“เมืองตายโหงแบ่งหลายชั้น อาจารย์ศิษย์เล่ารายละเอียด”
องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า
แต่งหนังสือกล่อมเกลากุศกลแรง
ต่างขันแข็งหยุดหมุนเวียนจนสิ้นกรรม
แผ่ส่วนบุญเมืองตายโหงลงโทษทัณฑ์
ต่างก็ทำหน้าที่ตนดีที่สุด
อาจารย์ : การทำหนังสือเล่มนี้ ได้เยี่ยมถามผีตายโหงมาพอสมควรแล้ว แต่ที่สำคัญคือเที่ยวทั่วทั้งเมือง เพื่อให้แต่ละหน่วยงานแนะนำในรายละเอียด อย่างวันนี้จะเที่ยวแดนขังชั้นที่ 1 ศิษย์ลงแรงหน่อยเน้อ
หยงปี่ : ศิษย์ออกแรงข้าวต้มหมดแล้ว หากยังไม่พอ ก็จะเพิ่มกะกลางคืนอีก
อาจารย์ : ไม่ได้ทดสอบ และก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรเจ้าสักหน่อย อย่าพูดเหลวไหล ประทานแพรฟ้า ออกเดินทางเถอะ
หยงปี่ : ดีจังเลย! ไม่ต้องหลับตา รู้สึกเบาสบายน่าจะเป็นอย่างนี้ ตั้งแต่แรก ถูกแล้ว อาจารย์ ผมจำได้ว่าเที่ยวเมืองตายโหงถึงแดนขังชั้นที่ 1 เราได้ผ่านห้วงแห่งกาลเวลา ผ่านไปนรกมาถึงทางสามแพร่ง แล้วก็ประตูทางเข้าเมือง ผ่านศาลสอบสวนผ่านถนนคมมีด ลานพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน แดนวิตกจริตเที่ยวแบบนี้สิ้นเปลืองไม่น้อยไม่รู้ว่าได้เที่ยวเมืองไปกี่ส่วนแล้ว
อาจารย์ : คิดเอาคร่าว ๆ ได้เพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น
หยงปี่ : ถ้าอย่างงั้นต้องเที่ยวอีกสักครึ่งปีกระมัง
อาจารย์ : แม้ไม่ถูกแต่ก็ไม่คาดเคลื่อนนัก เพราะฉะนั้นอาจารย์จึงอยากให้เจ้าลงแรงหน่อย ถึงชั้นที่ 1 แล้วเจ้ามองดู
หยงปี่ : ช้าก่อนอาจารย์ ศิษย์ขอถามหน่อย ถนนคมมีดขึ้นอยู่กับศาลสอบสวน แล้วลานพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกับแดนวิตกจริตขึ้นอยู่กับอะไร
อาจารย์ : สถานที่พิเศษเหล่านี้ก็ควบคุมโดยเมืองตายโหงที่จัดขึ้นเฉพาะ เหมือนเมื่อคราวก่อนที่เที่ยวชมทิวทัศน์ “ทะเลไฟ” ก็ไม่ขึ้นอยู่กับชั้นใดเลย
หยงปี่ : ทำไมเล่า?
อาจารย์ : เพราะว่าต้องขึ้นอยู่กับคดีเฉพาะและความต้องการนอกจากแดนขังชั้น 4 ที่สร้างสถานอบรมขึ้น เพื่อให้การอบรมก็ไม่ขึ้นอยู่กับชั้นใด พูดง่าย ๆ การอบรมแต่ละชั้นแบ่งโดยการกำหนดเวลาโดยไม่เกี่ยวข้องกัน หากแต่เมืองตายโหงควบคุมทุกแห่ง จึงสามารถใช้ร่วมกันได้
หยงปี่ : พูดอย่างนี้ ภายหลังเที่ยวเมืองแล้ว อาจารย์ต้องอธิบายเพิ่มเติมในแต่ละที่ว่าขึ้นอยู่กับเมืองตายโหง หรือขึ้นอยู่กับแดนขังแต่ละชั้นนะ
อาจารย์ : ก็ได้ ตอนนี้ก็ผ่านแดนวิตกจริต อันเป็นสถานที่พิเศษก็เข้าสู่ชั้น 1 แดนขัง 1 ให้เจ้าดูการอบรมอย่างละเอียด
หยงปี่ : ตามที่อาจารย์บอก แดนขัง 1 ควบคุมการฆ่าตัวตาย แดนขัง 2 ควบคุมฆาตกรรมตาย แดนขัง 3 ควบคุมอุบัติเหตุรถยนต์ แดนขัง 4 ควบคุมการตายจากภัยพิบัติธรรมชาติ ถูกหรือเปล่าครับ แต่ละแดนขังแบ่งเป็น 4 ห้อง ห้อง 1 ห้องโทษหนักที่สุด ตามแต่ชนิด
อาจารย์ : ไม่ผิด ห้อง 1 ตายเนื่องจากความรักหนักที่สุด ห้อง 2 ลดน้อยลง ห้อง 3 ลดหน้อยกว่า ห้อง2 ห้อง 4 เบาที่สุด ดังนั้น แต่ละแดนขังแต่ละห้องยังมีรายละเอียด
หยงปี่ : แต่แดนขังและห้อง ก็ปาเข้าไปครึ่งปีแล้ว แล้วที่อื่นอีกล่ะ
อาจารย์ : ไอ้โง่ ยกตัวอย่าง หนึ่งอันก็รวมความไปถึง 3 อันแล้ว เพียงแต่พูดให้กระจ่าง เสร็จแล้วก็เลือกที่เที่ยว ก็จะประหยัดเวลาได้
หยงปี่ : อย่างนั้นก็โปรดอธิบายมากหน่อย ศิษย์ขอขอบคุณล่วงหน้า อ้อ! ที่นี่เหมือนกรงนกพิราบเรียงกันเป็นห้องเล็ก ๆ เป็นแดนขังหนึ่งใช่ไหมครับ
อาจารย์ : ถูกแล้ว
หยงปี่ : อย่างนี้จะมีอะไรน่าเที่ยว วันหลังให้ให้ศิษย์พาอาจารย์ไปเที่ยวเมืองไถจง บ้านเลขที่ 4 ถนนซินเซิน ที่นั่นน่าดูกว่าเแยะเลย
อาจารย์ : จองหอง
หยงปี่ : ไม่ใช่อย่างนั้น แดนขังบนโลกล้วนเป็นตึกสูงใหญ่ เมืองตายโหงเมืองใหญ่แต่มีแดนขังเล็ก ๆ เหมือนกรงนกพิราบ
อาจารย์ : เจ้าพูดเป็นบ้าไปได้ บนโลกพูดถึงสิทธิมนุษยชน เพราะฉะนั้นนักโทษก็ต้องดูแลเหมือนคน แต่วิญญาณผีในยมโลกได้ผ่านการทำบาปจากตัวคนมาแล้ว จึงถูกควบคุมให้ฝึกฝนจิตวิญญาณจะมาพิจารณาอะไรกันมากมาย ถ้าหากวิญญาณผีได้รับการดูแลเหมือนคนในโลกแล้วถ้าเช่นนั้น คนจะต้องไปกลัวอะไรกับกฏลงโทษในยมโลกละ แบบนี้คนตายเป็นผีแลัวก็ยังสามารถเสพสุขได้ แล้วจะตักเตือนคนได้อย่างไร
หยงปี่ : ถูกครับ ทำไมศิษย์คิดไม่ถึง พูดเช่นนั้น หากเราอาจารย์กับศิษย์มาเที่ยวเมืองตายโหงแล้วเขียนว่าเป็นสถานที่น่าเที่ยวมีภูเขาน้ำตกน่าหลบร้อน อะไรอย่างนั้น คงจะมีคนที่ทนทุกข์ไม่ได้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ก็คิดจะมาเที่ยวบ้างโดยไม่ยอมเสียค่าใช้จ่ายเป็นแน่ ถ้างั้นการที่ศิษย์ไม่ฆ่าคุณลุง คุณลุงไม่ตายเพราะผม ตอนกลางคืนคุณลุงก็ฝันร้ายแล้ว
อาจารย์ : ปากเสีย! พูดให้ถูกให้ควร นอกจากกรงพิราบเหล่านั้นแล้วเจ้าเห็นอะไรอีก
หยงปี่ : นอกจากกรงพิราบแล้วก็มีแต่กรงพิราบ
อาจารย์ : เป็นไปได้อย่างไร ยังมีอีกตั้งแยะ.....อ๋อเข้าใจแล้วเจ้าจะขี้เกียจแล้วใช่ไหมละ ไม่ได้! ต้องเที่ยวให้ทั่วที่นี่ก่อน
หยงปี่ : ก็ได้ ลานกว้างด้านหลังนั้นคืออะไร....เห็นแล้วด้านซ้ายของห้องแถวเหมือนกรงนกพิราบ มีตำหนักที่สวยงามตระการตาอยู่หลังหนึ่ง มีอะไรอยู่ในนั้น
อาจารย์ : ได้ฟังร้อยครั้งไม่เท่าตาเห็น อาจารย์จะพาเจ้าไปดู (พูดจบก็ดึงเจ้าหยงปี่ตรงไปยังอาคารหยังใหญ่นั้น)
หยงปี่ : อาจารย์ครับ ไม่ต้องดึงก็ได้ ศิษย์จะเดินไปเอง.....เฮ้ ตำหนักซิ่งหง (เป็นตำหนักโบราณที่ให้บัณฑิตเข้าศึกษาในสมัยนักปราชญ์ขงจื้อ ประมาณ 2,500 กว่าปีมาแล้ว) จะใช้ตำหนักซิ่งหงที่ท่านขงจื้อได้แยกมา ทำไมมาอยู่ที่เมืองตายโหง
อาจารย์ : ช่วยไม่ได้ คนที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่เข้าใจธรรมของท่านขงจื้อ เพราะฉะนั้นจึงได้เชิญผู้ทรงคุณปัญญาของท่านขงจื้อมาอธิบายสั่งสอนถึงว่า ความกตัญญูเป็นคุณธรรมอันดับแรกของคุณธรรมทั้งหลาย จะได้ไม่ทำลายแม้แต่เส้นผมผิวกาย นี่คือหลักธรรม
หยงปี่ : เสร็จแล้วก็ต้องไปดูลานกว้างนั้นหน่อย
อาจารย์ : ลานกว้างนั้นเป็นลานฝึกอบรมที่ใช้ร่วมกัน ตอนนี้ไม่มีอะไรดู แต่ที่ด้านหลังมีที่หลายแห่งที่ขึ้นกับแดนขัง 1 เป็นสภาพที่อบรมในแต่ละสาขา ต้องไปดูหน่อย วันหลังเจ้าเอาใจใส่หน่อยคืนนี้หยุดเพียงแค่นี้ ข้าจะส่งเจ้ากลับ.....ถึงแล้ว ข้ากลับละ
ไก่โต้งร้องขึ้นเพราะปากถือศีล ล้อม้าแบกของหนักเพราะกรรมชาติก่อน