อายุยืนพลานามัย

โดย ท้วงหยู้

2023-07-08 13:01:23 - mindcyber

               คนมีชีวิตบนโลก ต้องมีร่างกายที่มีพลานามัยถือว่าเป็นทรัพย์มีค่าที่สุด ร่างกายที่ไม่มีสุขภาพดี แม้จะมีทรัพย์สินสมบัติ มีตึกสูง มีชีวิตการกินการอยู่ที่เลิศหรูก็ตาม สำหรับเขาแล้วกลับเป็นแรงกดดันทางจิตใจอย่างยิ่ง แต่คนที่มีสุขภาพดี แม้อาหารสามมื้อจะธรรมดาอาศัยอยู่ในกระท่อมไม่มีรถขับ แต่กลับมีความรู้สึกที่กายใจสบาย ถ้าสุขภาพไม่ดีชีวิต การงานความรักงานธรรมล้วนไม่ราบรื่นและก้าวหน้าถ้าพูดถึงอายุยืนก็เหมือนพูดถึงทหารบนแผ่นกระดาษ

                   จะต้องมีสุขภาพพลานามัยเสียก่อนจึงค่อยมาพูดถึงอายุยืน แตการมีอายุยืนก็ต้องพูดถึงวิถีแห่งการดำรงชีพ โดยทั่วไปประชาชนมักเห็นแก่กิน แต่การกินการอยู่ที่เหมาะสม จะเป็นตัวกำหนดชีวิตที่ยาวสั้น แตถ้านิสัยการกินการดื่มที่แย่ต้องรีบแก้ไข กับการกินที่ไม่ถูกต้องต้องหยุดนิสัยไม่ใช่มีมาแตกำเนิด แต่อยู่ที่การเลี้ยงดู ให้มีการกินการดื่มที่ดี ก็จะเป็นพื้นฐานของการมีอายุยืน

                  วิถีแห่งการมีอายุยืน : 

                   1. ชีวิตต้องมีนิสัยดี คือ ต้องรักษาอารมณ์ใจให้สบาย ฝึกนิสัยนอนเร็วตื่นเช้า พูดจาระวัง พูดน้อยทำงานมาก อารมณ์ทำงานต้องให้มีความ สบายใจ

                   2. ระวังการดื่มกินต้องเหมาะสมและออกกำลัง มีคำกล่าวว่า“ป่วยเข้าทางปาก ภัยออกจากปาก” กินของจืดดีที่สุด ดื่มกินผลไม้ทานผักสด อาหารเจเหมาะที่สุด การออกกำลังทำให้เส้นสายยืด ร่างกายไม่ตึง ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี กายใจมีสุข

                   3. ใครอยากน้อย บำเพ็ญธรรมให้ประโยชน์ต่ออายุขัย ความใคร่เป็นเหตุอายุสั้น อย่าใคร่เกินควร จะทำให้ร่างกายแก่ง่าย

                   4. ทำบุญทำกุศลให้มาก เลี้ยงอารมณ์ดี ทำเรื่องที่ดี ไม่ฆ่าสัตว์ปล่อยสัตว์ สวดมนต์ไหว้พระ การทำความดีทำให้จิตใจแจ่มใส ยังเป็นการขอให้พระคุ้มครองก็เป็นเคล็ดของการมีอายุยืนด้วย

                   5. ไปไหนมาไหนให้ระมัดระวัง อยู่ในกฎจราจร ดื่มสุรา นอนไม่พอไม่ควรขับรถ ขับรถอย่ารีบร้อน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

                  คนต้องการมีอายุยืน นอกจากทำตามวิธีดังกล่าวแล้ว ยังต้องบ่มเลี้ยงจิตใจ พบปะอะไรก็สงบสุข คือ : 

                   1. ละความอัดอั้นกังวล เป็นคนร่าเริงดีกว่า อย่าอัดอั้นจนกลายเป็นคนป่วย คนที่โชคไม่ดีอยู่ในภาวะที่ลำบาก จะต้องสลัดให้หลุดสภาวะใจปล่อยวาง พยายามสลัดเอาสาเหตุที่ลำบากให้หลุด เพราะการคิดกังวลจะตรากตรำร่างกายที่สุด

                   2. อย่าเป็นคนเศร้า เรื่องที่ผ่านไปแล้วให้เหมือนเมฆที่ลอยผ่านอย่าคิดอีกอารมณ์ให้สบาย ให้ความเศร้าออกไปไกล ๆ ที่ว่าเศร้าแล้วก็ให้แล้วไป เศร้าเกินผลทำให้ป่วย ที่ว่า “แต่ละคนมีเหตุมาก่อน อย่าอิจฉาเขา”สิ่งร้าย ๆที่พบต้องปล่อยให้ผ่านไป

                   3. ขจัดความกังวล กังวลมากก็เป็นปุถุชนมาก ผ่อนปรนสัก 3ส่วนก็ไม่กังวล กังวลเป็นสาเหตุของโรคหลายโรค ถ้ากังวลมากก็บั่นทอนสุขภาพ ทำให้อายุสั้น เพราะความกังวลจึงเป็นศัตรูใหญ่ของใจ

                   4. ละลาอารมณ์โกรธ ถ้าอดทนเรื่องเล็กๆไม่ได้ ก็จะเสียเรื่องใหญ่ถ้าอดทนได้กายใจก็มีสุขภาพ คนที่อดทนได้คือความสำเร็จยิ่งใหญ่ของชีวิตเป็นจุดสำคัญของอนามัยของใจ ผู้อดทนได้เป็นผู้กล้าหาญ ถือเป็นบัณฑิตมีคำกล่าวว่า “อดทนได้เป็นสุข” และ “หนึ่งอดทนร้อยเรื่องคลายหาย”

                   5. หัดเหลวไหล ชีวิตคนต้องหัดเหลวไหล เหลวไหลทำให้กายใจดีหลักความเป็นคนต้อง “เก่งมีความสามารถ” เพราะต้องทำงานเลี้ยงชีวิตแต่พอมีอายุมากแล้ว ทั้งคนทั้งงานนับวันวุ่นวายมากขึ้น ถึงตอนนั้นก็ต้องหัดเหลวไหล มีบางคนชอบเอาเปรียบคน เรื่องต่างๆไม่ยอมเสียเปรียบไม่ยอมปล่อยปละ เรื่องเล็กๆก็ยังไม่ยอมปล่อย ถึงกับตีกันขึ้นโรงขึ้นศาลเหลวไหลก็เป็นบารมีชนิดหนึ่ง ต้องฝึกฝน ถ้าเรื่องใหญ่ไม่เหลวไหล เรื่องเล็กๆต้องเหลวไหล เพราะเหลวไหลก็เป็นบุญูเหมือนกัน

                   6. แกล้งหูตึง เรื่องถูกผิดทำหูตึงบ้าง สงครามปากก็จะหายไปแกล้งหูตึงเหมือนไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง ไม่รับผิดชอบ ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องมีจิตกว้าง เป็นคนอดทนได้ ฟังคำพูดที่ไม่ถูกหูก็แกล้งไม่ได้ยิน เห็นเรื่องไม่ถูกตาก็แกล้งมองไม่เห็น ไม่พูดทั้งหมดก็จบ มีคำพูดว่า “คนอื่นโกรธ ฉันไม่โกรธ พอโกรธก็เข้าทางคนอื่น”

                   7. รำมวยไท้เก๊ก พบเรื่องไม่สนรำมวยจีน นาน ๆ ก็ให้ประโยชน์แก่กายใจ มวยไท้เก๊กไม่ทำร้ายคน มักจะเป็นคนคอยระวังและสุขภาพต่อและกำลัง ขณะอดกลั้น ถ้ามีคนห้อมล้อมกีรีบแก้ไข ก็ใช้มวยไท้เก๊กนี้แหละมาต่อกร รีบสลายแรงกดดันของผู้คนก่อน แล้วค่อยๆวางแผน ทุกอย่างควรผ่อนปรนสัก 3 ส่วน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แก้ไขจนสงบได้

                   8. ยอมรับความสูญเสีย กระดาษทองไม่ตามผู้จากไป โศกเศร้ารันทดทำร้ายร่างกาย ดวงไม่ดีก็อาจเสียเงิน ยอมสูญเสีย ใจปล่อยวางบ้างอย่าโทษฟ้าโทษคน

                   9. ก้าวข้าม อดทนสูญเสียไม่ต้องทุกข์ยาวนาน ยอมเสียเฉพาะหน้า ถือเป็นว่าสร้างบุญทางใจและวาจา เพื่อให้กายใจสบายเปิดใจกว้างยอมรับความสูญเสีย เขาแรงมาเราก็ผ่อนตาม ที่ว่า“เสียหายได้สบาย”ทุกอย่างต้องเผชิญความจริง ใจว่างรับเอาไว้

                   10. เปิดปากยิ้มให้เสมอ จะรวยจะจนก็ให้ยินดี ไม่เปิดปากยิ้มคือคนโง่ ต้องยิ้มทุกวัน ยิ้มบ่อย ๆ เรื่องไม่ถูกใจก็ยิ้มทีหนึ่ง เรื่องกังวลก็ให้ยิ้มทีหนึ่ง เมื่อยิ้มแล้ว สุขภาพจิตก็จะดีที่สุด

                   ดร.ซุนยัดเซนพูดว่า “ประโยชน์อาหารเจอาหารเนื้อ ไม่มีเนื้อไม่มีภัย คนกินเจมีสุขภาพและอายุยาวกว่าคนกินเนื้อ คนกินเนื้อมาก เลือดลมรุนแรง อารมณ์ใคร่ไหลออก ทำร้ายร่างกายชีวิตแย่ คนกินเจเลือดลมเรียบอารมณ์อ่อนโยน เหมือนเต่ากินน้ำใสซ่อนนิ่ง ปราณแท้คืนกลับ มีประโยชน์กับร่างกาย การกินเจช่วยเหลือกระเพาะลำไส้ ป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ดี คนกินเจตัวค่อนข้างเบาก็ยิ่งมีสุขภาพดีอายุยืน กินผักสด ๆมาก ๆ ผลไม้ ซึ่งมีวิตามินมาก แร่ธาตุและผักใบเขียว ร่างกายต้องการโดยเฉพาะคนวัยกลางขึ้นไป ถ้าอยากรักษาร่างกายให้มีสุขภาพอายุยืนให้กินเนื้อน้อยๆ กินผักมากๆ

                 สรุป สร้างบุญสร้างกุศลบารมีมาก คนที่ดีถ้าช่วยคุ้มร่างกายให้มีสุขภาพอายุยืน ไม่มีเคล็ดลับอะไร การบำเพ็ญกายและจิตเป็นสัจธรรมอย่าอิจฉาชีวิตคนอื่นที่ดี ยังมีคนแย่กว่าเรา ดวงชะตาอย่าได้วิเคราะห์แต่ละคนเทียบกันไม่ได้ เทียบเเล้วก็โกรธกันตาย โศกเศร้ารุนแรงกายเสื่อมง่าย ร่าเริงมีสุขรักษาวัยหนุ่มสาว ชีวิตคนล้วนหุบเหว ป่วยโรคจิตเพิ่มทุกวัน อารมณ์ร้ายของชายหญิงอันตราย โรคภัยแอบแฝง เกรงใจคนก็ไม่มีโกรธ ถ้าโกรธก็เข้าทางเขา เป็นคนต้องไม่ทำเรื่องน่าละอาย โรคเรื้อรังโรคละอายไม่มียารักษาได้

                 วิถีสุขกาพใจต้องตรง อายุยืนมีหลักสุขสบาย หัวเราะบ่อยๆ ได้

ประโยชน์ อดทนนิดหน่อยชั่วประเดี่ยวรักษาสุขภาพ อดทนจนทนไม่ได้ก็

ต้องทน ร้อยกดดันไม่โวยวายคือบารมี เล็กๆไม่ทนเกิดภัยใหญ่ พุทธะ

ล้วนก็มีไฟบรรลุแล้วก็เป็นพุทธะ นั่นคือ : 

รู้จักพอสุขเสมอ ใจต้องกว้าง

พบอะไรก็สงบ           ใจต้องกว้าง

บำเพ็ญกายบำเพ็ญจิต    ใจให้กว้าง

กินอิ่มอารมณ์อิ่ม         ใจยิ่งกว้าง

สุขภาพอายุยืน            ใจกว้าง กว้าง 

More Posts