโมพุทโธ ! ประทานอภัย ๆ ! ฉันเมื่อตอนอายุได้ 15 ปี ออกบวชเป็นชีเป็นศิษย์ของพระพุทธเจ้าท่าน ศึกษาบำเพ็ญในพระธรรม ใจคิดว่าจะบำเพ็ญธรรม จนสำเร็จขั้นอรหันต์แต่จิตใจตนไม่มั่นคงถาวรพอ เงินทองที่ประดาญาติโยมถวายแก่วัดนั้น ฉันก็แอบยักยอกไว้ใช้เองบ้าง เก็บสะสมไว้บ้างมิได้มอบเงินทั้งหมดนั้นไปใช้จ่ายในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด หรือซื้อของที่ทางวัดจำเป็นต้องใช้ หากมีญาติโยมให้ช่วยสวดสะเดาะเคราะห์ก็ทำไปอย่างลวกๆ ขอไปที หากมีคนมานิมนต์ไปสวดศพก็จะทำแบบซื้อขายตีราคาเป็นเงินเป็นทองจะสวดกี่กัณฑ์ก็แล้วแต่เงินมากเงินน้อยที่เรียกว่า "เงินมากของก็มากเงินน้อยของก็น้อย" หมายความว่าสวดตามราคาที่ตกลงไว้ หากมีญาติโยมที่ค่อนข้างยากจนมานิมนต์ ก็จะแสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจด้วย หรืออ้างโน้นอ้างนี่ไม่คิดที่จะไป ถ้าเผื่อเจอผู้ดีคนรวยก็จะทำสุดความสามารถจัดการให้อย่างมโหฬารเพื่อเอาใจเจ้าภาพ เพราะเหตุว่าตอนมีชีวิตอยู่มักมากในทรัพย์ เมื่อตายลงแล้วพระพุทธท่านจึงไม่ต้อนรับ ยังโดนดันลง "นรกผึ้งพิษ" มารับโทษ เจ็บปวด ทุกข์เข็ญอย่างสาหัสสากรรจ์
พัศดี :เธอเป็นพระเป็นชี สละตนออกบวชควรมีพื้นฐานทีสะอาดหมดจด (คือตัดกิเลสออก) ฝึกฝนอบรมบ่มนิสัย แต่สลัดกิเลสออกไม่ได้ นิยมชมชอบเรื่องสุขกายสบายใจ เห็นเงินเป็นพระเจ้าขัดต่อหลักธรรมพระพุทธท่าน จึงตัดสินให้เธอมารับโทษยังที่นี่
อรหันต์จี้กง :เมื่อบวชเป็นพระเป็นชี ก็ต้องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสกุลจากเดิมมาเป็นชื่อทางพระ แต่ละรูปจึงมีช่อว่า พระ ศักดิ์ศรีนั้นหาที่เสมอเหมือนมิได้เลย ก็คือเท่ากับพระพุทธนั้นแหละแต่ทนต่อกิเลสสิ่งยั่วยวนไม่ได้ มิใช่ความเมตตาปราณีช่วยกอบกู้มวลชน ใจคออันสามานย์ธรรมดานี้ ยากที่จะเสมอเหมือนจิตของท่านพระโพธิสัตว์ได้ ทำใจให้ถึง 3 กำหนดได้ 4 จึงสามารถเข้าเฝ้าถึงพระพุทธ พิษ 3 ธาตุไม่ละทิ้ง ก็ต้องเข้าไปใน 6 ช่องทาง เพื่อเวียนว่ายตายเกิดดังเดิม ขอมวลชนในทั่วพื้นพิภพไม่ว่าจะบำเพ็ญในทางเต๋าทางพุทธหากว่าไม่ตัดกิเลสทิ้งเสีย ก็ยากที่จะขึ้นสู่สวรรค์ วันนี้เวลาหมดลงแล้ว วันอื่นค่อยมาเยี่ยมชมใหม่ เจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับสำนัก
หยางเซิง :ขอบคุณมากที่ท่านพัศดีและนายทหารในการรับรองที่อบอุ่นมาก เราจะกลับสำนักกันแล้ว ขอลาท่านก่อนละ
พัศดี :สิ่งใดที่ขาดตกบกพร่อง ขอท่านทั้งสองโปรดให้อภัยด้วยหวังว่าท่านจะมาให้การสั่งสอนอีกครั้ง
อรหันต์จี้กง :รีบขึ้นดอกบัวเร็ว
หยางเซิง :กระผมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์กลับเถิด….
อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม