8.พระอาจารย์พาผู้น้อยเดินออกไปข้างนอก

2024-10-13 07:42:42 - mindcyber

    พระอาจารย์พาผู้น้อยเดินออกไปข้างนอก พระอาจารย์ถามว่า ศิษย์เห็นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาให้ถาม ถูกผิดไม่เป็นไร

      หลินถันจู่:  ผู้น้อยคิดจะถามพระอาจารย์ว่าพุทธาลัยหลังตั้งใหญ่ทำไมไม่มีห้องน้ำ

      พระอาจารย์:  เบื้องบนไม่มีเรื่องอย่างนี้" 

      หลินถันจู่ :   ผู้น้อยคิด ในเมื่อเบื้องบนไม่มีเรื่องอย่างนี้ ต่อไปขึ้นเบื้องบนแล้ว ก็ไม่ต้องเข้าห้องน้ำสิ

      กำลังเดินไป พระอาจารย์ถามศิษย์ว่าเมื่อสักครู่อยู่ ที่พุทธาลัย ได้เห็นสภาพการณ์แล้ว รู้สึกอย่างไร มีความดีใจไหมเจ้าอยู่ในอันดับที่ 3 นะ

      หลินถันจู่:  ศิษย์เข้าใจว่าพระอาจารย์ให้กำลังใจศิษย์ให้ศิษย์ได้ดีใจ ศิษย์ไม่มีบุญกุศลถึงขนาดนั้นหรอก

      พระอาจารย์: ไม่ใช่หรอก เจ้าได้จริงๆแล้วดีใจไหมล่ะ 

      หลินถันจู่:  ดีใจนะดีใจ แต่ว่ารางวัลไม่ยุติธรรม

      พระอาจารย์:  (ตกใจถามว่า) ทำไมไม่ยุติธรรม เบื้องบน

มีความยุติธรรมที่สุด ทำไมไม่ยุติธรรม

      หลินถันจู่: พระอาจารย์ไม่รู้ ผู้น้อยอยู่เทียนเต้าถันใกล้ 3 ปีแล้ว มีผู้หญิง คนหนึ่งไปสถานธรรมบ่อยๆ ไปทำกับข้าวให้ผู้น้อย ไปช่วยเหลือทำความสะอาดสถานธรรมและ ห้องครัว และห้อง ครัว

     ผู้น้อยคิดว่าผู้หญิงคนนี้บำเพ็ญได้ดีกว่าผู้น้อยอีกแต่รู้สึกว่าคนๆ นี้ไม่มีชื่อ แต่อีกคนหนึ่งมาสถานธรรม ใช้แต่ปากสั่งให้คนอื่นทำ ขี้เกียจมาก คนนี้กลับมีชื่อ ผู้น้อยคิดว่าไม่ยุติธรรมคนที่ขยันไม่มีรายชื่อ แต่คนที่ขี้เกียจมีรายชื่อ

 

      พระอาจารย์:  "ถามได้ดี ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ตั้งปณิธานทานเจ คนที่ตั้งปณิธานทานเจก็จะมีชื่ออีกคนหนึ่งขี้เกียจแต่เขาได้ตั้งปณิธานทานเจเจ้าจึงมีชื่อ" 

      หลินถันจู่:  พระอาจารย์ ผู้น้อยเคยถามเขาเวลาที่เขาไปเทียนเต้าถันว่าทานเจไหม?เขาบอกว่า  "ทานเจ" แต่ผู้น้อยลืมถามว่าตั้งปณิธานแล้วหรือยัง แต่เขาได้ทานเจจริงๆ

      พระอาจารย์:  เขาทานเจแต่เบื้องบนไม่ได้รับใบฎีกา

      หลินถันจู่: "กลับไปแล้วจะถามเขาดู" ตั้งปณิธานกับไม่ตั้งปณิธานมีข้อแตกต่าง ห่างไกลกันมากอย่างนี้เชียวหรือ

      พระอาจารย์:  คนที่ตั้งปณิธานทานเจ ก็จะมีตำแหน่งรอการคัดเลือกใน

3600 อริยะ 48000ปราชญ์เมธี ถ้าหากไม่ตั้งปณิธานก็ไม่มีส่วนร่วม เมื่อกลับไปแล้ว

ก็จะต้องไปหอบำเพ็ญ เพื่อบำเพ็ญอีกระยะเวลาหนึ่งหากบำเพ็ญดีก็สามารถกลับไปได้

 

 

      หลินถันจู่กลับมาแล้ว ก็กลัวลืม ตอนเช้ารีบไปที่บ้าน

ของผู้หญิงคนนั้น เขากำลังทำกับข้าว พูดว่า

      "ทำไมหลินถันจู่มาแต่เช้า " 

     ผู้น้อยพูดว่า "เพราะว่าเป็นเรื่องของเธอ ผู้น้อยจึงมา" 

     ดิฉันทำอะไรผิดไปเหรอ" 

      " ไม่ ใช่ " 

      "เธอตั้งปณิธานทานเจแล้ว หรือยัง" 

      "ฉันกินเจเท่านั้น ยังไม่ได้ตั้งปณิธาน" 

      อะไรนะ ยังไม่ได้ตั้งปณิธาน ทำให้ผู้น้อยแย้งกับพระอาจารย์อยู่ตั้งนาน น่าเสียดายที่พุทธาลัย ไม่มีชื่อของเธอ ผู้น้อยไปสวรรค์มา " 

      "เธอทำไมได้ไปสวรรค์" 

      ไม่ต้องถามมากมาย เธอจะต้องตั้งปณิธานทานเจ" ปณิธานทานเจ เป็นปณิธานใหญ่ 

      "คนที่บ้านไม่ได้ทานเจ ไปซื้อปลามา ฉันต้องเป็นผู้ทำต้องหั่น และต้องชิม เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่กล้าตั้งปณิธาน" 

      "น่าเสียดายนะ ต่อไปเวลาทำกับข้าว ก็เรียกให้สามีเธอมาชิม อย่างนี้ก็ตั้งปณิธานทานเจได้เลย ด่านนี้สำคัญมาก จะบำเพ็ญต้องฝ่าด่านนี้ให้ได้" 

     ผู้น้อยเดินกับพระอาจารย์มาเรื่อยๆ เดินไป เดินไป เที่ยวชมทิวทัศน์บนสวรรค์ น่าชื่นชมจริงๆถนนเป็นสีทองไปหมดริมถนนก็กว้าง มีต้นหญ้าด้วย เหมือนต้นหญ้าประเทศเกาหลียาวประมาณหนึ่งนิ้วกว่าๆ ขึ้นเป็นระเบียบเรียบร้อย ดอกไม้ก็สวยงาม ต้นไม้ก็สูงใหญ่ กิ่งไม้เหมือนมีการแกะสลักดูสวยงามจริงๆ ผู้น้อยคิดว่า ต้นหญ้าเหล่านี้อาจจะ เป็นของปลอมมีแต่ต้นหญ้าที่เป็นพลาสติกเท่านั้น ที่จะขึ้นงามเท่าๆกันเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างนี้ ผู้น้อยจึงเด็ดใบหนึ่งมาดู

      พระอาจารย์: ลูกศิษย์ ทำอะไร? 

      หลินถันจู่: ไม่มีอะไร ผู้น้อยอยากจะทราบว่าต้นหญ้านี้จริง หรือปลอมเท่านั้น

      พระอาจารย์: ของจริงสิ มีของปลอมที่ไหน

      หลินถันจู่: มองอย่างละเอียดแล้ว เป็นของจริง จึงถามพระอาจารย์ว่าทีนี่ มีเครื่องตัดหญ้า หรือมิฉะนั้นทำไมต้นหญ้าจึงขึ้นเรียบร้อยอย่างนี้

      พระอาจารย์: อากาศของเบื้องบน เหมือนฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปี ต้นหญ้าไม่งอกสูงขึ้นไม่เหี่ยวเฉา ไม่ร่วงโรย ไม่เป็นสีเหลืองใบไม้ก็ไม่หล่น เขียวชะอุ่มตลอดเวลา 

More Posts