มีชายยากจนคนหนึ่ง ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยได้กินข้าวจนอิ่มท้องเลยสักมื้อ แต่ทว่าถึงจะลำบากยากแค้นอย่างไร เขาก็ไม่เคยทำเรื่องผิดทำนองคลองธรรม หรือผิดจารีตประเพณีเลย
ต่อมาชายยากจนต้องไปทำงานเป็นคนรับใช้พวกพ่อค้า อยู่มาคราวหนึ่ง บรรดากลุ่มพ่อค้าชักชวนกันออกเรือไปค้นหาสมบัติในทะเล ชายยากจนจึงต้องร่วมเดินทางไปด้วย
นานหลายเดือนที่พวกพ่อค้าเสาะแสวงและรวบรวมทรัพย์สมบัติได้เป็นจำนวนมาก ทว่า...ในระหว่างแล่นเรือกลับ จู่ ๆ สายลมก็หยุดนิ่ง ท้องทะเลสงบนิ่ง เรือของพ่อค้าไม่สามารถแล่นต่อไปได้ ทุกคนจึงช่วยกันออกแรงพาย แต่ช่างน่าประหลาด...ไม่ว่าจะพายอย่างไร เรือก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
บรรดาพ่อค้าทั้งหมดต่างตื่นตระหนกตกใจ เพราะรู้ตัวว่าถูกเทพเจ้าแห่งทะเลลงโทษ เนื่องจากพวกตนหยิบฉวยสมบัติจากท้องทะเลโดยมิได้รับอนุญาต ดังนั้นเหล่าพ่อค้าจึงรีบคุกเข่ากราบไหว้อ้อนวอน ขอให้เทพเจ้าแห่งทะเลไว้ชีวิตพวกเขา แต่สาหรับชายยากจนคนรับใช้ เขากลับนั่งเฉยไม่มีอาการ
หวั่นกลัวแต่อย่างใด นั่นก็เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำเรื่องที่น่าละอาย ดังนั้น เขาจึงไม่เข้าร่วมอ้อนวอนกับกลุ่มพ่อค้าเลย
ตามความเป็นจริงแล้ว เทพเจ้าแห่งทะเลทรงประสงค์จะลงโทษพวกพ่อค้าที่กระทำการลบหลู่พระองค์ แต่เป็นเพราะในเรือยังมีคนดีที่ยึดมั่นในคุณธรรมอยู่ไม่สมควรที่เขาจะต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย
เรือหยุดนิ่งอยู่กับที่นานถึง 7 วัน เสบียงในเรือก็เหลือน้อยเต็มที พวกพ่อค้าต่างร้อนรุ่มกลุ้มใจไม่รู้จะทำอย่างไรดี กระทั่งในคืนวันนั้น พ่อค้าคนหนึ่งได้ฝันเห็นเทพเจ้าแห่งทะเลเสด็จมาและทรงมีพระบัญชาว่า
“ พวกเจ้าจงส่งคนรับใช้ยากจนที่สุดมาเป็นเครื่องบรรณาการแก่ข้าแล้วข้าจะปล่อยให้พวกเจ้าเดินทางต่อไปได้”
เมื่อพ่อค้าคนนั้นตื่นขื้น จึงเล่าเรื่องความประสงค์ของเทพเจ้าให้เพื่อนๆ ฟัง กลางดึกคืนนั้น พวกพ่อค้าจึงปรึกษาหาวิธีว่าจะจัดการอย่างไรดี หนึ่งในกลุ่มพ่อค้าเสนอว่าให้คอยดักซุ่ม พอคนรับใช้ยากจนเผลอ ก็ช่วยกันผลักให้ตกทะเล บ้างก็บอกว่า ควรฆ่าให้ตายเสียก่อนแล้วโยนศพลงทะเล
ขณะนั้นชายยากจนคนรับใช้ซึ่งนอนอยู่ใกล้ๆโดยมิได้หลับ ได้ยินพวกพ่อค้าผู้เป็นนายจ้างกำลังถกเถียงกันถึงวิธีที่จะสังเวยชีวิตของเขา เพื่อแลกกับชีวิตคนในเรือทั้งหมด
ชายยากจนจึงลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า
“ ท่านทั้งหลายจงถวายตัวข้าพเจ้าให้กหลีั้น้าจึง์ตน่ับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเถิด
อย่าให้ตัวข้าพเจ้าเพียงคนเดียวต้องทำให้ทุกคนในเรือต้องเดือดร้อนเลย"
พวกพ่อค้าเห็นว่าคนรับใช้ยากจนยอมอุทิศชีวิตตนด้วยความสมัคร
ใจ ต่างก็ดีอกดีใจเพราะทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายขื้น
กล่าวกันว่า ในช่วงเวลาที่คับขัน เมื่อชีวิตตกอยู่ในภาวะวิกฤติ คนเรามักจะแสดงธาตุแท้สันดานเดิมออกมาให้เห็น ดูอย่างพวกพ่อค้า...เมื่อต้องเผชิญความตายอยู่ต่อหน้า นิสัยเดิมที่เหี้ยมโหดเห็นแก่ตัว รักตัวกลัวตายอย่างไร้คุณธรรมก็เผยออกมา โดยคิดจะเอาชีวิตผู้อื่นไปแลกชีวิตตนเอง
ดังนั้นพวกเขาจึงนำแผ่นไม้มามัดเป็นแพเล็ก ๆ พร้อมกับแบ่งอาหารและ น้ำอีกเล็กน้อยให้ไว้เป็นเสบียง แล้วให้ชายยากจนลงแพลอยไปตามยะถากรรม
เมื่อเทพเจ้าแท่งทะเลทอดพระะเนตรการกระทำของพวกพ่อค้าเช่นนั้น
พระองค์ทรงพิโรธยิ่ง จึงบันดาลให้เกิดคลื่นยักษ์ โถมกระหน่ำม้วนเอาเรือของ
พ่อค้าจมลงสู่ก้นทะเล ไม่มีผู้ใดรอดชีวิต
แต่ในขณะ เดียวกันนั้นกลับมีสายลมทะเลอันอ่อนโยนค่อย ๆ พัดแพ
ลำน้อย นำพาชายยากจนกลับเข้าสู่ฝั่งอย่างปลอดภัย
น่าสังเวชใจเหลือเกินที่ชั่วชีวิตของคนเราตั้งแต่เล็กจนโตตั้งแต่โตจนแก่จนกระทั้งแก่ไปถึงตายใ...