ครั้งที่ 23 เที่ยวเมืองต่อ

2025-02-16 04:19:14 - mindcyber

          “สามารถพลิกแผ่นดิน ไม่ถูกทำนองคลองธรรมสรรหาทุกข์”               

             องค์ชายสามนาจาแห่งฟ้าทักษิณ เสด็จลงประทับทรง กลอนว่า            

                ลมหนาวพัดกระหน่ำเย็นราตรี             

กราบพระดีพิจารณาธรรมใจเข้มข้น             

ลิขิตคัมภีร์ล้ำตักเตือนคน             

ปลุกกมลตื่นภวังค์อยู่ยาวนาน             

อาจารย์ : ประทานแพรฟ้าปกป้องตัว เจ้าหลับตาเสีย จะออกเดินทางแล้ว             

หยงปี่ : ครับผม.....เรียนถามอาจารย์ คืนนี้จะเที่ยวแมืองตายโหงต่อหรือว่าจะไปสอบถามวิญญาณผีตายโหง             

อาจารย์ : เจ้าดูเอาเองก็แล้วกัน             

หยงปี่ : ใช่แล้ว....ถนนคมมีด ทำไมถึงเร็วเหลือเกิน ก็เที่ยวเมืองต่อน่ะสิ             

อาจารย์ : ใช่แล้ว ผ่านถนนคมมีดไป ก็คือลานกว้างของแดนขังชั้นที่ 1 เราไปกันเถอะ             

หยงปี่ : ทำไมไม่รอสักประเดี๋ยว ดูการลงโทษด้วยถนนคมมีดว่าเป็นอย่างไร             

อาจารย์ : ไม่ต้องหรอก การสร้างถนนคมมีด ก็เป็นการข่มขู่ให้พวกวิญญาณบาปให้กลัวลานเท่านั้น อันที่จริงแล้ว ตั้งแต่ต้นปีจรดท้ายปีลงโทษเพียงไม่กี่ครั้ง             

หยงปี่ : งั้นก็ขาดการใช้สอยซิครับ (ขณะเดินอยู่ข้างถนนคมมีดหยงปี่จึงสังเกตเห็นถนนคมมีดได้ชัดเจนว่าไม่ใช่คมมีด หากแต่เป็นลักษณะหินที่แหลมคมโผล่ขึ้นมา ชี้โด่ชี้เด่มองแล้วหวาดเสียว คล้าย ๆ แถวฟันของสัตว์ป่าที่อ้าปากจะเห็นฟันแหลมคมเรียงอย่างไรอย่างนั้น) อาจารย์ครับ ถนนคมมีดนี้ถ้าหากกลิ้งไป สงสัยจะถลอกปอกเปลือกหมด ท่านดูซิครับปลายแหลมที่ต่ำ ๆ สูง ๆ ถ้าหากตำเข้าไปในเนื้อ รสชาติคงแย่เลย             

อาจารย์ : รสชาติแบบนั้นอาจารย์ไม่รู้ เจ้าน่าจะลงไปลองหาประสบการณ์ดู             

หยงปี่ : ขอบคุณ ไม่รับประทานหรอกครับ (เมื่อผ่านถนนมีดก็เข้าสู่ลานกว้าง มองเห็นวัตถุลักษณะแปลกประหลาดต่าง ๆ เหมือนเป็นห่วงกลม ๆ บ้าง เหมือนเป็นแป้นบ้าง ตอนนี้ก็มีพวกวิญญาณผีกำลังทำอะไรกันอยู่ มันเป็นการกระทำที่สนั่นหวั่นไหว ผลที่เห็นคือพวกวิญญาณผีบางส่วนจะมีเหงื่อเม็ดเป้ง ๆ อยู่เต็มตัว วิญญาณผีบางส่วนก็ดึงห่วงกลมนั้นทำให้ตำแหน่งที่ตัวยืนอยู่ตกลงไป ทั้งตัวก็ร่วงลงไปในอุโมงค์ลึก วิญญาณผีบางตนเมื่อกระทบกับแป้น สิ่งที่ทำให้ตกใจก็คือแป้นที่ว่านั้นก็จะกระดอนกลับ ทำเอาคนทั้งคนตีลังกา เห็นแต่ขาสองข้างชี้โด่เด่อยู่บนพื้น) อาจารย์ครับ! เขากำลังฝึกละครสัตว์กันหรือครับ             

อาจารย์ : เจ้าเอาคำว่าพลิกแต่งเป็นสำนวนดูซิ ก็สามารถที่จะคิดถึงสาเหตุการตายของผีตายโหงได้             

หยงปี่ : พลิก....พลิก....พลิกฟ้า....พลิกแผ่นดิน ความหมายก็คือโกรธแค้นจนต้องตามพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน คนพวกนี้คงต้องโกรธฟ้าโกรธดินจึงได้ด่าฟ้าด่าดิน จนต้องตายโหง             

อาจารย์ : ผิดแล้ว คนพวกนี้ตอนมีชีวิตอยู่มีใจมุ่งมั่นที่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินและมีความสามารถ น่าเสียดายไม่ถูกทำนองคลองธรรม ทำไปสุดโต่ง เมื่อทำไม่สำเร็จ โกรธจนฆ่าตัวตาย             

หยงปี่ : ฮ่า ฮ่า! น่าหัวเราะตาย สามารถที่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแลัวยังจะฆ่าตัวตาย คงเป็นความสามารถแบบกำมะลอกระมัง             

อาจารย์ : อย่าหัวเราะ ให้อาจารย์ยกตัวอย่าง นักรบผู้กล้าหาญอย่างฉอหัน แต่ก็พ่ายแพ้ความอ่อนหวานของสตรี จนไม่มีหน้าที่จะกลับไปพบพ่อแม่พี่น้อง เลยตัดหัวตัวเองที่แม่น้ำอู๋เจียง นี่มิใช่เพราะมีความสามารถที่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินหรอกหรือในที่สุดก็ฆ่าตัวตาย             

หยงปี่ : ดูจะมีเหตุผล อาจารย์ครับ คืนนี้พอแค่นี้ดีไหม             

อาจารย์ : ก็ดี! หลับตา จะพากลับสถานธรรม....ถึงแล้ว ข้ากลับละ  

More Posts