คุณธรรมซื่อสัตย์ ภักดี

2025-10-20 12:56:49 - mindcyber

    ซื่อสัตย์ ภักดี หมายถึงใจซื่อตรง จงรักภักดี แม้จะมีลาภยศมายั่วเย้าตรงหน้า จิตใจก็มั่นคงไม่อ่อนไหว หรือแปรเปลี่ยนเป็นอื่น คือซื่อสัตย์ต่อชาติ ต่อนาย (เจ้าเหนือหัว) ต่อมิตรสหาย     

     เช่นความซื่อสัตย์ของกวนอูในสมัยราชวงศ์ฮั่น ในสมัยราชวงศ์ซ้อง งักฮุย ซื่อสัตย์ภักดีต่อชาติ โดยไม่คำนึงถึงความตาย บุคคลเหล่านี้เมื่อตายแล้ว ล้วนแต่ได้ขึ้นสวรรค์เป็นเทพทั้งสิ้น และอีกท่านหนึ่งคือ “ซูอู่” ในรัชกาลของฮั่น อู่ตี้ ซูอู่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นราชทูตไปเจรจากับชนเผ่าซงหนู โดยไม่คาดคิดตันอี๋หัวหน้าเผ่าซงหนู ได้กักตัวซูอู่ไว้ และพยายามบีบบังคับให้ซูอู่ยอมสวามิภักดิ์แต่ซูอู่เป็นคนซื่อสัตย์ภักดีต่อชาติจึงตอบปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย     

     ตันอี๋:ท่านซู...เราเห็นว่าท่านเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ถ้าหากท่านยอมสวามิภักดิ์กับเรา เมื่อสำเร็จกิจเราจะแบ่งแผ่นดินให้ครองครึ่งหนึ่ง ท่านเห็นเป็นอย่างไร ?       

     ซูอู่:ข้าพเจ้าเป็นขุนนางของราชวงศ์ฮั่น จะเห็นแก่ลาภยศไปสวามิภักดิ์กับท่านได้อย่างไร     

     ตันอี๋:หากท่านไม่ยอมสวามิภักดิ์กับเรา เราก็จะไม่ปล่อยท่านกลับไป ลองดูซิว่าท่านจะดื้อรั้นไปได้สักกี่น้ำ     

     ซูอู่:หัวข้าพเจ้าหลุดออกจากบ่าได้ เลือดหลั่งได้ แต่การทรยศต่อชาติ ข้าพเจ้าซูอู่ไม่มีวันทำเช่นนั้นเด็ดขาด เปรียบเหมือนกับคทาทูตที่ข้าพเจ้าถืออยู่นี้     

     ตันอี๋:หมายความว่าอย่างไร ?       

     ซูอู่:ข้าพเจ้าไม่มีวันเปลี่ยนอุดมการณ์เด็ดขาด     

     ตันอี๋โกรธมาก จึงสั่งให้เอาตัวซูอู่ไปคุมขังไว้ ทุกวันส่งคนไปพูดหว่านล้อมให้ซูอู่ยอมสวามิภักดิ์ แต่ซูอู่ใจมั่นคงเด็ดเดี่ยวไม่เคยหวั่นไหวแม้แต่น้อย     

     ตันอี๋หัวหน้าเผ่าซงหนู จึงเนรเทศซูอู่ไปที่ภาคเหนือซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมาก โดยมีหน้าที่ดูแลฝูงแกะ เพื่อที่จะทรมานให้ซูอู่เปลี่ยนความตั้งใจ โดยหวังว่าเมื่อซูอู่ทนไม่ไหวก็จะยอมสวามิภักดิ์เอง การกักบริเวณครั้งนี้เป็นเวลาถึง 19 ปี ระหว่างเวลานี้ทางราชวงศ์ฮั่นเคยส่งทูตมาทวงถามเรื่องของซูอู่แต่ตันอี๋ได้บอกกับทูตของราชวงศ์ฮั่นว่า ซูอู่ได้ป่วยตายแล้วแต่ก็ไม่สามารถมอบศพซูอู่ ดังนั้นทางราชวงศ์ฮั่นจึงไม่ยอมเชื่อมาตลอดว่าซูอู่ได้ตายจริง     

     ในระหว่าง 19 ปี มานี้ ซูอู่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสนานัปการจากความหนาวเหน็บของพายุหิมะน้ำแข็งแต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนความตั้งใจแม้แต่น้อย ยามกระหายก็ดื่มน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งหิมะ ยามหิวก็แก้หิวด้วยเปลือกไม่รากหญ้า     

     เมื่อมาถึงสมัยรัชกาลของเจาตี้ ประเทศทั้งสองมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สวรรค์เบื้องบนเห็นความซื่อสัตย์ภักดีอันยิ่งใหญ่ของซูอู่ จึงมีบัญชาให้เทพหลี่ไป๋แปลงร่างเป็นนกนางนวล บินไปที่ข้างกายของซูอู่ เพื่อให้ซูอู่เขียนจดหมายเลือดผูกไว้ที่ขานกรายงานไปยังกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่น ครั้นแล้วนกก็บินไปเกาะที่พระหัตถ์ของพรเจ้าเจาตี้ พระเจ้าเจาตี้จึงสั่งราชทูตนำจดหมายเลือดที่ซูอู่เขียนด้วยตนเองไปยืนยันกับหัวหน้าเผ่าซงหนู มาถึงขั้นนี้ตันอี๋หมดทางปฏิเสธอีก จำใจต้องปล่อยซูอู่กลับเมืองฮั่น     

     ที่น่าเวทนาก็คือ เมื่อตอนที่ซูอู่ไปเป็นทูตที่เมืองซงหนูนั้น กำลังหนุ่มแน่นแข็งแรง แต่ตอนกลับมาเมืองฮั่นได้กลายเป็นชายชราที่ผมบนศีรษะขาวโพลนไปหมดแล้ว     

     การที่ซูอู่เพียงเพื่อรักษาความซื่อสัตย์ภักดีของตน โดยยินยอมทนทุกข์ทรมานจากความหนาวเหน็บของพายุหิมะเป็นเวลาถึง 19 ปี อภิมหาซื่อสัตย์ภักดีของเขาเป็นตัวอย่างอันดีที่ชาวโลกพึงเอาเป็นแบบอย่าง 

More Posts