ครั้งที่ 10 สนทนากับเจ้ายมบาล ขุมที่ 2 "ฉอกังอ๊วง"
และเยี่ยมชมโรงแสดงธรรม
2024-04-08 08:12:28 - mindcyber
ครั้งที่ 10 วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2519
ขุมที่ 2
ตอน สนทนากับเจ้ายมบาล ขุมที่ 2 "ฉอกังอ๊วง"
และเยี่ยมชมโรงแสดงธรรม
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จและตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
ทั้งสามโลก ช่วยกอบกู้ เทพผีคน
เครื่องกล ในนรก ทันสมัย
แม้มนุษย์ คิดสร้างสม ห้องลับใน
หาพ้นไม ทิพยเนตร ราตรีกาล
อรหันต์จี้กง :ท่องนรกแต่งหนังสือ สูญสิ้นพลังใจทั้งเทพเจ้าและมนุษย์อย่างมากมาย เพื่อที่จะชักจูงกอบกู้ชาวโลกผู้หลงใหลไม่คำนึงถึงราคาค่างวดที่เรียกว่า "สร้างบุญสุดปลื้มจิต" ศิษย์ทั้งหลายช่วยงานจนดึกดื่นเที่ยงคืน ข้าฯมีความประทับใจเป็นที่ยิ่ง การกอบกู้ชักจูงทั่วทั้ง 3 แดน เบื้องบนกอบกู้ดวงวิญญาณเทพ เบื้องกลางชักนำช่วยเหลือมวลมนุษย์ (โปรดสัตว์) เบื้องล่างนำส่งวิญญาณผีในแดนนรก สวรรค์และมนุษย์ต่างก็วุ่นวายในกาลนี้พร้อมกัน ประตูศักดิ์สิทธิ์เปิดกว้างขยายออกธรรมะที่เที่ยงแท้จุติลงทุกแห่งหน ผู้มีบุญได้พบธรรมะและบำเพ็ญธรรม ผู้ไม่มีบุญแม้พบพระพุทธยังหลีกเลี่ยงหลบตนทำให้ตนเองถอยห่างจากทางสวรรค์ พิจารณาดูรอบแดนมนุษย์สำนักธรรมตั้งสอนอยู่ทั่วไป กลิ่นไอแห่งธรรมฟุ้งเต็มทุกๆ บ้านในขณะที่วัฒนธรรมเฟื่องฟู ธรรมะโบราณปรากฏอีกครั้งนึ่งทัศนียภาพเต็มไปด้วยสิริมงคลยิ่ง วิญญาณผีในแดนนรกกำลังรอคอยความช่วยเหลืออยู่ในเวลานี้ วันนี้จะพาหยางเซิงท่องนรกเยี่ยมชมอีกรอบ เอารายละเอียดมาเปิดเผยในแดนมนุษย์ เจ้า หยางเซิงเตรียมตัวท่องนรกได้แล้ว
หยางเซิง :กระผมเตรียมเสร็จแล้วครับ
อรหันต์จี้กง :วันนี้เป็นการท่องเที่ยวระยะที่ 2 ต้องตั้งใจให้ดีนะ
หยางเซิง :ขอรับคำบัญชา หากมีมารยาทไม่ดีหรือบกพร่องประการใด เชิญท่านอาจารย์ติเตียนว่ากล่าวเถิด
อรหันต์จี้กง :ไม่มีอะไรน่ะ รีบขึ้นนั่งบนดอกบัวเร็ว จะได้เริ่มเดินทางไปแดนนรกแล้ว….. เอ้า ถึงแล้วละ ลงจากดอกบัวเร็ว
หยางเซิง :ข้างหน้านั้นเป็นสถานที่ใด ? เห็นแต่ฝูงชนแออัดชุลมุน หัวควายหน้าม้า (เป็นทูตผีทั้ง 2 ตน) ต่างทำการควบคุมวิญญาณผีมุ่งไปข้างหน้า
อรหันต์จี้กง :นี่แหละคือนรกขุมที่ 2 เรารีบเดินกันเถิดเข้าไปคำนับเยี่ยม "ฉอกังอ๊วง" (เจ้ายมบาลขุมที่ 2)
หยางเซิง :ข้างหน้ามีคนหมู่หนึ่งเดินมา ตรงกลางฝูงนั้นมีบุรุษร่างกายล่ำสันใหญ่แข็งแรง นุ่งห่มเสื้อคลุมแบบโบราณ เหมือนดังเสื้อคลุมในศาลเจ้าของเมืองมนุษย์ และยังส่องแสงแวววาวท่าทีสง่างามน่าเกรงขาม ข้างๆ ล้วนเป็นนายทหารคล้ายให้การอารักขา
อรหันต์จี้กง :ท่านนี้แหละคือ "ฉอกังอ๊วง" เจ้ายมบาลขุมที่ 2 รีบเข้าไปแสดงคารวะเร็ว
หยางเซิง :ขอแสดงความคารวะท่านฉอกังอ๊วงและยมทูตทุกท่าน
ฉอกังอ๊วง :อย่าต้องมีพิธีรีตองเลย ลุกขึ้นมาเร็ว ขอต้อนรับท่านอาจารย์ และหยางเซิงแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง ที่ได้มายังสถานที่นี้ ข้าพเจ้าได้รับพระบรมราชโองการ ทราบว่าสำนักของท่านจะแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" จะมาเยี่ยมชมนรก 10 ขุม เมื่อครู่นี้ก็ได้รับหนังสือของท่านอาจารย์อีก ทราบว่าจะมาเยี่ยมชมขุมนี้ในราตรีนี้ ฉะนั้นจึงได้มาทำการต้อนรับเชิญท่านทั้งสองตามข้าพเจ้าไปในปราสาท เพื่อสังสรรค์กันกันเถิด
อรหันต์จี้กง :ขอขอบคุณท่านยมบาลที่ให้เกียรติมาก หยางเซิงเราตามท่านยมบาลเข้าไปในปราสาทเถิด
ฉอกังอ๊วง :ท่านทั้งสองเชิญท่านพักที่ห้องรับแขกสักครู่ นายพลยกน้ำชามาถวายท่านเร็ว
หยางเซิง :ขอบคุณมาก เราศิษย์ - อาจารย์มารบกวนท่านในคืนนี้ โปรดอภัยให้ด้วย ขอท่านยมบาลโปรดให้การชี้แจงและอธิบายเหตุการณ์ของขุมที่ 2 ให้ฟังโดยละเอียดด้วย
ฉอกังอ๊วง :ท่านเกรงใจเสียแล้วล่ะ ขุมของข้าพเจ้านี้นับได้ว่าเป็นสถานที่ลงทัณฑ์โดยทางการแห่งนรกสิบขุม บรรดาวิญญาณผีที่ถูกส่งมาจากขุมที่ 1 ความชอบดีเหล่านั้นทราบดีแล้วโดยละเอียด แต่ยังมีวิญญาณผีบางส่วนที่มีนิสัยดื้อด้าน เพราะเป็นนิสัยเดิมมาจากแดนมนุษย์แม้จะเห็นว่า ที่ยมโลกได้เปิดแผลของมันแล้ว แต่ยังไม่สำนึกตัว ดังนั้นเมื่อวิญญาณตกมาถึงขุมนี้ก็จะเปิด "สมุดตรวจแห่งยมโลก" หากหลักฐานความชั่วร้ายที่ตนทำไว้ ประกาศให้รู้ทุกๆ ข้อ ถ้าอยู่ในอำนาจของขุมนี้ก็จะตัดสินให้เข้าไปยัง 16 นรกน้อยหรือนรกย่อยที่สร้างขึ้นใหม่แห่งอื่นๆ เพื่อรับการลงโทษ เพราะเหตุว่าในแดนมนุษย์เกิดมีการวิวัฒนาการใหม่ ในยมโลกก็เพิ่มคุกตารางใหม่หลายแห่งขึ้นมาบ้าง ที่เรียกว่า "กาลเวลาแปรเปลี่ยน กฎเกณฑ์ก็เปลี่ยนด้วย" กฎแห่งยมโลกก็แก้ไขเพิ่มเติมตามกาลเวลา เพื่อที่จะลงโทษพวกมิจฉาชีพทั้งหลาย
อรหันต์จี้กง :การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์บนโลก ก็ก่อเป็นรูปบนฟ้าจะกลายเป็นภาพ เมื่อสรรพสิ่งในโลกมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลง สวรรค์และนรกจะฉายเงาปรากฏรูปนั้นออกมาทันที ฉะนั้นแล้วทุกอิริยาบทของชาวโลก ต้นหญ้าต้นไม้ของแดนมนุษย์ทุกต้น ฟ้าเหมือนกระจกแผ่นใหญ่ ฉายออกมาทันทียมโลกได้รับการฉายสะท้อนจากแผ่นฟ้าอีกชั้นหนึ่ง ก็กระจ่างชัดแจ้งเช่นเดียวกัน อย่าถือว่าวิทยาศาสตร์เจริญแล้วจะสามารถทำลายลบล้างผีสางเทวดา ชาวโลกจะใช้สิ่งที่มีรูปร่างเอาชนะอรูป หารู้ไม่ว่าอรูป (ไม่มีรูปร่าง) บัญชาครอบคลุมสิ่งที่มีรูปร่างพระพุทธเทวดาภูตผีเทพเจ้าท่านทรงพลังอันสำคัญอยู่ในทางลับมนุษย์นั้นแหละเป็นผู้ที่ถูกกระทำ
หยางเซิง :ความจริงเป็นเช่นนี้เอง ชาวโลกล้วนพูดว่าไม่มีใครเห็นนรก หารู้ไม่ว่าฉายเป็นภาพอย่างชัดแจ้งต่อหน้ากระผมน่ามหัศจรรย์มาก และก็น่าเกรงขามมาก คล้ายกับว่าตัวเรานี้ได้มาอยู่โลกอีกโลกหนึ่ง
ฉอกังอ๊วง :ข้าพเจ้ามีงานราชการอยู่รอบกาย ไม่สามารถรับรองพูดคุยกับท่านนานนัก จะสั่งให้นายพลพาท่านหยางเซิงตรวจเยี่ยมแต่ละขุมก็แล้วกัน
นายพล :ขอรับคำบัญชา
หยางเซิง :วิญญาณผีที่อยู่หน้าปราสาทพวกนั้น บ้างก็มีขื่อคาติดอยู่บนบ่า บนมือรอยด้วยโซ่ตรวน เปรียบเทียบแล้วยังน่าทุเรศกว่านักโทษในแดนมนุษย์ ยมบาลท่านกำลังขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี ทุบโต๊ะตวาดเหมือนดังชาวนาตวาดวัวควายฉันนั้น
นายทหาร :เวลาจำกัดเชิญท่านหยางเซิงอย่าได้อยู่นานนักเลยรีบตามข้าพเจ้าออกไปจากปราสาทเถิด
อรหันต์จี้กง :ไปเถิดอย่าได้ดูอีกเลย
หยางเซิง :ที่นี่ฝูงชนชุมนุมแต่ก็เงียบเชียบปราศจากสุ้มเสียงมันทำอะไรกันนะ ?
นายทหาร :ขณะนี้เป็นเวลาเทศกาลช่วยวิญญาณต่างๆ (กอบกู้ชักจูงวิญญาณสามแดน) พระกษิติครรภโพธิสัตว์ ท่านจัดตั้งโรงบรรยายธรรมตามแต่ละปราสาท บรรดาวิญญาณโทษนั้นหากยังมีพื้นฐานแห่งความดีอยู่บ้าง และเมื่อระหว่างรับการลงโทษได้แสดงความประพฤติดี ล้วนสามารถหมุนเวียนมาโรงบรรยายธรรมรับฟังพระพุทธเทวดาแสดงพระธรรม ดังนั้นจึงย่องเดินเบาๆ อย่างระมัดระวัง ไม่กล้าส่งเสียง ท่านดูซิพวกเขากำลังเดินเข้าไปอย่างปะติดปะต่อ
หยางเซิง :ที่จริงเมืองนรกก็มีการช่วยวิญญาณผี โดยการจัดให้มีการแสดงธรรมบรรยายศีล ประหนึ่งว่ามีการตั้งสำนักก็มีจำนวนมาก ท่านพุทธเทวดาเมตตากรุณาเป็นที่ยิ่ง ไม่คำนึงถึงความยากลำบาก เสด็จลงสู่แดนมนุษย์ แดนนรก ช่วยเหลือกอบกู้มวลชนและวิญญาณผี
อรหันต์จี้กง :เราตามพวกวิญญาณผีเหล่านี้เข้าไปเถิด
หยางเซิง :ขอรับ กระผม บนประตูใหญ่มีป้ายๆ หนึ่งเขียนว่า "โรงบรรยายธรรมขุมที่หนึ่ง" แต่ละวิญญาณผีเมื่อเข้าไปแล้วต้องไปยังห้องเล็กห้องหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ นั้น เหมือนดังห้องรักษาการณ์ของโรงงานอย่างนั้น เพื่อรายงานตัวก่อนแล้วจึงเข้าไปข้างใน
นายพล :นั่นเป็นที่อยู่ของนายทหารผู้คุมประตูผี มีหน้าที่ควบคุมวิญญาณผีที่เข้าๆ ออกๆ หากไม่ถือป้ายอนุญาตของนรกย่อยต่างๆ ให้มาร่วมประชุมล้วนห้ามเข้าทั้งนั้น ข้าพเจ้าจะเข้าไปแจ้งให้ทราบว่าท่านมาท่องเที่ยวเพื่อแต่งหนังสือท่านทั้งสองขอให้รอคอยสักครู่….ข้าพเจ้าแจ้งและลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เชิญตามข้าพเจ้าเข้าไปในห้องเรียน นั่งลงที่โต๊ะหน้า รอคอยท่านเทวดาเสด็จ
อรหันต์จี้กง :ขณะนี้พระมหาโพธิสัตว์แห่งทะเลใต้ (เจ้าแม่กวนอิมหรือพระอวโลกิเตศวร) ได้เสด็จมาถึงแล้ว เจ้าหยางเซิงลงกราบรับเสด็จ
หยางเซิง :ขอรับกระผม… ท่านพระมหาโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมได้เสด็จบนแท่นเตรียมบรรยายธรรมแล้ว ม้านั่งในห้องก็เหมือนดั่งม้านั่งของนักเรียนในโรงเรียนเมืองมนุษย์ มีคนประมาณสองพันคน ทุกคนล้วนมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า ท่านพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมทรงกายบนดอกบัวซึ่งลอยเด่นอยู่ขาวผ่องทั่วทั้งกาย พรมน้ำมันจากกิ่งหลิวในแจกันใสสะอาดขอเรียนถามท่านอาจารย์ การนี้มีความหมายประการใด ?
อรหันต์จี้กง :ฝนธรรมกระจายน้ำทิพย์โปรยทั่ว ผู้มีบุญก็จะสามารถได้รับการกอบกู้ตลอดรอดฝั่ง แสดงว่าสวรรค์ท่านมีใจเมตตากรุณา ไม่แบ่งแยกเป็นสัตว์หรือมนุษย์ ผู้ที่ยอมหันหลังกลับ ย่อมละบาปกลับตัวใหม่ ล้วนได้รับความเมตตาพาส่งสู่ที่ชอบทั้งนั้น นั่นคือเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ของท่านพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม อย่าได้ถามนักเลย ฟังท่านพระโพธิสัตว์ผู้ช่วยปลดความทุกข์ยาก แสดงธรรมเถิด
พระโพธิสัตว์ :หยางเซิงแห่งสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง เมือไถ่ตง กับท่านอาจารย์มาร่วมการสังสรรค์ในการประชุมครั้งนี้ ฉันเบิกบานใจมาก ขอให้หยางเซิงรับฟังธรรมจากฉันแล้วนำกลับในแดนมนุษย์ กล่อมชักจูงผู้คนเท่าที่กำลังความสามารถจะกระทำได้สำนักของท่านเพื่อที่จะกล่อมเกลาชักนำผู้คน ศิษย์ทั้งหลายทุ่มเทด้วยพลังใจและพลังกายพลีทุกสิ่งทุกอย่างเป็นนาวาธรรมเมตตารับผู้โดยสารสัตวโลกทุกชนิดอย่างกว้างขวางทั่วพิภพน้ำใจนั้นน่าสรรเสริญ ต่อไปจะต้องเข้าอยู่ในตำแหน่ง "ปราชญ์เมธี" ขอให้ดำเนินไปจนสุดความสามารถ
อรหันต์จี้กง :หยางเซิงรีบกราบขอบพระคุณท่านพระโพธิสัตว์ที่ได้กรุณาตรัสสั่งสอน
หยางเซิง :กระผมขอกราบขอบพระคุณท่านพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ให้คำสั่งสอนเตือน กระผมจะกลับไปบอกเล่าต่อให้ศิษย์ทั้งหลายที่ร่วมสำนักทราบ จงอย่าได้ทำให้ท่านผิดหวัง
พระโพธิสัตว์ :วันนี้จะเริ่มบรรยายธรรม มนุษย์จากบุพกาลมาจนถึงทุกวันนี้ ตายๆ เกิดๆ แม้ว่ารูปร่างตายไปแต่ดวงวิญญาณนั้นไม่ดับสูญ วิญญาณของพวกเธอทั้งหลายที่ได้มาที่นี้ ในวันนี้ยังไม่ปลง ภาพหลอกของตัวตนซึ่งเป็นของปลอม จิตใจที่ปราดเปรื่องนั้นจึงเป็นของจริง ทุกรูปนามยากที่จะสลัดความรักความใคร่ ไม่ดับกิเลสโกรธหลง ควรตระหนักภาพในโลกมนุษย์คือความฝัน เหตุผลก่อให้เกิดเป็นญาติโยมหมุนเวียนตอบสนองกันหักลบกันไป ไม่ควรลุ่มหลงงมงายไม่คิดปลง หากว่ายังไม่เลิกความนึกคิดนั้น จิตใจแห่งปุถุชนก็ไม่ดับสูญ เวียนว่ายตายเกิดไม่มีที่สิ้นสุด ปัจจุบันนี้โลกเจริญขึ้นแต่ในมนุษย์ไม่เจริญเหมือนคนโบราณ ฐานปัญญาแห่งดวงวิญญาณอ่อนตื้น ทารกเกิดมาเฉลียวฉลาด แม้ว่าพรสวรรค์จะประทานให้ตั้งแต่แรกเริ่มแต่เมื่อเทียนไขต้องลมอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นวิญญาณที่เจนจัดมาเกิด วิญญาณเดิมที่ดีนั้นสูญหายไป จึงใช้ความชาญฉลาดของตนทำการตัดสิน ไม่เจริญรอยตามรัศมีธรรม ก่อกรรมทำเข็ญ การกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมปรากฏอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเลยทำให้โลกมนุษย์ยุ่งเหยิง ศักดิ์ศรีแห่งคนก็ทลายลง พวกเธอก็จะตกลงในเหวลึก แม้เนื้อหนังมังสาจะสูญสิ้น กรรมเวรนั้นติดกาย ควรสังวรเงาตามตัวคน จงอย่าคิดว่าเมื่อไม่มีแสงเงาก็ไม่ปรากฏ ความนึกคิดแต่ละครั้งกลไกแห่งจิตใจก็จะเกิดการปฏิบัติก่อเวรกรรมๆ ติดกายทันที ขณะที่ตกลงในนรกยังมีความนึกคิดในเรื่องผิดชอบหลงเหลืออยู่ รู้ตัวว่าผิดแล้วควรชำระสะสางบาป บัดนี้ฉันขอให้พวกเธอสำนึกตัวรับการลงโทษให้มากๆ หน่อย จะได้หมดเวรหมดกรรม อดทนต่อความทรมานอดกลั้นใจที่โกรธแค้น แล้วฉันจะมาช่วยเหลือกอบกู้ให้ตลอดรอดฝั่งเอง" การบรรยายจบลง
อรหันต์จี้กง :รีบกราบส่งเสด็จเร็ว
หยางเซิง : ขอรับกระผม ขอบพระคุณท่านพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมที่ได้ตรัสวาจาสั่งสอน…วิญญาณผีทั้งหลายล้วนก้มลงกราบส่งเสด็จ มีจำนวนมากที่ร่ำไห้ด้วยความสะเทือนใจ หลังได้รับคำสั่งสอนแล้ว
อรหันต์จี้กง :ท่านพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมอาวรณ์พวกวิญญาณผี ตรัสวาจาสั่งสอนปลอบเตือน เป็นการแผ่กุศลธรรมที่เที่ยงแท้ใหญ่หลวง หวังสัตวโลกทั้งพิภพจะรู้สำนึก ถ้าผู้ที่ยังอยู่ในร่างมนุษย์ไม่รีบบำเพ็ญธรรม ตายแล้วจะตกนรกรับการทรมานแล้วถึงจะฝึกฝนอบรมใหม่ก็ค่อนข้างจะยากลำบากกว่ากัน เวลาจำกัดเจ้าหยางเซิงเตรียมตัวกลับ
นายพล :มีสิ่งใดบกพร่อง ขอท่านอาจารย์กับท่านหยางเซิงโปรดให้อภัยด้วย
หยางเซิง :ที่ไหนได้ ข้าพเจ้าเป็นชาวปุถุชนไม่กล้าใช้คำให้อภัยนั่นเป็นการลำเลิกมากไปแล้วละ ขอเรียนถามท่านอาจารย์อีกสักนิดหนึ่ง ว่านรกแต่ละขุมล้วนมีโรงแสดงธรรมประกอบอยู่ด้วย ในที่สุดวิญญาณจะหมดโทษและสำเร็จธรรม
อรหันต์จี้กง :โรงแสดงธรรมของทุกขุมล้วนเป็นชั้นประถมทั้งนั้นเมื่อผ่านการทดสอบวิญญาณโทษที่มีความเข้าใจ สำนึกตัวตื้นลึกหนาบางขั้นไหนแล้ว จะมีสำนักบำเพ็ญธรรมชั้นสูงอีกต่อหนึ่ง ให้พวกเขาฝึกฝนบำเพ็ญต่อไป ขณะนี้อย่าได้ถามเรื่องเหล่านี้อีกเลย เวลาดึกมากแล้วรีบขึ้นดอกบัวเร็ว เตรียมกลับสำนัก ขอขอบคุณท่านนายพลที่ให้การต้อนรับสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง ถึงแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่ร่างดังเดิม