พิการเพราะทำลายพระพุทธูรป
วิญญาณคนดี
2024-03-09 06:23:29 - mindcyber
ผมชื่อยุ่ยฟง แซ่เฉิน อายุ 19 ปี เป็นคนฮกเกี้ยน เกิดในสมัยปลายราชวงศ์ซิง ทุกอย่างเป็นเรื่องคาดคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าวันนี้ผมจะได้มาที่นี่พูดคุยกับสาธุชนทุกท่าน ยิ่งคิดไม่ถึงว่าลักษณะอย่างผมนี่ก็สามารถเข้าทรงได้ ผมเป็นคนรูปร่างอัปลักษณ์ นิ้วมือนิ้วเท้างอหงิก ปากเบี้ยว ตอนเด็กเป็นคนเลี้ยงยากสามวันดีสี่วันไข้พ่อแม่มักจะทะเลาะกันเพราะผม หลังจากน้องชายผมเกิดไม่นานแม่ผมก็ ออกจากบ้าน ไม่มีใครดูแลผม ไม่มีใครสนใจผม เมื่อผมจำความได้ผมถึงรู้ว่าผมเกิดมาไม่เหมือนคนอื่น ที่มุมปากมีน้ำลายไหลย้อยตลอดเวลา มือก็สั่นเทา ขาก็ยืนไม่นิ่ง พวกเด็กๆชอบหัวเราะเยาะผมว่าเวลาเดินเหมือนคนเข้าทรง เวลาพูดเหมือนกับร้องไห้ ทุกคนเรียกผมว่า “เจ้าเบี้ยว” แม้ผมจะรู้สึกอับอาย แต่ก็ไม่เคยนึกน้อยใจ โดยเฉพาะการทำเป็นบ๊องเช่อช่าเพื่อให้คนขำขันมีความสุข ผมคิดว่าสวรรค์เบื้องบนให้ผมมีชีวิตอยู่บนโลกนี้คงมีเหตุผลของท่าน ดังนั้นผมจะต้องยิ่งพยายามกล้าหาญที่จะสู้ชวิตต่อไป
ตอนผมอายุ : ขวบ บิดาได้แต่งงานใหม่ แม่เลี้ยงใจร้ายกับพวกเรามาก โดยเฉพาะกับผมเวลากินข้าว ถ้าผมทำชามข้าวตกมื้อนั้นผมเป็นต้องอดกิน ครั้งมีชีวิตผมช่วยบิดาเลี้ยงควาย เนื่องจากร่างกายผมไม่สมประกอบทำงานเชื่องช้า จึงมักจะถูกบิดาเฆี่ยนตีบ่อย พ่อผมตีผมยังกับตีวัวตีควาย และถ่มน้ำลายใส่ผม แต่ผมไม่ถือโทษโกรธท่าน ยังคงเคารพท่านเสมอ ชาตินี้ผมเกิดมาลำบากยากเข็ญมาก ซึ่งก็สมควรที่ผมจะต้องได้รับ ผมคิดเสมอว่า ในโลกนี้ยังมีคนที่ลำบากน่าสงสารยิ่งกว่าผมอีกมาก ผมลำบากแค่นี้จะเป็นไรผมเคยได้ฟังคนเขาพูดว่า ทุกคนเกิดมาล้วนแต่มีกรรมจากชาติปางก่อนติดมา ถ้าไม่ใช่มาทวงหนี้ก็มาใช้หนี้ ซึ่งไม่ผิดเลย ผมเกิดมาก็คือมาใช้หนี้ ดังนั้นผมจึงไม่เคยปริปากบ่นน้อยใจเลย น้องชายผมแม้ร่างกายจะครบถ้วน แต่เขาชอบไปมั่วสุมกับพวกเด็กเกเรเขาเป็นคนรักหน้ามาก เขาไม่ยอมรับว่าผมเป็นพี่ชาย แม้ผมจะถูกคนดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่ผมก็จะพยายามทำตัวให้ดียิ่งขึ้นให้คนเขารู้ว่าผมก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ตอนผมอายุ 19 ปี น้องผมไปเกิดมีเรื่องบาดหมางกับคนอื่น เพื่อความปลอดภัยของน้องชาย ผมจึงไปหาเพื่อนเกเรกลุ่มนั้นของเขา ผมขอร้องพวกเขาให้ยกโทษให้ไว้ชีวิตน้องผม ส่วนผมจะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่เขา คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะฆ่าผมปิดปาก แล้วเอาศพผมโยนทิ้งลงในบ่อน้ำ ผมจึงตายตั้งแต่บัดนั้น
ตอนมีชีวิตผมได้รับความทุกข์ลำบาก ตอนตายไปก็ยิ่งทุกข์ทรมาน ด้วยชาติก่อนผมได้ทำกรรมชั่วไว้มาก ดังนั้นเมื่อผมตายจึงยังคงต้องไปรับโทษทัณฑ์ในนรก แต่ทว่าท่านพระโพธิสัตว์บอกว่าในชาตินี้ผมทำได้ดีมาก ไม่ไปถือสาหาความใคร่รู้จักสำนึกผิดกลับตัวกลับใจใหม่ รู้จักบำเพ็ญจิตขัดเกลาตน จนบังเกิดโพธิจิต เหตุนี้จึงลดโทษทัณฑ์ในนรกแก่ผม ท่านทั้งหลายทราบไหมว่าชาติก่อนผมได้ทำความชั่วอะไร? ชาตินี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้?
ชาติก่อนผมอยู่ในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นคนชั่วช้าสามานย์มาก เพื่อแย่งสมบัติถึงกับฆ่าพี่น้องร่วมอุทร เมื่อผมมีเงินก็ไปดื่มสุราเล่นการพนัน ถ้าคนอื่นเล่นแพ้แล้วไม่มีเงินจ่าย ผมก็จะใชัปังตอสับมือเขาขาด และชอบพูดจาหยาบคายให้คนอื่นเสียหน้าเพราะคำพูดของผมครั้งหนึ่งเคยทำให้ครอบครัวเขาต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เพราะผมทำความชั่วไว้มาก พอตกกลางคืนก็ถูกเจ้ากรรมนายเวรรุมเล่นงานจนสติอารมณ์ผิดปรกติ เมื่อผมไปถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกผมว่า เพราะผมประพฤติชั่วกรรมจึงตามสนอง ผมไม่ยอมรับพอโมโหก็ถีบโต๊ะที่ตั้งพระพุทธรูปจนล้มระเนระนาดลงไปพร้อมกับพระพุทธรูป นี่คือกรรมชาติก่อนของผม ชาตินี้จึงต้องได้รับผลกรรมเช่นนี้
ชาตินี้ทุกท่านมีหน้าตาหมดจดภูมิฐานเช่นนี้ ก็ควรรักถนอมให้ดีบำเพ็ญให้ดี อย่าได้ไปก่อเวรสร้างกรรมกับใครอีก พึงรู้ว่าเวรกรรมที่สร้างมานับภพนับชาติไม่ถ้วน หากไม่รีบแก้ไขคลี่คลายก็ยังจะต้องวนเวียนอยู่ในวังวนกฎแห่งกรรมนั้นจะพ้นทุกข์เมื่อไหร้ไม่อาจทราบได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่ากลัวมาก ยังมีอีก บุคคลใดคิดอะไรก็จะเป็นมโนธรรมที่มีผลตอบสนอง คิดทางดีก็ได้ผลดีสนองคิดทางชั่วก็ได้ผลชั่วสนอง นี่เป็นหลักการที่แน่นอน อย่าได้คิดว่ากรรมเป็นสิ่งมองไม่เห็นแล้วก็ทำตามอำเภอใจ ชาตินี้ทุกท่านมาเพื่อฉุดช่วยเวไนยสัตว์ อย่าได้กลายเป็นเวไนยสัตว์ที่มาสร้างกรรมซึ่งถ้าถูกยมบาลกาชื่อ ก็แสดงว่าแย่แล้ว หากท่านขยันหมั่นช่วยทางธรรม ก็จะมีพลังอย่างหนึ่งที่มองไม่เห็นมาช่วยท่านขจัดเวรกรรมที่สร้างมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ท่านทราบไหมว่าในขณะบำเพ็ญอยู่สวรรค์เบื้องบนอาจอาศัยคนหรืออาศัยเรื่องต่างๆ มาทดสอบใจของท่าน ถึงตอนนั้นท่านก็จะต้องถือว่าศัตรูเป็นผู้มีบุญคุณเพราะเขาจะมาทำให้ท่านประสบความสำเร็จ ทุกท่านสามารถบำเพ็ญธรรมด้วยกัน ก็ต้องรักถนอมน้ำใจกัน อะไรนิดหน่อยก็อย่าไปถือสากันต้องผ่อนปรนกัน การอดกลั้นอดทนชั่วขณะหนึ่ง เหวเพลิงก็จะกาลเป็นสระดอกบัวขาว เตี่ยนฉวนชือผู้เมตตา ไม่ทราบว่าชาติหน้าผมจะมีวาสนาได้รับวิถีธรรมหรือเปล่า?
สาธุชนที่อยู่ ณ ที่นี้ ท่านอย่าได้คิดว่านี่เป็นการแสดงละครท่านผู้ที่ไม่เชื่อ ขอให้มาดูใกล้ๆ ได้ ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะมาหัดกิริยาท่าทางแบบผม เพราะผมไม่มีกายเนื้อ ต้องอาศัยกายเนื้อของคนอื่นมาเล่าประวัติของตัวเอง ทุกท่านต้องเข้าใจ ผมไม่ใช่จะให้ทุกท่านมาสงสารผม
เจ้ากรรมนายเวรของเราก็อยู่ข้างกายเรานี่เอง อย่ารอจนกระทั่งไม่มีกายเนื้อแบบผมซึ่งคิดอยากจะสร้าบุญกุศลก็ยากแล้ว ชาตินี้เราตายอย่างไรไปถึงยมโลกก็เป็นแบบนั้น ท่านจะต้องทำตัวเองให้ดี เวลาจำกัด ผมไม่กล้ารบกวนเวลามาก ตอนนี้ผมต้องกลับไปที่ยมโลก เพื่อรอโอกาสไปเกิดคนปรกติธรรมดา ขอบคุณ