อวสานศากยวงศ์

พระโพธิสัตว์โพอิน

   ในสมัยพุทธกาล พระเจ้าวิทูทะภะ แห่งกรุงสาวัตถียกกองทัพใหญ่ไปตีกรุงกบิลพัสดุ์ (ตอนนั้นพระเจ้าสุทโธนะทรงสวรรคตแล้ว) พระมหานามะซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ได้ขึ้นครองราชย์แทน ก่อนสงครามจะเริ่มขึ้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จไปพบพระเจ้าวิทูทะภะ เพื่อขอให้แก้ปัญหาโดยวิธีสันติแต่พระเจ้าวิทูทะภะปฏิเสธ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงไปแจ้งกับชาวศากยราชว่า อย่าเป็นฝ่ายรุก ให้ตั้งรับก็พอ เมื่อทหารของพระเจ้าวิทูทะภะเข้าเมืองได้ก็ไล่ฆ่าฟันผู้คน บรรดาสงฆ์สาวกต่างขอให้พระพุทธองค์ช่วยเหลือประชาชน ขณะนั้นพระโมคคัลลานะผู้มีฤทธิ์เป็นเลิศ เอาบาตรของพระพุทธเจ้าใส่ชาวศากยวงศ์ 3,000 คนไว้ภายใน แล้วให้บาตรลอยอยู่บนท้องฟ้าโดยคิดว่า ได้ช่วยคนเหล่านั้นไว้แล้ว รอจนพระเจ้าวิทูทะภะถอนทัพกลับไปแล้ว พระโมคคัลลานะจึงเอาบัตรลงมาดูปรากฏว่าคนที่อยู่ในบาตรได้กลายเป็นน้ำโลหิตไปหมดสิ้น พระโมคคัลลานะ จึงทูลถามพระพุทธองค์ถึงสาเหตุแห่งมหาภัยครั้งนี้พระพุทธองค์ตรัสว่า “นี่เป็นวิบากกรรมยากจะแก้ไข เพราะเมื่อนานมาแล้ว ที่ใกล้เมืองกบิลพัสดุ์มีหมู่บ้านประมง ภายในหมู่บ้านมีสระน้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ชาวบ้านในหมู่บ้านได้ใช้แหอวนจับปลาที่อยู่ในสระทั้งหมดมากิน ปลาใหญ่ตัวสุดท้ายก็ถูกฆ่ากินด้วย มีเพียงเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่ได้กินเนื้อปลา เพียงแต่เคาะเล่นที่หัวปลาสามที” พระพุทธองค์ตรัสอีกว่า “ปลาใหญ่ในครั้งนั้น ก็คือพระเจ้าวิทูทะภะในปัจจุบัน พวกปลาเล็กคือกองทหารของเขา คนในหมู่บ้านนั้นก็คือ คนเผ่าศากยราซที่ถูกพวกเขาฆ่าในปัจจุบัน เด็กคนที่ไม่ได้กินเนื้อปลาคนนั้นก็คือเรา เพราะครั้งนั้นเราไปเคาะหัวปลาสามที ตอนนี้เราจึงต้องปวดหัวเพราะเรื่องนี้ 3 วัน” ทุกท่านลองคิดดู แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังไม่อาจหลีกเลี่ยงกรรมได้เลย