พระโพธิสัตว์เสิ้นจง
ในสมัยพระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ท่านได้เห็นนกอินทรีย์ที่หิวโหยกำลังบินไล่จับนกพิราบตัวหนึ่งนกพิราบเห็นพระโพธิสัตว์จึงบินไปแอบอยู่ข้างหลังด้วยความหวาดกลัว นกอินทรีย์ไม่สามารถจับได้ก็บินวนเวียนไม่ยอมไปไหน และกล่าวกับพระโพธิสัตว์ด้วยท่าทางดุร้ายว่า ท่านช่วยนกพิราบแล้วจะให้เราอดตายหรือไง พระโพธิสัตว์ถามว่า เจ้าต้องการอาหารอะไร? นกอินทรีย์ตอบว่า เราต้องการกินเนื้อพระโพธิสัตว์ไม่กล่าวอะไร ก็เฉือนเนื้อที่แขนของตนมาชดใช้แต่นกอินทรีย์บอกว่า จะกินเนื้อที่มีน้ำหนักเท่ากับนกพิราบพระโพธิสัตว์จีงเฉือนเนื้อของตนต่อไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งเฉือนน้ำหนักกลับยิ่งเบาลงจนกระทั่งเนื้อบนตัวเกือบหมด น้ำหนักก็ยังน้อยกว่านกพิราบ นกอินทรีย์จึงกล่าวกับพระโพธิสัตว์ว่า ตอนนี้ท่านเสียใจแล้วหรือยัง? พระโพธิสัตว์กล่าวว่า เราไม่คิดเสียใจแม้แต่น้อย เพื่อให้นกอินทรีย์เชื่อจึงกล่าวอีกว่า ถ้าหากคำพูดของเราเป็นความจริง เนื้อหนังบนตัวเราจงงอกเงยขึ้นดังเดิมเถิดทันใดเนื้อหนังบนตัวก็คืนสู่สภาพเดิมทันที นกอินทรีย์ชี่นชมนักก็คืนร่างเป็นพระเจ้า ทำคารวะพระโพธิสัตว์อยู่กลางอากาศที่แท้พญาอินทรีย์ตัวนี้คือ พระเจ้าแปลงร่างมาทดสอบความขันติอดทนอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์นั่นเอง